กฎที่ควรรู้ก่อนลงทุน พลังงานทางเลือกเวียดนาม
สัมภาษณ์
ปัจจุบัน มีเอกชนไทยจำนวนมากให้ความสนใจและเข้าไปลงทุนด้านพลังงานทางเลือกในเวียดนาม ทั้งพลังงานจากลมและพลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และกลุ่มจังหวัดปากแม่นํ้าโขง ซึ่งอยู่ในเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ในขณะที่รัฐบาลเวียดนามออกมาวางกรอบกติกา เงื่อนเวลาในการขอใบอนุญาตผลิตพลังงานทางเลือกที่รัดกุมยิ่งขึ้น
“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ อุรีรัชต์ เจริญโต กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เกี่ยวกับการลงทุนด้านพลังงานทางเลือก และกฎระเบียบใหม่ๆ ของเวียดนามที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเอกชนและผู้ประกอบการไทยที่สนใจ ก่อนที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
[caption id="attachment_371469" align="aligncenter" width="383"]
อุรีรัชต์ เจริญโต[/caption]
3 MW ต้องยื่นขอ ERAV
อุรีรัชต์ กล่าวถึงกฎระเบียบใหม่ๆ และแนวโน้มพัฒนาการด้านพลังงานทางเลือกในเวียดนามว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 กฎกระทรวงหมายเลข 36 (Circular 36/2018/TT-BCT) ของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ได้มีผลบังคับใช้ โดยกำหนดขั้นตอน กรอบระยะเวลา เอกสารประกอบในการขอใบอนุญาตการผลิตไฟฟ้า (Power Generation Licenses) และเงื่อนไขก่อน Commercial Operation Date (COD) ของโรงไฟฟ้าทุกประเภทในเวียดนาม รวมถึงพลังงานทางเลือกด้วย โดยหากโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์(MW) หรือสูงกว่า จะต้องยื่นขออนุญาตผลิตไฟฟ้าที่หน่วยงาน Electricity Regulatory Authority of Vietnam (ERAV) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมฯ
สำหรับกรอบเวลาการดำเนินการนั้น หากโรงไฟฟ้าทั่วไปจะต้องยื่นเอกสารขอใบอนุญาตก่อน COD 15 วันทำการ แต่หากเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้ดำเนินการ 90 วันก่อนวัน COD ที่เสนอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเอกสารแนบท้ายของข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าที่ทำกับการไฟฟ้าเวียดนามหรือ Vietnam Electricity (EVN) และในฐานะ “ผู้ขายพลังงาน” บริษัทจะต้องยื่นร่างขั้นตอนและกระบวนการทดสอบอุปกรณ์และระบบของโรงไฟฟ้า ตลอดจนต้องมีระบบสารสนเทศที่ได้มาตรฐาน และระบบ Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA) ที่สอดคล้องกับกฎหมายของเวียดนามที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
แนะหารือที่ปรึกษาทางก.ม.
