ร.ฟ.ท.เปิดรับฟังความเห็นนักลงทุน ร่วมทุนพัฒนาสถานีขอนแก่น108ไร่

07 ม.ค. 2562 | 10:24 น.
ร.ฟ.ท.เปิดรับฟังความเห็นนักลงทุนพัฒนาโครงการพื้นที่บริเวณอาคารบ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการ และสนามกอล์ฟที่สถานีขอนแก่น ขนาดพื้นที่ 108 ไร่รับรถไฟทางคู่ ไฮสปีดเทรนและรางเบา รูปแบบศูนย์แสดงสินค้า สำนักงาน ที่อยู่อาศัย และสวนสนุก พร้อมเร่งขับเคลื่อนโครงการอื่นอีกเพียบ

นายวรวุฒิ มาลา รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณอาคารบ้านพักพนักงาน อาคารที่ทำการ และสนามกอล์ฟที่สถานีขอนแก่น ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556 ว่า โครงการนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดและเป็นการสอบถามนักลงทุนเพื่อศึกษาเรื่องความสนใจ ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 108 ไร่ อยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น ติดกับถนนมิตรภาพและสามารถเชื่อมต่อไปยังจังหวัดหนองคาย และเวียงจันทน์ สปป.ลาว

S__4988938 โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาให้พร้อมรองรับรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้ารางเบา และโครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้จังหวัดขอนแก่นมีความเจริญ คาดการณ์ผู้โดยสารที่ใช้บริการ 28,000-38,000 คนต่อวัน รถไฟฟ้ารางเบาวิ่งในตัวเมืองขอนแก่นระยะทาง 22 กิโลเมตร, โครงการรถไฟความเร็วสูง ไทย-จีน ระยะที่ 2, และโครงการขอนแก่นสมาร์ทซิตี้ ที่เชื่อมโยงกับสถานีขอนแก่นทั้งหมด ขณะที่เบื้องต้นบริษัทที่ปรึกษาตั้งเป้าไว้ว่าจะให้เป็นพื้นที่ ศูนย์แสดงสินค้า อาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัย และสวนสนุกหรือรูปแบบมิกซ์ยูส แต่จะต้องสอบถามความคิดเห็นจากเอกชนก่อนว่ามีความสนใจมากน้อยแค่ไหน และพื้นที่จะสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไร

“โครงการนี้ยังเป็นเพียงแนวคิดและเป็นการสอบถามนักลงทุนเพื่อศึกษาเรื่องความสนใจในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขอนแก่น โดยจะต้องสอบถามความคิดเห็นจากเอกชนว่ามีความสนใจมากน้อยแค่ไหน และพัฒนาต่อได้อย่างไร โดยเบื้องต้นโครงการนี้จะใช้รูปแบบการร่วมทุนรัฐและเอกชน หรือ PPP จากการประเมินราคาที่ดินเกิน1,000 ล้านบาท”

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก นายวรวุฒิกล่าวอีกว่าส่วนแผนนำที่ดินที่ไม่ใช้เพื่อการเดินรถของการรถไฟ (Non-Core) นั้นตั้งเป้าในปีนี้ว่าจะเพิ่มจากเดิม 10% โดยมาจากการเร่งรัดทำสัญญาเช่าโครงการที่ครบกำหนดสัญญา ส่วนธุรกิจหลักหรือ (Core-Business) คาดว่ารายได้จากค่าโดยสารปีนี้อยู่ที่ 3,800 ล้านบาท รายได้จากสินค้าอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท และหากมีศูนย์ขนส่งสินค้าทางรถไฟจะอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน หรือ ทีโอดี หลังจากนี้จะพัฒนาพื้นที่รถไฟชานเมืองสายสีแดงส่วนต่อขยายตลิ่งชัน-ศิริราช / สถานีแม่น้ำ และพื้นที่ กม.11 ขณะที่ในปี 2564-2565 วางแผนจะพัฒนาพื้นที่รัชดาภิเษก ย่านอาร์ซีเอ ต่อเนื่องกันไป

