NARAYA สุนทรียภาพสินค้าไทยที่น่าภูมิใจ

07 ม.ค. 2562 | 05:55 น.
Naraya (นารายา) แบรนด์กระเป๋าผ้าสัญชาติไทย ที่ต่างชาติรู้จักกันมากโดยเฉพาะชาวจีน วันนี้นารายาก้าวย่างเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 อย่างภาคภูมิใจด้วยการเปิดตัว Naraya Flagship Store and Tea Room หรือแฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกของไทยที่ไอคอนสยาม นอกจากใหญ่ที่สุดบนพื้นที่ขนาด 1,350 ตร.ม.แล้ว  ยังเป็นการเปิดตัวร้านชาแห่งแรกของนารายาเช่นกัน (Naraya Tea Room)  เพื่อเติมเต็มอรรถรสของการเลือกซื้อสินค้า ตอกย้ำความเป็นไทยด้วยเมนูที่แสดงถึงอัตลักษณ์ รวมทั้งตั้งเป้าขยายโมเดลนี้ในอนาคต ที่สำคัญได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมคอลเลกชันพิเศษ พร้อมแย้มถึงแผนพัฒนารุกตลาดบนแพลตฟอร์มของอี-คอมเมิร์ซจากผู้บริหารหนุ่ม ผู้รับไม้ต่อจากคุณแม่ “พศิน ลาทูรัส” ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด

1

คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด บอกเล่าอย่างเป็นกันเองว่า สำหรับ นารายา แบรนด์นั้น คือ กระเป๋าสัญชาติไทย โดยคนไทย ซึ่งทุกกระบวนการผลิตนั้นได้ใส่ใจอย่างประณีต สร้างสรรค์ บนกรอบพื้นฐานของราคาที่จับต้องได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Luxury Affordable” หรือ “สินค้าดีราคาไม่แพง” ซึ่งนี่คือนิยามที่แท้จริงของนารายา  ในปีนี้ได้เปิดแฟล็กชิพสโตร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนเนื้อที่ 1,350 ตร.ม.บนทำเลสถานที่ที่แสดงออกถึงความเป็นไทยอย่างศูนย์การค้าไอคอนสยาม

NaRaYa Flagship Store (นารายา แฟลกชิพ สโตร์) (1)

“เชื่อว่าทำเลแห่งนี้จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้อย่างครอบคลุม  โดยเฉพาะสาขานี้ได้นำเอาเสน่ห์ความงามของผ้าไหมมาออกแบบใหม่ ในคอลเลกชันสุดพิเศษอย่าง Evangelisa Naraya Silk หรือแบรนด์เสื้อแนวใหม่ที่ผสมผสานความงามแบบโบฮีเมียนเข้าไป  ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของนารายา “Bring a piece of Thailand” ซึ่งไม่เพียงแต่สวมใส่สบายยังแสดงออกถึงความงามและความแตกต่างจากสินค้านารายาในกลุ่มผู้บริโภคเดิม  เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีแนวคิดและชื่นชอบงานศิลปะ ผนวกกับแนวคิดที่สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์การเป็นตัวเองอย่างชัดเจน ด้วยความนุ่มลึกโดยสุนทรียภาพผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมคอลเลกชันนี้ประกอบไปด้วย เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับ ซึ่งยังคงราคาที่สมเหตุสมผลและคุณภาพที่ดีไว้เช่นเคย” คุณวาสนา กล่าวเสริม

นอกจากเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ นารายา ไอคอนสยาม ยังได้เปิดตัวแบรนด์น้องใหม่เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยกับทางร้านอย่าง Naraya Tea Room หรือ ร้านชาจากนารายา ซึ่งนับเป็นสาขาแรกที่พร้อมชูธง จากการได้พูดคุยกับ “คุณพศิน ลาทูรัส” ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ได้เล่าถึงภาพรวมและแนวคิดของการเปิดร้านชาว่า “รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อลูกค้าคนพิเศษโดยเฉพาะ รองรับผู้ที่มาช็อปปิ้งภายในร้านนารายาให้ได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น”

