NVDR แห่สะสม BDMS 2.8 พันล้านบาท
BDMS เนื้อหอม NVDR ซื้อสะสมสุทธิ 2,825.75 ล้านบาท ส่วน LH ถูกขายสะสมสุทธิ 685.13 ล้านบาท
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงข้อมูลหุ้นเอ็นวีดีอาร์ พบว่ามีการซื้อขายสะสมรอบ 1 เดือน หรือตั้งแต่ช่วงวันที่ 1-31 ธ.ค.61 พบว่า หุ้นที่มีการซื้อสะสมมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 2,825.75 ล้านบาท, 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 2,287.42 ล้านบาท, 3.บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,607.60 ล้านบาท, 4.บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,375.28 ล้านบาท, 5.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,117.77 ล้านบาท
6.บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 754.44 ล้านบาท, 7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 559.70 ล้านบาท, 8.บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 503.57 ล้านบาท, 9.บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 476.82 ล้านบาทและ 10.บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 447.91 ล้านบาท
ขณะที่ หุ้นที่มีการขายสะสมมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) มีมูลค่าการขายสุทธิ 685.13 ล้านบาท, 2.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีมูลค่าการขายสุทธิ 572.71 ล้านบาท, 3.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีมูลค่าการขายสุทธิ 443.37 ล้านบาท, 4.บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 352.10 ล้านบาท, 5.บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีมูลค่าการขายสุทธิ 345.03 ล้านบาท
6.บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) มีมูลค่าการขายสุทธิ 298.62 ล้านบาท, 7.บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 244.15 ล้านบาท, 8.บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) มีมูลค่าการขายสุทธิ 212.87 ล้านบาท, 9.บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) มีมูลค่าการขายสุทธิ 177.19 ล้านบาท และ 10.บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 139.99 ล้านบาท
สำหรับ NVDR ถือเป็นใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย เป็นตราสารที่ออกโดยบริษัทที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดตั้งขึ้น ซึ่งคือบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนโดยอัตโนมัติ วัตถุประสงค์หลัก เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดหลักทรัพย์และเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนชาวต่างประเทศ ที่สนใจลงทุนในบริษัทจดทะเบียนแต่อาจไม่สามารถลงทุนในหลักทรัพย์นั้นได้ เนื่องมาจากการควบคุมสัดส่วนการถือครองหหลักทรัพย์ของคนต่างด้าวที่ระบุไว้ตามกฎหมายไทย
ทั้งนี้ NVDR จึงเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์นั้น ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น เงินปันผล และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน แต่ผู้ถือ NVDR จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน แม้ว่า NVDR จะออกมาเพื่อส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนชาวต่างประเทศ แต่ผู้ลงทุนไทยก็สามารถลงทุนใน NVDR ได้
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงข้อมูลหุ้นเอ็นวีดีอาร์ พบว่ามีการซื้อขายสะสมรอบ 1 เดือน หรือตั้งแต่ช่วงวันที่ 1-31 ธ.ค.61 พบว่า หุ้นที่มีการซื้อสะสมมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 2,825.75 ล้านบาท, 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 2,287.42 ล้านบาท, 3.บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,607.60 ล้านบาท, 4.บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,375.28 ล้านบาท, 5.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 1,117.77 ล้านบาท
6.บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 754.44 ล้านบาท, 7.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 559.70 ล้านบาท, 8.บมจ.โกลว์ พลังงาน (GLOW) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 503.57 ล้านบาท, 9.บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 476.82 ล้านบาทและ 10.บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) มีมูลค่าการซื้อสุทธิ 447.91 ล้านบาท
ขณะที่ หุ้นที่มีการขายสะสมมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่ 1.บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LH) มีมูลค่าการขายสุทธิ 685.13 ล้านบาท, 2.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) มีมูลค่าการขายสุทธิ 572.71 ล้านบาท, 3.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีมูลค่าการขายสุทธิ 443.37 ล้านบาท, 4.บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 352.10 ล้านบาท, 5.บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) มีมูลค่าการขายสุทธิ 345.03 ล้านบาท
6.บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) มีมูลค่าการขายสุทธิ 298.62 ล้านบาท, 7.บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 244.15 ล้านบาท, 8.บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) มีมูลค่าการขายสุทธิ 212.87 ล้านบาท, 9.บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) มีมูลค่าการขายสุทธิ 177.19 ล้านบาท และ 10.บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) มีมูลค่าการขายสุทธิ 139.99 ล้านบาท
ทั้งนี้ NVDR จึงเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจลงทุนในหลักทรัพย์นั้น ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงิน เช่น เงินปันผล และสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน แต่ผู้ถือ NVDR จะไม่มีสิทธิในการออกเสียงในที่ประชุมของบริษัทจดทะเบียน แม้ว่า NVDR จะออกมาเพื่อส่งเสริมการลงทุนของผู้ลงทุนชาวต่างประเทศ แต่ผู้ลงทุนไทยก็สามารถลงทุนใน NVDR ได้