ส่วนเอกสารประกอบการขอใบอนุญาต กฎกระทรวงหมายเลข 36 กำหนดให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติม รวมทั้งรายงานผลกระทบในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคงและอื่นๆ ตลอดจนสำเนารายการอุปกรณ์หลักที่ใช้ในโรงไฟฟ้าข้อตกลงให้บริการด้านการจัดการและปฏิบัติการ (O&M Agreement) เป็นต้น ซึ่งกฎกระทรวงหมายเลข 36 นี้ มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ซึ่งอาจรวมถึงข้อยกเว้นบางประการ ขึ้นกับประเภทของพลังงาน ซึ่งผู้ประกอบการควรศึกษาและปรึกษาหารือกับบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายที่เชื่อถือได้เพื่อให้ได้ความชัดเจนในการปฏิบัติ
นอกจากนี้พัฒนาการอื่นๆ เกี่ยวกับพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ จะเป็นเรื่องข้อตกลงการซื้อขายพลังงานทางตรง หรือ Direct Corporate Power Purchase Agreement (DPPA) ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ERAV ได้พิจารณานำ DPPA มาทดลองใช้ในเวียดนาม เฉพาะสำหรับพลังงานทางเลือก ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มการรับซื้อกระแสไฟฟ้าของภูมิภาคและโลก โดยภายใต้ข้อตกลงรูปแบบดังกล่าวผู้ซื้อ (ภาคเอกชน) จะทำสัญญาระยะยาวรับซื้อพลังงานจากผู้ผลิตภาคเอกชนโดยตรง แทนการรับซื้อจากหน่วยงานการไฟฟ้าของภาครัฐ ซึ่งในกรณีของเวียดนามก็คือ EVN และสามารถร่วมลงทุนในการผลิตพลังงานกับเอกชนเองได้ ซึ่งในส่วนนี้เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ อย่างไร และเมื่อไร
แห่ติดตั้งแผงโซลาร์
ในส่วนของนครโฮจิมินห์นั้น ปัจจุบัน มีกระแสความนิยมการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มสูงขึ้น โดยครัวเรือนในนครโฮจิมินห์ได้ติดตั้งแผงโซลาร์กว่า 200 หลังคาเรือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน (ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2561) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเดิมที่ใช้เวลาถึง 3 ปี ในการติดตั้งแผงโซลาร์จำนวน 300 หลังคาเรือน ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กระทรวงการคลัง และ EVN กำลังอยู่ระหว่างการหารือกันในการส่งเสริมการใช้แผงโซลาร์บนหลังคาในครัวเรือน ซึ่งในระยะยาวเมื่อตลาดดังกล่าวมีความชัดเจนและเติบโตขึ้น ก็จะเป็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผงโซลาร์และพลังงานจากแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามการเข้ามาทำธุรกิจ การค้า การลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องศึกษากฎหมายและกฎระเบียบ ตลอดจนติดตามพัฒนาการด้านดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อม และสามารถปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบถ้วน
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,434 วันที่ 10-12 มกราคม 2562
ปัจจุบัน มีเอกชนไทยจำนวนมากให้ความสนใจและเข้าไปลงทุนด้านพลังงานทางเลือกในเวียดนาม ทั้งพลังงานจากลมและพลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และกลุ่มจังหวัดปากแม่นํ้าโขง ซึ่งอยู่ในเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ในขณะที่รัฐบาลเวียดนามออกมาวางกรอบกติกา เงื่อนเวลาในการขอใบอนุญาตผลิตพลังงานทางเลือกที่รัดกุมยิ่งขึ้น
“ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ อุรีรัชต์ เจริญโต กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เกี่ยวกับการลงทุนด้านพลังงานทางเลือก และกฎระเบียบใหม่ๆ ของเวียดนามที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเอกชนและผู้ประกอบการไทยที่สนใจ ก่อนที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
[caption id="attachment_371469" align="aligncenter" width="383"]
3 MW ต้องยื่นขอ ERAV
อุรีรัชต์ กล่าวถึงกฎระเบียบใหม่ๆ และแนวโน้มพัฒนาการด้านพลังงานทางเลือกในเวียดนามว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561 กฎกระทรวงหมายเลข 36 (Circular 36/2018/TT-BCT) ของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ได้มีผลบังคับใช้ โดยกำหนดขั้นตอน กรอบระยะเวลา เอกสารประกอบในการขอใบอนุญาตการผลิตไฟฟ้า (Power Generation Licenses) และเงื่อนไขก่อน Commercial Operation Date (COD) ของโรงไฟฟ้าทุกประเภทในเวียดนาม รวมถึงพลังงานทางเลือกด้วย โดยหากโรงไฟฟ้าดังกล่าวมีกำลังผลิต 3 เมกะวัตต์(MW) หรือสูงกว่า จะต้องยื่นขออนุญาตผลิตไฟฟ้าที่หน่วยงาน Electricity Regulatory Authority of Vietnam (ERAV) ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมฯ
สำหรับกรอบเวลาการดำเนินการนั้น หากโรงไฟฟ้าทั่วไปจะต้องยื่นเอกสารขอใบอนุญาตก่อน COD 15 วันทำการ แต่หากเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ให้ดำเนินการ 90 วันก่อนวัน COD ที่เสนอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเอกสารแนบท้ายของข้อตกลงซื้อขายไฟฟ้าที่ทำกับการไฟฟ้าเวียดนามหรือ Vietnam Electricity (EVN) และในฐานะ “ผู้ขายพลังงาน” บริษัทจะต้องยื่นร่างขั้นตอนและกระบวนการทดสอบอุปกรณ์และระบบของโรงไฟฟ้า ตลอดจนต้องมีระบบสารสนเทศที่ได้มาตรฐาน และระบบ Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA) ที่สอดคล้องกับกฎหมายของเวียดนามที่เกี่ยวข้องอีกด้วย
แนะหารือที่ปรึกษาทางก.ม.