ในส่วนความคืบหน้ารถไฟทางคู่สายอีสาน ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 174 กิโลเมตร งบประมาณ 26,663 ล้านบาท เส้นทางชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 309 กิโลเมตร งบประมาณ 37,527 ล้านบาทและสายใหม่บ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร งบประมาณ 67,965 ล้านบาท ขณะอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) โดยเส้นทางขอนแก่น-หนองคายผ่านการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

S__4988939 ขณะที่นายประเสริฐศึก สายพวรรณ์ รองผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่าโครงการดังกล่าวคาดว่าจะใช้วงเงินมูลค่าลงทุนประมาณ 5,000 -8,000 ล้านบาท โดยอาจจะให้เช่าพื้นที่ระยะเวลา 30-50 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของการรถไฟฯ ซึ่งจะต้องนำข้อมูลจากการรับฟังความคิดเห็นนักลงทุนมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการนักลงทุน และคาดว่าจะสรุปแผนพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเสนอให้ ครม.พิจารณาภายใน 18 เดือน

นอกจากนี้ทางด้านที่ปรึกษาการศึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีขอนแก่น กล่าวว่าโครงการดังกล่าววัตถุประสงค์หลักๆในการประเมินความสนใจการลงทุนของภาคเอกชนในพื้นที่ เปิดโอกาสให้เอกชนสอบถามข้อมูลและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในส่วนของการพัฒนาโครงการเพื่อกำหนดรูปแบบการพัฒนาในอนาคตต่อไป โดยพื้นที่การพัฒนาดังกล่าวจะมีแบ่งการพัฒนาพื้นที่ได้แก่ 1.โซน B พื้นที่จำนวน 16.2 ไร่ โครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณ 2.โซน C,D พื้นที่จำนวน 26.5 ไร่ โรงแรม,ศูนย์ประชุม และแสดงสินค้า 3.โซน E พื้นที่จำนวน 58.6 ไร่ พื้นที่สวนสนุกและพื้นที่สันทนาการ และ4.โซน F พื้นที่จำนวน 8 ไร่ พื้นที่ประเภทกลุ่มอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัยของพนักงานการรถไฟ

ด้านนายชาญณรงค์ บุริสตระกูล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น กล่าวว่า พื้นที่ของร.ฟ.ท.เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจในการลงทุนเพราะอยู่ใจกลางเมือง สามารถสนับสนุนเศรษฐกิจและทิศทางของจังหวัดได้ในอนาคต โดยต้องการให้ร.ฟ.ท. มองเป้าหมายของการพัฒนา ในพื้นที่ดังกล่าวสำหรับรองรับการพัฒนาในกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รองรับทั้งคนในจังหวัด ภูมิภาค และประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้การพัฒนาเดินหน้าได้อย่างตรงจุด

“ปัจจุบันในจังหวัดขอนแก่นมีที่ดินแปลงใหญ่ที่จะพัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือ TOD 3-4 แปลง โดยเฉพาะ 200 ไร่ฝั่งตรงข้ามแปลงของร.ฟ.ท.มีแผนการพัฒนาไว้พร้อมแล้ว ดังนั้นหาก ร.ฟ.ท. ออกแบบร่วมกับเอกชนในการพัฒนาเมือง เพื่อให้แต่ละจุดสนับสนุนเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จะเป็นการพัฒนาที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน”

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า หากร.ฟ.ท.สามารถเปิดพื้นที่โซนติดกับถนนมิตรภาพได้กว้างมากขึ้นจะทำให้ที่ดินแปลงดึงกล่าวมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคงจะต้องเจรจากับภาคเอกชนรูปแบบการพัฒนาร่วมกันจึงจะส่งผลให้ที่ดินทั้งแปลงเอกชนฝั่งตรงข้ามราว 200 ไร่ และแปลงที่ดินของร.ฟ.ท. 108 ไร่สามารถพัฒนารูปแบบศูนย์เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ เนื่องจากมีศูนย์เศรษฐกิจใกล้เคียงแล้วยังมีโรงแรม ศูนย์การค้าเกิดขึ้นโดยรอบแล้วมากมาย 090861-1927-9-335x503-8-335x503-9-2-335x503