บิสิเนส แบ็กสเตจ : สารพัดพิษ "ธุรกิจครอบครัว"
| คอลัมน์ : บิสิเนส แบ็กสเตจ
| เรื่อง : สารพัดพิษ "ธุรกิจครอบครัว"
| โดย ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ([email protected])
……………….
สำหรับ "ธุรกิจครอบครัว" แล้ว เมื่อใดก็ตามที่มีปัญหา คนเหล่านี้จะเหมือนมีพลังพิเศษที่สามารถทำให้ตนเองแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยโอกาสที่ไม่เหมือนใคร แต่แม้จะมีอนาคตที่สดใสในตลาดโลกจากผลการวิจัยมากมาย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยโครงสร้างและรูปแบบองค์กรที่ไม่เหมือนธุรกิจทั่วไป ทำให้ธุรกิจครอบครัวประสบกับปัญหาและอุปสรรคที่มีลักษณะเฉพาะอยู่เสมอ Steve Legler ได้ชี้ให้เห็นอุปสรรค 5 ประการที่เปรียบเสมือนพิษร้ายที่ทำลายธุรกิจครอบครัวได้ ดังต่อไปนี้
1.มโนไปเอง บางครอบครัวไม่ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร แบ่งปันข้อมูลข่าวสารกัน เพราะคิดไปเองว่า ทุกคนในครอบครัวรู้อยู่แล้ว ว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ และยิ่งไปกว่านั้นยังเชื่อว่า ทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันกับตนเองอีกด้วย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไร้เหตุผลและซ่อนความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงเอาไว้
2.ไม่รู้เวลา สมาชิกครอบครัวในรุ่นต่าง ๆ ปกติจะมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องของ "เวลา" การเพิกเฉยในสิ่งที่สำคัญ อย่างเช่น การที่ผู้อาวุโสมักจะแขวนตัวเองอยู่ในตำแหน่งนานเกินไป เพราะเชื่อว่า "เด็ก ๆ ยังไม่พร้อม" ดังนั้น การเริ่มต้นเรื่องสำคัญแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่าปล่อยให้เนิ่นช้าอย่างแน่นอน
3.โลกแคบ ธุรกิจครอบครัวนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาสิ่งต่าง ๆ ไว้ใกล้ตัวและไม่ไว้ใจคนนอก พวกเขาเชื่ออย่างผิด ๆ ว่า คนอื่นเข้ามาหาผลประโยชน์จากธุรกิจครอบครัวของตน มักไม่เชื่อใจคนที่นามสกุลที่แตกต่างจากตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดึงดูดและรักษาพนักงานที่ดีและที่ปรึกษาที่มีคุณภาพเอาไว้
4.ชิงดีชิงเด่น ในธุรกิจครอบครัวที่ความสัมพันธ์ของพี่น้อง มักมีเรื่องของความอิจฉาปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การขาดความสามัคคีในหมู่พี่น้องยังอาจมาจากใครสักคนที่วาง ตนเหนือผู้อื่นตลอดเวลา เมื่อพี่น้องคนใด คนหนึ่งมีสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจเหนือพี่น้องคนอื่น ๆ ก็อาจสร้างปัญหาได้ อย่างไรก็ ตามผู้นำพี่น้องที่ถ่อมตนจะเผชิญกับปัญหานี้น้อยกว่าคนที่โอ้อวดสถานะของตนต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
5.ถอยหลังเข้าคลอง เมื่อถึงเวลาหนึ่งเจ้าของธุรกิจครอบครัว อาจมีความพึงพอใจในสถานะของธุรกิจแล้วและสร้างนวัตกรรมได้ไม่รวดเร็วพอ การไม่ออกหน้ามาเคลื่อนไหว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอาจกลายเป็นปัญหาได้ สมาชิกในครอบครัวที่อายุน้อยมักรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่สามารถโน้มน้าวใจผู้นำ ปัจจุบัน ให้ทำการเปลี่ยนแปลงได้เร็วพอ ทำให้ธุรกิจชะงักงัน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาทั้ง 5 ประการในข้างต้น Steve Legler ได้แนะนำแนวทางแก้เอาไว้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ เปิดเผย และจริงใจ เป็นยาแก้พิษที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาเหล่านี้ ดังนั้น ธุรกิจครอบครัวที่มุ่งหวังจะเอาตัวรอด และเติบโตต่อไปในอนาคตก็จำเป็นต้องหาทางออกที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพที่สุดให้กับตนเอง ขอเพียงพึงระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาทุกอย่างล้วนมีทางออกเสมอ ความรัก และความกลมเกลียวในครอบครัวจะสามารถทำให้ทุกอย่าง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562
| เรื่อง : สารพัดพิษ "ธุรกิจครอบครัว"
| โดย ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ([email protected])
……………….
