เทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลในปี 2019 - 2020
| บทความพิเศษ : เทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลในปี 2019 - 2020
|โดย พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
……………….
[caption id="attachment_371042" align="aligncenter" width="396"]
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ[/caption]
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทข.) ได้วิเคราะห์ว่า "ในปี 2019-2020 ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีกำลังส่งอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของโลก รวมทั้งประเทศไทย" ซึ่งการวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยทางด้านเทคโนโลยีหลายสถาบันได้วิเคราะห์สอดคล้องกันว่า เทคโนโลยี 5 เทคโนโลยีที่กำลังส่งอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของโลกอย่างมาก มีดังนี้ คือ
➣ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
AI จะทำให้มนุษย์และเครื่องจักรสามารถเชื่อมโยงกัน จนทำให้เครื่องจักรสามารถศึกษาพฤติกรรมการทำงานของมนุษย์และทำให้เครื่องจักรสามารถเลียนแบบมนุษย์ จนช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้นในรูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดจุดอ่อนของมนุษย์ลง ไม่ว่าจะเป็น ข้อผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ และความไม่แน่นอนในเรื่องความแม่นยำต่าง ๆ จนทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พฤติกรรมที่ AI สามารถเลียนแบบ เปรียบเทียบ และวิเคราะห์ได้ ไม่ใช่เพียงแต่พฤติกรรมด้านการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียง จังหวะการเดิน ใบหน้า และอื่น ๆ จนทำให้ในอนาคต Social Media สามารถที่จะนำเอาเสียงของเราไปประยุกต์กับธุรกิจที่หลากหลาย เช่น Google จะใช้เสียงของพวกเราในการสั่งการเพื่อช่วย Search แทนการใช้ Keywords ไปจนถึงธุรกิจการให้บริการทางการเงินการธนาคาร ก็สามารถที่จะใช้เสียงและใบหน้าของเราเพื่อระบุตัวตนว่าเป็นบัญชีธนาคารของเราหรือไม่ เป็นต้น
➣ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR)
VR และ AR จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจะค่อย ๆ ปรากฎชัดขึ้นภายในทศวรรษนี้ โดย VR หรือ AR จะเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ (Cloud) ด้วยการหน่วงของเวลาที่ต่ำมากจนการเล่นเกมเรียลไทม์อย่างแท้จริง ทำให้มิติของเกม การเรียน และการฝึกอบรมเปลี่ยนแปลงไป หน้ามือเป็นหลังมือ อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจะส่งผลไปยังทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์ การทหาร และการศึกษา เป็นต้น โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G จะส่งผลทำให้ VR และ AR สามารถส่งข้อมูลในรูปแบบสามมิติ (3D) จนทำให้บ้าน หรือ สถานที่พักผ่อนและสถานบันเทิงต่าง ๆ กลายเป็นสถานที่ในการเรียนและการทำงานมากขึ้น และจะทำให้มวลมนุษยชาติสามารถเรียนรู้ ทำงาน และสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดและเวลาใดก็ตาม
➣ บล็อกเชน (Blockchain)
อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมนั้น มีผลต่อการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการให้บริการด้วยความมั่นใจในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล มีการตรวจสอบและบันทึกการทำธุรกรรมที่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักเพื่อให้เกิดการยอมรับในการนำเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้แทนเทคโนโลยีเดิมในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงินการธนาคาร การขนส่ง เป็นต้น โดยปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นที่น่าสนใจ คือ บริษัทที่ทำ Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ได้เริ่มนำเสนอระบบการโหวตด้วยการใช้ App บนสมาร์ทโฟน ซึ่งในปัจจุบันมีหลายประเทศเริ่มทดลองใช้แล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เซียร์ราลีโอน และสวิสแลนด์ เป็นต้น ซึ่งจะมีความลึกซึ้งกว่าที่เห็นกันในวันนี้อย่างมาก จนทำให้แนวคิด "Future Government" ที่อำนาจรัฐจะลดลงและอำนาจประชาชนเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นจริงในทศวรรษจากนี้ไป โดยประชาชนสามารถโหวตคะแนนเสียงโดยตรงผ่านสมาร์ทโฟน
➣ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robots & Automation)
ขณะที่ เส้นทางเดินสู่อุตสาหกรรม 4.0 คือ การทำให้โรงงานอุตสาหกรรมมีการผลิตในรูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานแบบเรียลไทม์ ที่ต้องใช้ระบบเซนเซอร์ (Internet of Things : IoT) ที่ติดอยู่บนตัวหุ่นยนต์เชื่อมต่อกันผ่านระบบคลาวด์ (Cloud Robotics) จะทำให้หุ่นยนต์ในโรงงานเดียวกัน หรือ หุ่นยนต์ที่อยู่คนละโรงงาน สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้ โดยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะเปลี่ยนรูปแบบการผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรมการผลิตอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น โรงงานผลิตสินค้าแบบดั้งเดิมจะถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วภายใน 5 ปีจากนี้ ให้กลายเป็นโรงงานอัตโนมัต และจะเกิดขึ้นในทุก ๆ อุตสาหกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน จนทำให้แรงงานในรูปแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำงานในตำแหน่งงานรูปแบบใหม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ทุกประเทศจึงต้องเร่งให้มีการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถ (Reskill) ของแรงงานอย่างมากในทศวรรษนี้
