สัญญาณบวกปีกุน! "สื่อออนไลน์-ร้านอาหาร-คอนซูเมอร์" คึก
จับตาแรงส่ง "เศรษฐกิจ" ปี 2562 นักธุรกิจมั่นใจกลับมาคึกคักจากปัจจัยบวกในประเทศ หลังรัฐบาลฉีดยาแรงกระตุ้นโค้งท้าย ปลุกกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น และการจับจ่าย ดันธุรกิจฟื้นตัว ทั้งกลุ่มสื่อออนไลน์-ออฟไลน์ ร้านอาหาร คอนซูเมอร์
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอยในโค้งท้ายของปี 2561 จะกลับมาคึกคักขึ้นเล็กน้อย จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น การลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางรักษาพยาบาล ค่าเช่าบ้าน ค่าครองชีพ ฯลฯ, ช็อปช่วยชาติ เป็นต้น รวมไปถึงมาตรการในปีหน้า ที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีมาตรการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 5% เพื่อซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านบัตรเดบิต ระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เพื่อเป็นของขวัญวันตรุษจีน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจในปีกุนฟื้นตัว ภาคธุรกิจเดินหน้าลงทุนพร้อมสร้างรายได้อีกครั้ง
โดย นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มองว่า ด้านภาพรวมธุรกิจสื่อทีวี นับจากนี้จะแข่งขันเดือดทะลุจอ ส่วนหนึ่งมาจากเข้าสู่ไฮซีซันที่ธุรกิจต่าง ๆ อัดงบ ทำแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการทีวีแต่ละรายปรับผังเติมคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อเรียกเรตติ้งสร้างฐานผู้ชมเติบโตต่อเนื่อง ขานรับเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะสะพัดมากกว่าปี 2561 ที่เพิ่งผ่านมา
"การที่เศรษฐกิจไทยในเดือนสุดท้ายของปี 2561 ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากได้ปัจจัยบวกภายในประเทศเป็นตัวหนุน เพราะกำลังเข้าสู่เดือน ธ.ค. ตรงกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมไปถึงอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว การลงทุนในภาคอุปโภคบริโภคเข้ามาช่วยกระตุ้นเสริม และการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Projects) ของภาครัฐ ก็ช่วยดันเศรษฐกิจภายในประเทศ ล้วนทำให้ขณะนี้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยตื่นตัว ดันยอดขายพุ่งกระฉูดยิ่งกว่าเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และจะส่งผลต่อไปยังปีหน้า"
เช่นเดียวกับ นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี กล่าวว่า สิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวังในปี 2562 คือ เรื่องของกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น และอัตราดอกเบี้ย เพราะทั้ง 3 สิ่ง ล้วนส่งผลต่อธุรกิจ เห็นได้จากในปีนี้ที่กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวลดลง รถบัสที่เคยเข้ามาในบิ๊กซีสาขาที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว จากเดิม 60 คันต่อวัน ลดลงไป 10-20%
"วันนี้กำลังซื้อต้องดูเป็นรายชั่วโมง เมื่อนักท่องเที่ยวจีนหาย ก็ต้องมองหากลุ่มใหม่ ๆ เช่น อินเดีย ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ การลงทุนก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป โดยในปี 2562 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้"
ขณะที่ นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในปีหน้า ขณะที่ นโยบายการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งจีนและญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ามาตั้งฐานการผลิตในเมืองไทยเป็นจำนวนมากแล้ว ขณะที่ การเติบโตของธุรกิจในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของไทยและในภูมิภาคอาเซียนปีหน้า จะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องตลาด
[caption id="attachment_369605" align="aligncenter" width="503"]
นงนุช บูรณะเศรษฐกุล[/caption]