สำหรับ "ธุรกิจครอบครัว" แล้ว เมื่อใดก็ตามที่มีปัญหา คนเหล่านี้จะเหมือนมีพลังพิเศษที่สามารถทำให้ตนเองแข็งแกร่งและเต็มไปด้วยโอกาสที่ไม่เหมือนใคร แต่แม้จะมีอนาคตที่สดใสในตลาดโลกจากผลการวิจัยมากมาย ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยโครงสร้างและรูปแบบองค์กรที่ไม่เหมือนธุรกิจทั่วไป ทำให้ธุรกิจครอบครัวประสบกับปัญหาและอุปสรรคที่มีลักษณะเฉพาะอยู่เสมอ Steve Legler ได้ชี้ให้เห็นอุปสรรค 5 ประการที่เปรียบเสมือนพิษร้ายที่ทำลายธุรกิจครอบครัวได้ ดังต่อไปนี้
1.มโนไปเอง บางครอบครัวไม่ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร แบ่งปันข้อมูลข่าวสารกัน เพราะคิดไปเองว่า ทุกคนในครอบครัวรู้อยู่แล้ว ว่า พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ และยิ่งไปกว่านั้นยังเชื่อว่า ทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันกับตนเองอีกด้วย ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไร้เหตุผลและซ่อนความเข้าใจผิดที่ร้ายแรงเอาไว้
2.ไม่รู้เวลา สมาชิกครอบครัวในรุ่นต่าง ๆ ปกติจะมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องของ "เวลา" การเพิกเฉยในสิ่งที่สำคัญ อย่างเช่น การที่ผู้อาวุโสมักจะแขวนตัวเองอยู่ในตำแหน่งนานเกินไป เพราะเชื่อว่า "เด็ก ๆ ยังไม่พร้อม" ดังนั้น การเริ่มต้นเรื่องสำคัญแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่าปล่อยให้เนิ่นช้าอย่างแน่นอน
3.โลกแคบ ธุรกิจครอบครัวนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาสิ่งต่าง ๆ ไว้ใกล้ตัวและไม่ไว้ใจคนนอก พวกเขาเชื่ออย่างผิด ๆ ว่า คนอื่นเข้ามาหาผลประโยชน์จากธุรกิจครอบครัวของตน มักไม่เชื่อใจคนที่นามสกุลที่แตกต่างจากตน ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อการดึงดูดและรักษาพนักงานที่ดีและที่ปรึกษาที่มีคุณภาพเอาไว้
4.ชิงดีชิงเด่น ในธุรกิจครอบครัวที่ความสัมพันธ์ของพี่น้อง มักมีเรื่องของความอิจฉาปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ การขาดความสามัคคีในหมู่พี่น้องยังอาจมาจากใครสักคนที่วาง ตนเหนือผู้อื่นตลอดเวลา เมื่อพี่น้องคนใด คนหนึ่งมีสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจเหนือพี่น้องคนอื่น ๆ ก็อาจสร้างปัญหาได้ อย่างไรก็ ตามผู้นำพี่น้องที่ถ่อมตนจะเผชิญกับปัญหานี้น้อยกว่าคนที่โอ้อวดสถานะของตนต่อผู้อื่นอยู่เสมอ
5.ถอยหลังเข้าคลอง เมื่อถึงเวลาหนึ่งเจ้าของธุรกิจครอบครัว อาจมีความพึงพอใจในสถานะของธุรกิจแล้วและสร้างนวัตกรรมได้ไม่รวดเร็วพอ การไม่ออกหน้ามาเคลื่อนไหว เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอาจกลายเป็นปัญหาได้ สมาชิกในครอบครัวที่อายุน้อยมักรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่สามารถโน้มน้าวใจผู้นำ ปัจจุบัน ให้ทำการเปลี่ยนแปลงได้เร็วพอ ทำให้ธุรกิจชะงักงัน
อย่างไรก็ตาม จากปัญหาทั้ง 5 ประการในข้างต้น Steve Legler ได้แนะนำแนวทางแก้เอาไว้สั้น ๆ ง่าย ๆ ว่า การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอ เปิดเผย และจริงใจ เป็นยาแก้พิษที่ดีที่สุดสำหรับปัญหาเหล่านี้ ดังนั้น ธุรกิจครอบครัวที่มุ่งหวังจะเอาตัวรอด และเติบโตต่อไปในอนาคตก็จำเป็นต้องหาทางออกที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพที่สุดให้กับตนเอง ขอเพียงพึงระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาทุกอย่างล้วนมีทางออกเสมอ ความรัก และความกลมเกลียวในครอบครัวจะสามารถทำให้ทุกอย่าง ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,433 ระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2562