ส่วนเอกสารประกอบการขอใบอนุญาต กฎกระทรวงหมายเลข 36 กำหนดให้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติม รวมทั้งรายงานผลกระทบในด้านต่างๆ รวมทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคงและอื่นๆ ตลอดจนสำเนารายการอุปกรณ์หลักที่ใช้ในโรงไฟฟ้าข้อตกลงให้บริการด้านการจัดการและปฏิบัติการ (O&M Agreement) เป็นต้น ซึ่งกฎกระทรวงหมายเลข 36 นี้ มีรายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ซึ่งอาจรวมถึงข้อยกเว้นบางประการ ขึ้นกับประเภทของพลังงาน ซึ่งผู้ประกอบการควรศึกษาและปรึกษาหารือกับบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายที่เชื่อถือได้เพื่อให้ได้ความชัดเจนในการปฏิบัติ
นอกจากนี้พัฒนาการอื่นๆ เกี่ยวกับพลังงานทางเลือกที่น่าสนใจ จะเป็นเรื่องข้อตกลงการซื้อขายพลังงานทางตรง หรือ Direct Corporate Power Purchase Agreement (DPPA) ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ERAV ได้พิจารณานำ DPPA มาทดลองใช้ในเวียดนาม เฉพาะสำหรับพลังงานทางเลือก ซึ่งก็เป็นไปตามแนวโน้มการรับซื้อกระแสไฟฟ้าของภูมิภาคและโลก โดยภายใต้ข้อตกลงรูปแบบดังกล่าวผู้ซื้อ (ภาคเอกชน) จะทำสัญญาระยะยาวรับซื้อพลังงานจากผู้ผลิตภาคเอกชนโดยตรง แทนการรับซื้อจากหน่วยงานการไฟฟ้าของภาครัฐ ซึ่งในกรณีของเวียดนามก็คือ EVN และสามารถร่วมลงทุนในการผลิตพลังงานกับเอกชนเองได้ ซึ่งในส่วนนี้เป็นประเด็นที่ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีผลบังคับใช้หรือไม่ อย่างไร และเมื่อไร
แห่ติดตั้งแผงโซลาร์
ในส่วนของนครโฮจิมินห์นั้น ปัจจุบัน มีกระแสความนิยมการติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคาเพิ่มสูงขึ้น โดยครัวเรือนในนครโฮจิมินห์ได้ติดตั้งแผงโซลาร์กว่า 200 หลังคาเรือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน (ระหว่างกรกฎาคม-ธันวาคม 2561) ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับเดิมที่ใช้เวลาถึง 3 ปี ในการติดตั้งแผงโซลาร์จำนวน 300 หลังคาเรือน ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กระทรวงการคลัง และ EVN กำลังอยู่ระหว่างการหารือกันในการส่งเสริมการใช้แผงโซลาร์บนหลังคาในครัวเรือน ซึ่งในระยะยาวเมื่อตลาดดังกล่าวมีความชัดเจนและเติบโตขึ้น ก็จะเป็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ประกอบการไทยซึ่งมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับแผงโซลาร์และพลังงานจากแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามการเข้ามาทำธุรกิจ การค้า การลงทุนในเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องศึกษากฎหมายและกฎระเบียบ ตลอดจนติดตามพัฒนาการด้านดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อม และสามารถปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องได้อย่างครบถ้วน
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,434 วันที่ 10-12 มกราคม 2562