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในการรุกตลาดเชิงรุก ทั้งในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในปีหน้า เพื่อยํ้าเป้าหมายของโออิชิในช่วง 2 ปีนับจากนี้ ในการเป็นผู้นำสร้างสรรค์อาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนรุ่นใหม่ สู่เป้าหมายปี 2563 คงความเป็น King of Japaniss โดยแผนงานในปีหน้าจะยังคงยํ้าภาพความเป็นผู้นำในตลาด ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิชัน 2020 ของทางเครือฯ ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องของอินโนเวชัน (Innovation) และการส่งออก (Export) รวมไปถึงการซินเนอร์ยีกันระหว่างธุรกิจของบริษัทและในเครือไทยเบฟ คือ หัวใจสำคัญของแผนงานให้เป็นไปตามเป้าหมายในการเป็นเบอร์ 1 ในเมืองไทยต่อเนื่อง และยังหมายรวมถึงการเป็น Some Body ในภูมิภาคอาเซียน
อย่างไรก็ดี แม้การแข่งขันของธุรกิจสื่อประเภทต่าง ๆ จะรุนแรง แต่ธุรกิจสื่อทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ยังต้องพึ่งคอนเทนต์เป็นสำคัญ ดังนั้น ในปี 2562 คอนเทนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจสื่อ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
"ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมสื่อที่มีเกิดขึ้นและดับลง หมุนเวียนกันไป ประกอบกับสื่อที่เกิดขึ้นมากมายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ แม้จะเกิดการแข่งขัน แต่ก็มีโอกาสเสมอ ซึ่งบริษัทเชื่อว่า ทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงยังมีโอกาสสำหรับทุก ๆ ธุรกิจเสมอ โดยเฉพาะธุรกิจผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ยังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะปี 2562 ที่ทุกสื่อต่างมีความต้องการคอนเทนต์เพื่อดึงฐานผู้ชมให้กับช่อง และการตั้งบริษัทใหม่ครั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนสิ่งใหม่ เปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนทัศนคติให้กับอุตสาหกรรม" นางสาวสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท CHANGE 2561 จำกัด บริษัทคอนเทนต์น้องใหม่ แต่มากประสบการณ์ กล่าวยืนยัน
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจ การจับจ่ายใช้สอยในโค้งท้ายของปี 2561 จะกลับมาคึกคักขึ้นเล็กน้อย จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น การลดหย่อนภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับการช่วยเหลือค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทางรักษาพยาบาล ค่าเช่าบ้าน ค่าครองชีพ ฯลฯ, ช็อปช่วยชาติ เป็นต้น รวมไปถึงมาตรการในปีหน้า ที่รัฐบาลได้กำหนดให้มีมาตรการชดเชยคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ในอัตรา 5% เพื่อซื้อสินค้าและชำระเงินผ่านบัตรเดบิต ระหว่างวันที่ 1-15 ก.พ. 2562 เพื่อเป็นของขวัญวันตรุษจีน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจในปีกุนฟื้นตัว ภาคธุรกิจเดินหน้าลงทุนพร้อมสร้างรายได้อีกครั้ง
โดย นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) มองว่า ด้านภาพรวมธุรกิจสื่อทีวี นับจากนี้จะแข่งขันเดือดทะลุจอ ส่วนหนึ่งมาจากเข้าสู่ไฮซีซันที่ธุรกิจต่าง ๆ อัดงบ ทำแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการทีวีแต่ละรายปรับผังเติมคอนเทนต์ใหม่ ๆ เพื่อเรียกเรตติ้งสร้างฐานผู้ชมเติบโตต่อเนื่อง ขานรับเม็ดเงินโฆษณาที่คาดว่าจะสะพัดมากกว่าปี 2561 ที่เพิ่งผ่านมา
"การที่เศรษฐกิจไทยในเดือนสุดท้ายของปี 2561 ที่กลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากได้ปัจจัยบวกภายในประเทศเป็นตัวหนุน เพราะกำลังเข้าสู่เดือน ธ.ค. ตรงกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ รวมไปถึงอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว การลงทุนในภาคอุปโภคบริโภคเข้ามาช่วยกระตุ้นเสริม และการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Mega Projects) ของภาครัฐ ก็ช่วยดันเศรษฐกิจภายในประเทศ ล้วนทำให้ขณะนี้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยตื่นตัว ดันยอดขายพุ่งกระฉูดยิ่งกว่าเมื่อช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และจะส่งผลต่อไปยังปีหน้า"