NaRaYa Tea Room (นารายา ทีรูม) (10)

“Naraya Tea Room เลือกนำเสนอเมนูที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เช่น กระทงทองพันชั่ง ขนมปังปิ้งเนยนารายากับสังขยา ข้าวเหนียวมูลมะม่วง ข้าวตังหน้าตั้ง ชามะลิ ชากุหลาบและชาสมุนไพรต่างๆ  เพื่อเปิดประสบการณ์การพักผ่อนอย่างมีสุนทรียะไปกับนารายา  สำหรับสาขานี้รองรับกลุ่มลูกค้าได้ประมาณ 55 ที่นั่ง ภายในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยเฉดสีขาว สีทอง ที่สำคัญมีห้องสำหรับพูดคุยธุรกิจอย่างเป็นส่วนตัวอีกด้วย  โดยนอกจากเป็นสาขาแรกยังเป็นต้นแบบที่ดีในการต่อยอดสู่การสร้างสาขาต่อไป ในอนาคต”

“คุณพศิน” เล่าต่ออีกว่า ตลอด 28 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยปีหน้าตั้งเป้าสร้างการรับรู้ที่ดีในวงกว้างเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุมโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ดีไม่เพียงแต่สาขากว่า 30 แห่งที่เรารุกตลาด ยังมองเห็นถึงความสำคัญของประสบการณ์การช็อปปิ้งใหม่ๆของผู้บริโภคในยุคดิจิตอลบนแพลตฟอร์มของอี-คอมเมิร์ซ จึงเบนเข็มหันมาพัฒนาตลาดออนไลน์อย่างเข้มข้นเช่นกัน ซึ่งในขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้วในกลุ่มประเทศโซนเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง รวมทั้งจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเรา

“สำหรับแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซของนารายาในขณะนี้ได้ขยายไปยัง Alibaba, VIP.com และ Yun G (ยุนจี) รวมทั้ง KARA โซเชียลคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในโลกดิจิตอล ขณะที่ในไทยมีทั้ง  Lazada และ JD Central ที่สำคัญทางนารายาพร้อมเป็นส่วนเติมเต็มในแคมเปญต่างๆ อาทิ 11.11 ของลาซาด้า ที่ยอดขายก็ถล่มทลายเป็นประวัติการณ์ โดยเราตั้งเป้าไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 5-10% สำหรับตลาดไทย ขณะที่ตลาดต่างประเทศมองไว้ 20%”  Mr.George Hartel  COO บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวเสริม

090861-1927-9-335x503-8-335x503-9-2-335x503

ด้านแผนพัฒนาต่อจากนี้ นารายา ยังคงมุ่งมั่นนำเอาผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเข้ามาจัดจำหน่ายในหมวดหมู่ต่างๆ โดยเฉพาะในปีนี้มีความพร้อมที่จะนำเอาผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เข้ามาจัดจำหน่ายคู่กับสินค้าของนารายา โดยทำเป็น Travelling kit ด้านสาขายังคงมองทำเลต่างๆ ทั้งแบบโมเดิร์นเทรดและ Stand Alone ขณะที่ออนไลน์คาดว่าจะรุกเต็มตัว โดยเฉพาะการขยายอี-คอมเมิร์ซไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆ เช่น Amazon สำหรับร้านชานอกจากเติมเต็มการพักผ่อนให้กับผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยในร้านนารายา  ยังเป็นโมเดลในอนาคตสำหรับการสร้างร้านชาและอาหารไทยไปยังตามจุดต่างๆ อีกด้วย

การไม่หยุดนิ่งด้านการพัฒนา  รวมทั้งการสานต่อจากผู้บริหารหนุ่ม ทำให้นารายาในปีหน้าและปีต่อๆ ไป จะมีสีสันและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสุนทรียภาพผ่านสินค้าไทย โดยคนไทยไปยังตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิใจ ซึ่งนับเป็นการก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ที่น่าจับตามอง

หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,433 วันที่ 6 - 9 มกราคม พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว