จับตา"นครศรีฯ-ชุมพร-สุราษฎร์"เตือนน้ำป่าท่วมซ้ำ

05 ม.ค. 2562 | 11:09 น.
เปิด 3 จังหวัดเสี่ยง "นครศรีฯ-ชุมพร-สุราษฎร์"หลังพายุสลาย ผวาน้ำป่าท่วมซ้ำ อธิบดีกรมอุตุฯ เตือน!อย่าเพิ่งรีบกลับบ้านขอให้ผ่านวันที่ 8 ม.ค.ไปก่อน ด้านเกษตรฯผนึกกรมรวมใจช่วยเหลือเกษตร-สัตว์ อพยพลดความเสียหาย พร้อมเร่งสำรวจหวังเยียวยาผลกระทบให้เร็วที่สุด

144188 นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าพายุ “ปาบึก” จะสงบแล้วมุ่งหน้าออกจากประเทศไทยลงทะเลแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีพื้นที่เสี่ยง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์และชุมพร อย่าเพิ่งรีบกลับบ้าน ขอให้อยู่ในพื้นที่อพยพไปก่อนในช่วงระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม 2561 เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอาจจะให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลากได้ เพราะยังมีน้ำที่ค้างคาอยู่ในป่า ตามบริเวณภูเขายังลงมาไม่หมดจะไหลลงมาเอ่อท่วมฉับพลันได้ เมื่อพายุออกไปแล้วจะทำให้สถานการ์ภายในประเทศดีขึ้นตามลำดับ มีฝนตกน้อยลง และชาวประมงก็ออกไปทำการประมงได้ปกติ

140676-1 ด้าน นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ”ปาบึก” ทำให้หลายพื้นที่สภาพภูมิอากาศมีความแปรปรวน ฝนตกหนัก เกิดน้ำท่วม อุณหภูมิเริ่มลดลง ซึ่งในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้สัตว์เกิดสภาวะเครียด ภูมิคุ้มกันโรคลดลง ทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาดสัตว์ อาทิเช่น โรคปากและเท้าเปื่อย โรคคอบวมในโค-กระบือ โรคอหิวาต์ในสุกร โรคเพิร์ส ซึ่งมีผลต่อระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ในสุกร และโรคระบาดในสัตว์ปีก
อาทิเช่น โรคนิวคาสเซิล และกาฬโรคเป็ด เป็นต้น กรมปศุสัตว์จึงขอให้เกษตรกรดูแลสัตว์เลี้ยงของตัวเองอย่างใกล้ชิด ให้มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง โดยต้องดูแลในเรื่องการจัดการโรงเรือน หรือคอกสัตว์ที่ดี มีหลังคาป้องกันฝน ลม ละอองฝนได้เป็นอย่างดีมีการจัดเตรียมน้ำสะอาด อาหารสัตว์ วิตามินและเวชภัณฑ์สัตว์ให้พร้อม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพสัตว์ให้แข็งแรง และที่สำคัญต้องพ่นยาฆ่าเชื้อทุกครั้งก่อนเข้าและออกจากบริเวณฟาร์มเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาดดังกล่าวข้างต้นพร้อมทั้งหมั่นสังเกตอาการสัตว์เลี้ยงของตน หรือในพื้นที่ใกล้เคียง

S__3219509
หากพบเห็นสัตว์ป่วยหรือตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ต้องรีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ อาสาปศุสัตว์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทันที หรือที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 “แจ้งการเกิดโรคระบาด” เพื่อเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ จะได้เข้าตรวจสอบ เก็บตัวอย่างส่งตรวจวินิจฉัย ทางห้องปฏิบัติการ ค้นหาสาเหตุของการเกิดโรค และควบคุมโรคให้สงบโดยเร็ว ช่วยลดความเสียหายจากโรคระบาด สำหรับกรณีคอก หรือพื้นที่เลี้ยงสัตว์อยู่ในที่ลุ่มต่ำถูกน้ำท่วม ควรอพยพสัตว์ไว้ที่สูงมีที่หลบฝนสำหรับสัตว์ หรือจุดอพยพสัตว์ใกล้บ้านที่กรมปศุสัตว์จัดเตรียมไว้ S__3219510 อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า กรมปศุสัตว์ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ในพื้นที่ประสบภัยเตรียมอาหารสัตว์ ยาและวิตามินสำหรับสัตว์ ไว้ให้พร้อม รวมถึงได้จัดกำลังเสริมชุดพิเศษหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ให้คำแนะนำดูแลด้านสุขภาพสัตว์ ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ สนับสนุนหญ้าอาหารสัตว์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบาด และเฝ้าระวังการเกิดโรคระบาดสัตว์อย่างเข้มงวด

