เกาะติดพายุ 'ปาบึก' นักท่องเที่ยวเฮโลหนีขึ้นฝั่ง

03 ม.ค. 2562 | 09:28 น.
'วีระศักดิ์' สั่งท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภาคใต้ แจ้งเตือน-เฝ้าระวัง ดูแลนักท่องเที่ยวรับมือพายุปาบึก เผย ทัวริสต์เฮโลทยอยออกจากเกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุยเพียบ ทั้งทางอากาศและทางเรือ ด้านแอร์ไลน์เปลี่ยนเครื่องบินขนาดใหญ่รองรับ ทั้งแจ้งให้ตรวจสอบสถานะเที่ยวบินก่อนเดินทาง ด้านกรมท่าอากาศยานสั่ง 7 สนามบิน เตรียมแผนฉุกเฉินรับมือพายุปาบึก

 

489579
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า จากกรณีพายุ 'ปาบึก' ที่จะเคลื่อนผ่านแหลมญวนและเคลื่อนลงอ่าวไทย ในช่วงวันที่ 2-3 ม.ค. 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค. 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

619287613

โดยในช่วงวันที่ 3-4 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ม.ค. 2562 จะมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล และคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

118187

ดังนั้นกระทรวงการท่องเที่ยวจึงได้ออกประกาศ แจ้งเตือนพายุ ปาบึก เพื่อเน้นย้ำการปฏิบัติของท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ให้ดำเนินการใน 3 เรื่อง ได้แก่
1. แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว เพื่อให้คอยติดตามข้อมูลสภาพอากาศ สภาพท่าน้ำ จากทางราชการ ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือ ให้เตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้เพียงพอและตรวจสอบความพร้อมก่อนออกเรือ โดยยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับนักท่องเที่ยวที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายและผลกระทบจากคลื่นลมแรง
2.เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อนักท่องเที่ยวที่เล่นน้ำหรือนักท่องเที่ยวโดยสารทางเรือ ให้ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นลมแรง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง โดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
3.ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย อำเภอ องค์กรปครองส่วนท้องถิ่น หน่วยสร้างทาง หน่วยงานชลประทาน หน่วยทหาร อาสาสมัครองค์กร การกุศล เป็นต้น เพื่อบูรณาการอย่างสอดคล้องตามแผนเผชิญเหตุ เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย และกำลังเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

 

S__3260443

S__3530844

● นักท่องเที่ยวหนีขึ้นฝั่ง

ทั้งนี้ จากรายงานสถานการณ์เบื้องต้นหลังจากมีการแจ้งเตือนพายุปาบึกอย่างต่อเนื่องของ จ. "สุราษฎร์ธานี" ณ วันที่ 3 ม.ค. 2562 นักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังทยอยออกจาก เกาะเต่า เกาะพะงัน และเกาะสมุย และคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางออกจากเกาะอย่างต่อเนื่องทั้งวัน ซึ่งสนามบินเกาะสมุยยังให้บริการเที่ยวบินตามปกติ จำนวนผู้ใช้บริการสนามบินสมุยทางขาออกมีจำนวนหนาแน่น ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เนื่องจากเที่ยวบินขาออกปกติก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนเยอะอยู่พอสมควร บวกกับนักท่องเที่ยวที่มาเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินกลับก่อนกำหนด ส่วนขาเข้ามีจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปกติ

S__20930602

S__20930604

S__3530849

นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานจากท่องเที่ยวและกีฬา จ.ตรัง หรือ ทกจ. ว่า เมื่อพายุเข้าได้มีประกาศเตือนให้เรืองดออกจากฝั่ง แต่มีเรือ 2 ลำ ของ บริษัท จารวี ทัวร์ และลิบง การท่องเที่ยวได้ออกจากท่าเรือไป เนื่องจากยังไม่มีคลื่นลมแรงหรือฝนตก แต่ขณะนี้ ทกจ. ประสานกับบริษัทเรือนำเที่ยวให้นำนักท่องเที่ยวกลับยังฝั่งแล้ว