➣ Mobile 5G
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสื่อสารเคลื่อนที่ 5G (Mobile 5G) กำลังจะเป็นเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดเทคโนโลยีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งเทคโนโลยี 5G ไม่เพียงแต่ทำให้มนุษย์สามารถดาวน์โหลดข้อมูลขนาดมหาศาลได้ด้วยความเร็วสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเท่านั้น แต่มันยังทำให้อุปกรณ์ IoT, Sensor และสิ่งของรอบตัวมนุษย์นับหลายพันล้านหมื่นล้านชิ้นทั่วโลก สามารถเชื่อมโยงกันเองและเชื่อมโยงกับมนุษย์ได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่ง 5G จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์และอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนมาตรฐานการสื่อสารแบบ Vehicle to Anything (V-to-X) ได้อย่างเหลือเชื่อ จนคาดการณ์ว่า ในปี 2035 ความชัดเจนของยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Autonomous Vehicles) จะปรากฏเป็นการทั่วไป และจะนำไปสู่การเกิดเมืองอันชาญฉลาด (Smart Cities) เพราะเนื่องจากสรรพสิ่งต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าด้วยอัตราเร่ง จึงทำให้รูปแบบการทำงานและอาชีพต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบการศึกษาในปัจจุบันกำลังถูกท้าทายและจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตอันใกล้ หากเราไม่เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน เพราะแนวทางและสิ่งที่เราสอนเด็ก ๆ รุ่นใหม่อาจจะไม่สามารถทำให้พวกเขามีความสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรแบบอัตโนมัติและ AI ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับในหลายประเทศที่การเข้าถึงการศึกษายังมีราคาแพง และมาตรฐานการเรียนการสอนที่ไม่ทันโลก อีกทั้งไม่สามารถที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างทั่วถึง ก็จะยิ่งทำให้เทคโนโลยีแทนที่จะช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำของผู้คนได้ ก็อาจจะกลับทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน
|โดย พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
……………….
[caption id="attachment_371042" align="aligncenter" width="396"]
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิทัล อดีตรองประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทข.) ได้วิเคราะห์ว่า "ในปี 2019-2020 ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีกำลังส่งอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของโลก รวมทั้งประเทศไทย" ซึ่งการวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยทางด้านเทคโนโลยีหลายสถาบันได้วิเคราะห์สอดคล้องกันว่า เทคโนโลยี 5 เทคโนโลยีที่กำลังส่งอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของโลกอย่างมาก มีดังนี้ คือ
➣ ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
AI จะทำให้มนุษย์และเครื่องจักรสามารถเชื่อมโยงกัน จนทำให้เครื่องจักรสามารถศึกษาพฤติกรรมการทำงานของมนุษย์และทำให้เครื่องจักรสามารถเลียนแบบมนุษย์ จนช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ดีขึ้นในรูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยลดจุดอ่อนของมนุษย์ลง ไม่ว่าจะเป็น ข้อผิดพลาดที่เกิดจากอารมณ์ และความไม่แน่นอนในเรื่องความแม่นยำต่าง ๆ จนทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก พฤติกรรมที่ AI สามารถเลียนแบบ เปรียบเทียบ และวิเคราะห์ได้ ไม่ใช่เพียงแต่พฤติกรรมด้านการเคลื่อนไหวเท่านั้น แต่ยังเป็นเสียง จังหวะการเดิน ใบหน้า และอื่น ๆ จนทำให้ในอนาคต Social Media สามารถที่จะนำเอาเสียงของเราไปประยุกต์กับธุรกิจที่หลากหลาย เช่น Google จะใช้เสียงของพวกเราในการสั่งการเพื่อช่วย Search แทนการใช้ Keywords ไปจนถึงธุรกิจการให้บริการทางการเงินการธนาคาร ก็สามารถที่จะใช้เสียงและใบหน้าของเราเพื่อระบุตัวตนว่าเป็นบัญชีธนาคารของเราหรือไม่ เป็นต้น
➣ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR)