1537974

ด้านกรมส่งเสริมการเกษตร สรุปสถานการณ์พื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกสถานะวันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 15.30 น. ดังนี้จังหวัดที่ได้รับรายงานผลกระทบ อาทิจังหวัดสงขลา อำเภอสิงหนคร และ อ.สทิงพระ พบนาข้าวที่กำลังจะเก็บเกี่ยวได้รับผลกระทบจำนวน 800 ไร่ เบื้องต้นประสานชลประทานจังหวัด ดำเนินการสูบน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย จังหวัดนครศรีธรรมราช พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ ทั้ง 23 อำเภอ อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย และอาคารสำนักงานเกษตรจังหวัดได้รับความเสียหายจากแรงพายุ

S__32948233 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับรายงาน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ทางการเกษตร ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ส้มโอ และพืชผัก พื้นที่ จำนวน 1,300 ไร่ และมีน้ำทะเลหนุนทำให้ยังมีระดับน้ำขัง อำเภอเวียงสระ มีสวนยางโค่นล้มจากลมกรรโชก ประมาณ 10 รายๆ ละ 10-20 ต้น จังหวัดนราธิวาส อ.บาเจาะ จ. นราธิวาส บ้านพักเจ้าหน้าที่สำนักงานได้รับความเสียหายจากพายุ และต้นยางพาราล้มเสียหายปริมาณจำนวน 5 - 6 ต้น/แปลง เกษตรกรได้รับผลกระทบจำนวน 6 ราย และจังหวัดตรัง ได้รับรายงาน 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ห้วยยอด และ อ.รัษฎา มียางพารา ได้รับผลกระทบ 874 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 275 ไร่ พืชผักอื่นๆ 405 ไร่

srt02 สำหรับแนวทางการแก้ไขทางอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการทุกพื้นที่เตรียมพร้อม และกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคน ออกช่วยเหลือเกษตรกร เบื้องต้นหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายเบื้องต้น พร้อมทั้งให้กำลังใจเกษตรกร ที่เฝ้าระวังและติดตามข่าวสาร อย่างใกล้ชิด แต่ก็ยังมีปัญหาอุปสรรคพื้นที่การเกษตรหลายแห่งยังมีน้ำทะเลหนุนทำให้มีระดับน้ำขัง บางพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้เนื่องจากต้นไม้ล้ S__32948232

เช่นเดียวกับศูนย์อำนวยการและบัญชาการณ์สถานการณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศอบ.กษ.) รายงานสถานการณ์พายุโซนร้อน “ปำบึก ผลกระทบด้านเกษตร ด้านพืช 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรม สงขลา ปัตตานี เกษตรกร 129,073 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 89,969 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 20,406 ไร่ พืชไร่ 4,530 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 65,033 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 1 จังหวัด ได้แก่ จงั หวัดนครศรีธรรมราช เกษตรกร 2,763 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 4,006 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 3,271 ตัว แพะ-แกะ 185 ตัว สัตว์ปีก 550 ตัว 4. ผลกระทบด้ํานกํารเกษตร ด้ํานประมง 1 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช เกษตรกร 5,600 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ 20,800 ไร่ แบ่งเป็น บ่อปลา 11,600 ไร่ บ่อกุ้ง,ปู,หอย และทะเล 9,200 ไร่

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว