แนะติด ‘เทเลเมติกส์ - IoT’ ช่วยธุรกิจขนส่งจับพฤติกรรมคนขับลดอุบัติเหตุ-ดูแลรถ

06 ม.ค. 2562 | 05:41 น.
      แนะธุรกิจยานยนต์และโลจิสติกส์ ติดดาบเทคโนโลยี “เทเลเมติกส์-IoT” เชื่อมต่อผ่านระบบคลาวด์ วิเคราะห์บิ๊กดาต้า จับพฤติกรรมคนขับ ชี้ช่วยลดอุบัติเหตุ-บำรุงรักษารถ บริหารจัดการเส้นทาง 

นางสาวปิยวดี หงษ์ภักดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ให้พัฒนาโซลูชันด้านการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ ภายใต้ชื่อ “นอสตร้า โลจิสติกส์” เปิดเผยว่าภาคอุตสาห กรรมยานยนต์และธุรกิจขนส่งเร่งปรับตัวรับเทคโนโลยี โดยนำเอาความอัจฉริยะของระบบเทเล เมติกส์ และอินเตอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง หรือ  IoT สามารถนำมาใช้ประโยชน์สำคัญ 2 ประการคือ  1.ความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์ สิน และ 2.การบำรุงรักษายานยนต์ ชะลอความสึกหรอเครื่องยนต์

โดยพบว่าเทคโนโลยีเทเลเมติกส์และ IoT ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยได้ เพราะ 9 ใน 10 ของการเกิดอุบัติเหตุมีสาเหตุมาจากมนุษย์ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่นชี้ว่า สาเหตุอันดับ 1 ของการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตบนท้องถนนของไทย คือ ขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนด อันดับ 2 ขับรถตัดหน้ากระชั้นชิด และอันดับ 3 ขับรถตามกระชั้นชิด ดังนั้น สิ่งสำคัญลำดับแรกในการป้องกันและลดจำนวนอุบัติเหตุทางถนนคือ การป้องกันพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัยให้แก่ผู้ขับรถ ซึ่ง เทเลเมติกส์ คือ เทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์เพื่อช่วยป้อง กันและแจ้งเตือนให้ผู้ขับรถทราบความเสี่ยงอันตรายในขณะขับรถ สามารถตรวจสอบเมื่อคนขับตาไม่มองถนน มือไม่จับพวงมาลัย สมองไม่มีสติในการควบคุมรถ เพื่อเพิ่มความระมัดระวังหรือเปลี่ยนพฤติกรรมได้ทันเวลา

“เทเลเมติกส์เป็นโซลูชันใหม่ที่ทำหน้าที่เก็บรวบรวม และเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างรถยนต์และผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียวผ่านเทคโนโลยี IoT โดยการเชื่อมต่อและผสมผสานอุปกรณ์หลายชนิดเข้าด้วยกัน ผ่านการสื่อสารบนอินเตอร์ เน็ตและส่งข้อมูลมารวบรวมไว้ยังระบบคลาวด์  ทำให้เกิดการวิเคราะห์ ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data สำหรับการบริหารจัดการในธุรกิจยานยนต์และการขนส่ง ก่อให้เกิดผลดีต่อองค์กรทางธุรกิจ โดยจะเห็นตัวอย่างการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ผ่านเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ เช่น การจัดการความเสี่ยงจากพฤติกรรมการขับรถ (Risk Management) การจัดเส้นทางการเดินรถ (Routing Optimization) การประเมินความเสียหายและการบำรุงรักษารถ (Breakdown and Maintenance Management) เป็นต้น

ในภาพรวมระดับประเทศ หากมีการแบ่งปันข้อมูลต่างๆ ระหว่างภาครัฐและเอกชน สามารถนำเทเลเมติกส์เข้ามาใช้สำหรับวางแผนเส้นทางการจัดส่งสินค้าและการเดินรถ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data จำพวกตำแหน่งรถยนต์ ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ ข้อมูลการขับรถ  และข้อมูลอื่นๆ เช่น การจำกัดความเร็วรถจากป้ายจราจร สัญญาณไฟจราจร รายงานเหตุการณ์บนท้องถนนแบบเรียลไทม์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร และวางแผนเส้นทางการขนส่งที่ดีที่สุดแก่ผู้ประกอบการ ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าแก่ลูกค้าได้ตรงตามเวลาและกำหนดเวลาล่วงหน้าได้อย่างชัดเจน ป้องกันการทุจริตของพนักงานในเรื่องของเวลาการทำงานและระยะทางที่เดินทางจริง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเชื้อเพลิง รวมถึงรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นจากการใช้เชื้อเพลิงที่ลดลง

ด้านการเพิ่มมูลค่าให้แก่ธุรกิจ พบว่าบริษัทผลิตรถยนต์มีการนำเทคโนโลยีเทเลเมติกส์เข้ามาติดตั้งและเชื่อมต่อกับรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่น มาพร้อมกับฟังก์ ชันใหม่ที่ให้ความปลอดภัย ความ สะดวกสบาย และความอุ่นใจด้วยบริการตลอด 24 ชั่วโมง เช่น ค้นหาตำแหน่งรถยนต์ ตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์กรณีถูกโจรกรรม การแจ้งเตือนขณะจอดรถเมื่อเกิดความผิดปกติกับรถยนต์ การนัดหมายเพื่อนำรถเข้าบริการตามระยะ บริการ ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งจากที่กล่าวมาพบว่าเทเลเมติกส์มีความโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย จึงทำให้ธุรกิจด้านอื่นอย่างธุรกิจประกันภัยนำเทเลเมติกส์เข้ามาเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การบริการแก่ลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

หน้า 11 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562

[caption id="attachment_369321" align="aligncenter" width="503"] แนะติด ‘เทเลเมติกส์ - IoT’ ช่วยธุรกิจขนส่งจับพฤติกรรมคนขับลดอุบัติเหตุ-ดูแลรถ  [/caption]