VR และ AR จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจะค่อย ๆ ปรากฎชัดขึ้นภายในทศวรรษนี้ โดย VR หรือ AR จะเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ (Cloud) ด้วยการหน่วงของเวลาที่ต่ำมากจนการเล่นเกมเรียลไทม์อย่างแท้จริง ทำให้มิติของเกม การเรียน และการฝึกอบรมเปลี่ยนแปลงไป หน้ามือเป็นหลังมือ อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจะส่งผลไปยังทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น การแพทย์ การทหาร และการศึกษา เป็นต้น โดยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G จะส่งผลทำให้ VR และ AR สามารถส่งข้อมูลในรูปแบบสามมิติ (3D) จนทำให้บ้าน หรือ สถานที่พักผ่อนและสถานบันเทิงต่าง ๆ กลายเป็นสถานที่ในการเรียนและการทำงานมากขึ้น และจะทำให้มวลมนุษยชาติสามารถเรียนรู้ ทำงาน และสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดและเวลาใดก็ตาม
➣ บล็อกเชน (Blockchain)
อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมนั้น มีผลต่อการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการให้บริการด้วยความมั่นใจในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล มีการตรวจสอบและบันทึกการทำธุรกรรมที่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยหลักเพื่อให้เกิดการยอมรับในการนำเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้แทนเทคโนโลยีเดิมในหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงินการธนาคาร การขนส่ง เป็นต้น โดยปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นที่น่าสนใจ คือ บริษัทที่ทำ Cryptocurrency และเทคโนโลยี Blockchain ได้เริ่มนำเสนอระบบการโหวตด้วยการใช้ App บนสมาร์ทโฟน ซึ่งในปัจจุบันมีหลายประเทศเริ่มทดลองใช้แล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, เซียร์ราลีโอน และสวิสแลนด์ เป็นต้น ซึ่งจะมีความลึกซึ้งกว่าที่เห็นกันในวันนี้อย่างมาก จนทำให้แนวคิด "Future Government" ที่อำนาจรัฐจะลดลงและอำนาจประชาชนเพิ่มขึ้นตามการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะเกิดขึ้นจริงในทศวรรษจากนี้ไป โดยประชาชนสามารถโหวตคะแนนเสียงโดยตรงผ่านสมาร์ทโฟน
➣ หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ (Robots & Automation)
ขณะที่ เส้นทางเดินสู่อุตสาหกรรม 4.0 คือ การทำให้โรงงานอุตสาหกรรมมีการผลิตในรูปแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะนำไปสู่การทำงานแบบเรียลไทม์ ที่ต้องใช้ระบบเซนเซอร์ (Internet of Things : IoT) ที่ติดอยู่บนตัวหุ่นยนต์เชื่อมต่อกันผ่านระบบคลาวด์ (Cloud Robotics) จะทำให้หุ่นยนต์ในโรงงานเดียวกัน หรือ หุ่นยนต์ที่อยู่คนละโรงงาน สามารถทำงานประสานสอดคล้องกันได้ โดยหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะเปลี่ยนรูปแบบการผลิตสินค้าในภาคอุตสาหกรรมการผลิตอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น โรงงานผลิตสินค้าแบบดั้งเดิมจะถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วภายใน 5 ปีจากนี้ ให้กลายเป็นโรงงานอัตโนมัต และจะเกิดขึ้นในทุก ๆ อุตสาหกรรมในรูปแบบที่แตกต่างกัน จนทำให้แรงงานในรูปแบบดั้งเดิมไม่สามารถทำงานในตำแหน่งงานรูปแบบใหม่ได้อีกต่อไป ดังนั้น ทุกประเทศจึงต้องเร่งให้มีการปรับปรุงพัฒนาขีดความสามารถ (Reskill) ของแรงงานอย่างมากในทศวรรษนี้
➣ Mobile 5G
นอกจากนี้ เทคโนโลยีสื่อสารเคลื่อนที่ 5G (Mobile 5G) กำลังจะเป็นเทคโนโลยีที่ทรงอิทธิพลที่สุดเทคโนโลยีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งเทคโนโลยี 5G ไม่เพียงแต่ทำให้มนุษย์สามารถดาวน์โหลดข้อมูลขนาดมหาศาลได้ด้วยความเร็วสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดเท่านั้น แต่มันยังทำให้อุปกรณ์ IoT, Sensor และสิ่งของรอบตัวมนุษย์นับหลายพันล้านหมื่นล้านชิ้นทั่วโลก สามารถเชื่อมโยงกันเองและเชื่อมโยงกับมนุษย์ได้อย่างเรียลไทม์ ซึ่ง 5G จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์และอุตสาหกรรมยานยนต์ ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนมาตรฐานการสื่อสารแบบ Vehicle to Anything (V-to-X) ได้อย่างเหลือเชื่อ จนคาดการณ์ว่า ในปี 2035 ความชัดเจนของยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง (Autonomous Vehicles) จะปรากฏเป็นการทั่วไป และจะนำไปสู่การเกิดเมืองอันชาญฉลาด (Smart Cities) เพราะเนื่องจากสรรพสิ่งต่าง ๆ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
ดังนั้น เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าด้วยอัตราเร่ง จึงทำให้รูปแบบการทำงานและอาชีพต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบการศึกษาในปัจจุบันกำลังถูกท้าทายและจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคตอันใกล้ หากเราไม่เปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน เพราะแนวทางและสิ่งที่เราสอนเด็ก ๆ รุ่นใหม่อาจจะไม่สามารถทำให้พวกเขามีความสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรแบบอัตโนมัติและ AI ได้ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับในหลายประเทศที่การเข้าถึงการศึกษายังมีราคาแพง และมาตรฐานการเรียนการสอนที่ไม่ทันโลก อีกทั้งไม่สามารถที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างทั่วถึง ก็จะยิ่งทำให้เทคโนโลยีแทนที่จะช่วยในการลดความเหลื่อมล้ำของผู้คนได้ ก็อาจจะกลับทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำสูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้เช่นกัน