เช่นเดียวกับ นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีเจซี กล่าวว่า สิ่งที่ยังต้องเฝ้าระวังในปี 2562 คือ เรื่องของกำลังซื้อ ความเชื่อมั่น และอัตราดอกเบี้ย เพราะทั้ง 3 สิ่ง ล้วนส่งผลต่อธุรกิจ เห็นได้จากในปีนี้ที่กำลังซื้อของนักท่องเที่ยวลดลง รถบัสที่เคยเข้ามาในบิ๊กซีสาขาที่เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว จากเดิม 60 คันต่อวัน ลดลงไป 10-20%
"วันนี้กำลังซื้อต้องดูเป็นรายชั่วโมง เมื่อนักท่องเที่ยวจีนหาย ก็ต้องมองหากลุ่มใหม่ ๆ เช่น อินเดีย ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ขณะที่ การลงทุนก็ยังต้องเดินหน้าต่อไป โดยในปี 2562 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ตํ่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีนี้"
ขณะที่ นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกมาจากการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในปีหน้า ขณะที่ นโยบายการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนชาวต่างชาติ ทั้งจีนและญี่ปุ่น ที่เริ่มเข้ามาตั้งฐานการผลิตในเมืองไทยเป็นจำนวนมากแล้ว ขณะที่ การเติบโตของธุรกิจในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มของไทยและในภูมิภาคอาเซียนปีหน้า จะยังมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในท้องตลาด
[caption id="attachment_369605" align="aligncenter" width="503"]
ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมในการรุกตลาดเชิงรุก ทั้งในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในปีหน้า เพื่อยํ้าเป้าหมายของโออิชิในช่วง 2 ปีนับจากนี้ ในการเป็นผู้นำสร้างสรรค์อาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนรุ่นใหม่ สู่เป้าหมายปี 2563 คงความเป็น King of Japaniss โดยแผนงานในปีหน้าจะยังคงยํ้าภาพความเป็นผู้นำในตลาด ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิชัน 2020 ของทางเครือฯ ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องของอินโนเวชัน (Innovation) และการส่งออก (Export) รวมไปถึงการซินเนอร์ยีกันระหว่างธุรกิจของบริษัทและในเครือไทยเบฟ คือ หัวใจสำคัญของแผนงานให้เป็นไปตามเป้าหมายในการเป็นเบอร์ 1 ในเมืองไทยต่อเนื่อง และยังหมายรวมถึงการเป็น Some Body ในภูมิภาคอาเซียน
อย่างไรก็ดี แม้การแข่งขันของธุรกิจสื่อประเภทต่าง ๆ จะรุนแรง แต่ธุรกิจสื่อทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ยังต้องพึ่งคอนเทนต์เป็นสำคัญ ดังนั้น ในปี 2562 คอนเทนต์จึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจสื่อ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
"ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมสื่อที่มีเกิดขึ้นและดับลง หมุนเวียนกันไป ประกอบกับสื่อที่เกิดขึ้นมากมายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ แม้จะเกิดการแข่งขัน แต่ก็มีโอกาสเสมอ ซึ่งบริษัทเชื่อว่า ทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงยังมีโอกาสสำหรับทุก ๆ ธุรกิจเสมอ โดยเฉพาะธุรกิจผู้ผลิตคอนเทนต์ที่ยังมีโอกาสอีกมาก โดยเฉพาะปี 2562 ที่ทุกสื่อต่างมีความต้องการคอนเทนต์เพื่อดึงฐานผู้ชมให้กับช่อง และการตั้งบริษัทใหม่ครั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนสิ่งใหม่ เปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนทัศนคติให้กับอุตสาหกรรม" นางสาวสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท CHANGE 2561 จำกัด บริษัทคอนเทนต์น้องใหม่ แต่มากประสบการณ์ กล่าวยืนยัน
หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562