S__29196342

 

● 7 สนามบิน เตรียมแผนฉุกเฉิน

นางอัมพวัน วรรณโก อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ท่าอากาศยานในสังกัด 7 สนามบิน ในภาคใต้ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ท่าอากาศยานชุมพร ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานตรัง และท่าอากาศยานนราธิวาส เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์พายุใต้ฝุ่นที่จะพัดเข้าประเทศไทย ในระหว่างวันที่ 3-6 ม.ค. 2562

โดยเบื้องต้น ได้เตรียมมาตรการรองรับ ดังนี้ 1.กรมท่าอากาศยานดำเนินการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการกลาง กรมท่าอากาศยาน เพื่อติดตามสถานการณ์พายุปาบึก ณ กรมท่าอากาศยาน 2.ท่าอากาศยานทางภาคใต้ติดตามข่าวอากาศและรายงานให้ส่วนกลางทราบเป็นระยะ 3.หากมีผลกระทบต่อเที่ยวบินที่จะทำการขึ้นลงจะหารือกับสายการบินนั้น ๆ เพื่อปรับเที่ยวบินหรือยกเลิกตามความเหมาะสม 4.ประสานงานกับพื้นที่ที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น รถยกสูงหรือเรือลำเลียงพร้อมที่จะลำเลียงออกนอกพื้นที่ 5.กรณีที่ไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้ จะปรับพื้นที่อาคารให้เป็นที่รองรับเพื่อพักอาศัยชั่วคราว โดยประสานกับจังหวัดเพื่อเตรียมเสบียงรองรับ 6.ประสานงานกับป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยอย่างใกล้ชิดเพื่อพร้อมที่จะช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

7.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ท่าอากาศยานระนอง ท่าอากาศยานตรัง ท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานนราธิวาส ได้ออกประกาศขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน "ห้ามจอดรถค้างคืน" บริเวณลานจอดรถ เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน 8.ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี ได้ออกประกาศให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน เคลื่อนย้ายรถยนต์ออกจากลานจอดและห้ามจอดรถในทุกกรณี เพื่อความปลอดภัยในทรัพย์สิน

S__18473144

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อีกทั้งกรมท่าอากาศยานจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการกลางที่ชั้น 2 อาคารศูนย์เทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์พายุปาบึก เชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างกรมท่าอากาศยานกรุงเทพกับท่าอากาศยานในภาคใต้ โดยแต่งตั้ง นายวิทวัส ภักดีสันติสกุล รองอธิบดีฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ร่วมกับผู้บริหารส่วนกลางสนับสนุนข้อมูลและประสานงานกับท่าอากาศยานภาคใต้ ซึ่งได้มอบหมาย นายจรุณ มีสมบูรณ์ รองอธิบดีด้านมาตรฐาน บัญชาการในพื้นที่ ณ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี เพื่อประสานงานและสนับสนุนการปฏิบัติงานของท่าอากาศยานภาคใต้ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ

S__18473145

● 'ไลออนแอร์' เปลี่ยนใช้เครื่องใหญ่

นางอัมพวัน ยังกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ล่าสุดในวันที่ 3 ม.ค. 2562 ณ เวลา 15.00 น. ทุกท่าอากาศยาน อากาศยานยังคงขึ้นลงได้ตามปกติ ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีเที่ยวบินเต็ม และสายการบินไลออนแอร์จะเปลี่ยนแบบอากาศยานให้ใหญ่ขึ้น เป็น A330 ความจุ 390 ที่นั่ง เพื่อรับขนผู้โดยสารที่เดินทางจากเกาะต่าง ๆ ที่มารอขึ้นเครื่องจากท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานีออกไปให้มากที่สุด

143723 โปรโมทแทรกอีบุ๊ก