พายุ“ปาบึก”ไม่กระทบแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของปตท.สผ.ในอ่าวไทย

04 ม.ค. 2562 | 14:45 น.
พายุโซนร้อน“ปาบึก” ไม่กระทบแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของปตท.สผ.ในอ่าวไทย คาดว่าจะสามารถกลับมาเริ่มผลิตก๊าซฯจากแหล่งบงกชได้ในวันที่ 6 ม.ค.62

-4 ม.ค.62- รายงานข่าวจากบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ.เผยว่า พายุโซนร้อน“ปาบึก” (PABUK) ในบริเวณอ่าวไทย ได้เคลื่อนตัวผ่านแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ. ในอ่าวไทยไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้(4 ม.ค.62) โดยพนักงานและผู้รับเหมาทุกคนปลอดภัย

ทั้งนี้ ปตท.สผ. ได้ส่งพนักงานชุดแรกเข้าสำรวจพื้นที่แท่นผลิตก๊าซฯ บงกช เพื่อตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการผลิตแล้ว ก่อนที่จะส่งพนักงานและผู้รับเหมาที่เหลือทั้งหมดกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่แท่นผลิตก๊าซฯ ต่อไป ในขณะเดียวกันได้เริ่มเคลื่อนย้ายแท่นเจาะและเรือสนับสนุนต่าง ๆ กลับเข้าสู่พื้นที่ปฏิบัติการ โดยคาดว่าจะสามารถกลับมาเริ่มผลิตก๊าซฯจากแหล่งบงกชได้ในวันที่ 6 มกราคม 2562 ในส่วนของแท่นผลิตก๊าซฯ อาทิตย์ ยังคงดำเนินการผลิตก๊าซฯ ได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ

สำหรับผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดังกล่าว ปตท.สผ. ได้จัดเตรียมถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยจะประสานงานผ่านกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 กองทัพเรือ และหน่วยงานราชการในพื้นที่

ปตท.สผ. ขอขอบคุณหน่วยงานราชการ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ได้ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ ซึ่งส่งผลให้การรับมือสถานการณ์ครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก กระทรวงพลังงาน รายงานความคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก (PABUK)ต่อการผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทยว่า พายุได้เคลื่อนตัวผ่านบริเวณแท่นผลิตปิโตรเลียม โดยไม่ได้สร้างความเสียหาย ซึ่งถือว่าผ่านช่วงที่วิกฤตที่สุดต่อการผลิตปิโตรเลียมไปแล้ว และได้ส่งพนักงานเข้าไปสำรวจเพื่อเตรียมการผลิต ส่วนความคืบหน้าการติดตามและบริหารสถานการณ์พลังงานมีรายละเอียด ดังนี้

ด้านการผลิตก๊าซธรรมชาติ การผลิตจากอ่าวไทย พื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA) และจากสหภาพเมียนมา อยู่ที่ระดับประมาณ 2,725 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าระดับการผลิตตามปกติ โดยได้มีการบริหารจัดการด้วยการส่ง LNG เข้าสู่ระบบเพิ่มขึ้นเป็นระดับ 1,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และลดการส่งไปในภาคปิโตรเคมี ทำให้สามารถจัดสรรก๊าซฯ ไปยังภาคไฟฟ้า ภาคอุตสาหกรรมและ NGV ได้ตามแผน และมีปริมาณก๊าซฯ เพียงพอที่จะรองรับสถานการณ์จนกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ บริษัทผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมมีแผนที่จะส่งพนักงานเข้าไปสำรวจสภาพแท่นและความพร้อมของอุปกรณ์ และจะเคลื่อนย้ายพนักงานบางส่วนกลับเข้าไปทำงานนอกชายฝั่งตั้งแต่วันนี้ และมีแผนที่จะเริ่มการผลิตตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม และคาดว่าจะทยอยกลับมาผลิตได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม เป็นต้นไป

ด้านไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินดูแลระบบไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทั้งโรงไฟฟ้า สถานีส่งและระบบส่งไฟฟ้า โดยเฉพาะการเฝ้าระวังระดับน้ำ ที่ท่วมในพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อสถานีส่งไฟฟ้า และมีมาตรการรองรับกรณีระดับน้ำสูงไว้แล้ว

ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม ประชาชนได้รับทราบว่ามีการจัดเตรียมน้ำมันสำรองเพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้ไม่เกิดความตระหนกและกักตุนน้ำมันและก๊าซหุงต้ม รวมถึงผู้ค้าน้ำมันได้มีการจัดส่งน้ำมันอย่างเพียงพอ

ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้จัดเตรียมถุงยังชีพ จำนวน 1,000 ถุง และ กลุ่มบริษัท ปตท. ได้จัดส่งถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ถุง ซึ่งจัดส่งถึงพื้นที่ภาคใต้เรียบร้อยแล้ว และจะจัดส่งเพิ่มเติมอีก 4,000 ชุด ลงไปในพื้นที่อีกภายในวันที่ 5 มกราคม 2562 ต่อไป

 

[caption id="attachment_370103" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]