SCBS มองดัชนีหุ้นไทยทะยานตั้งแต่ Q1 แรงหนุน"กำไรบจ.-ศก.- ฟันด์โฟล"
SCBS มอง SET Index ทะยานตั้งแต่ไตรมาสแรก. แรงขับเคลื่อนจากในประเทศ เศรษฐกิจ กำไรบจ.โต11% และเลือกตั้ง ขณะที่ป้จจัยกดดันจากตปท.เริ่มคลี่คลาย เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย กระแสลงทุนเปลี่ยนทิศ มาทางตลาดเกิดใหม่ มั่นใจ 2 เดือนแรก ดัชนีหุ้นขานรับแตะ1700. จุด
[caption id="attachment_369201" align="aligncenter" width="503"]
นายพรเทพ ชูพันธุ์[/caption]
นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวถึงการลงทุนในปี 2562 ว่าการขับเคลื่อนยังมาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก จากการเติบโตเศรษฐกิจ. โดยรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 4.0% ต่อเนื่องจากปี2561 ที่ขยายตัว 4.2% กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดย SCBS คาดปีนี้จะโต 11% จากปี 2561 ที่โต 7% และอานิสงค์จากการเลือกตั้ง
ส่วนปัจจัยต่างประเทศหลักๆ ที่เคยกังวลตั้งแต่ปีที่แล้วเริ่มคลี่คลาย ทั้งเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ - จีน จะมีความชัดเจนขึ้นหลังการเจรจาระหว่างวันที่ 7 - 11 มกราคมนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่เคยโดดเด่นปี 2561ลดความร้อนแรงลง และความเสี่ยงฟองสบู่ลดลง
นอกจากนี้เฟดยังส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยจากปีที่แล้วที่ปรับขึ้น 4 ครั้งรวม 1% แต่ปีนี้มีแนวโน้มจะเหลือเพียง 2 ครั้ง ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว ขณะที่ยุโรป มติเลือกแนวทาง Brexit คาดจะมีความชัดเจนขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวทำให้กระแสลงทุน (fund flow)เปลี่ยนทิศมาสนใจตลาดเกิดใหม่ ( EM )แทน รวมถึงตลาดหุ้นไทย
SCBS คาดดัชนีหุ้นไทยในช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.- ก.พ.) มีโอกาสปรับขึ้นมาอยู่ระดับ1700 จุด และภายในครึ่งปีอยู่ที่ 1850 จุดได้ จากอานิสงค์ของการเลือกตั้งนโยบายของพรรคการเมืองที่กระตุ้นในเรื่องการใช้จ่ายในประเทศ
"SCBS มองว่าตลาดหุ้นไทยจะทะยานตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ จากสถิติดัชนีหุ้นก่อนการเลือกตั้งช่วง 2เดือนแรก จะปรับขึ้นเดือนละ 1%ถึง 2% ขณะที่Valuation หุ้นไทยถือว่าค่อนข้างถูก. จาก P/E ต้นปีที่แล้วอยู่ที่ 16 เท่า. ปลายปี 2561 อยูที่ 13 เท่า และใน best case (ไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ การเจรจาการค้าสหรัฐ - จีนลงตัว ) คาดว่า SET Index สิ้นปีนี้ยังมีโอกาสแตะ 2000 จุด อิง fwd P/E ที่ 15.5 เท่า"
นายพรเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนเลือกตั้ง ว่าขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เลื่อนออกไป ถ้าเลื่อนออกไปไม่มาก ก็ไม่น่าจะกระทบ อย่างไรก็ดีด้วยกำไรของตลาดที่ยังโตเฉลี่ย 10% ทำให้ sentiment การลงทุนยังเป็นบวก
กลยุทธ์ลงทุน หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มสดใสในไตรมาสแรกปีนี้ SCBS แนะเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ได้อานิสงค์จากวัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ (กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม) แนะเป็นหุ้น WHA และ ROJNA , วัฏจักรของดอกเบี้ยขาขึ้น (กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ) เลือก BBL และ KTB และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรราคาเกษตร เลือก TU และ CPF
[caption id="attachment_369201" align="aligncenter" width="503"]
นายพรเทพ ชูพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวถึงการลงทุนในปี 2562 ว่าการขับเคลื่อนยังมาจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก จากการเติบโตเศรษฐกิจ. โดยรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 4.0% ต่อเนื่องจากปี2561 ที่ขยายตัว 4.2% กำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดย SCBS คาดปีนี้จะโต 11% จากปี 2561 ที่โต 7% และอานิสงค์จากการเลือกตั้ง
ส่วนปัจจัยต่างประเทศหลักๆ ที่เคยกังวลตั้งแต่ปีที่แล้วเริ่มคลี่คลาย ทั้งเรื่องสงครามการค้าสหรัฐ - จีน จะมีความชัดเจนขึ้นหลังการเจรจาระหว่างวันที่ 7 - 11 มกราคมนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่เคยโดดเด่นปี 2561ลดความร้อนแรงลง และความเสี่ยงฟองสบู่ลดลง
นอกจากนี้เฟดยังส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ยจากปีที่แล้วที่ปรับขึ้น 4 ครั้งรวม 1% แต่ปีนี้มีแนวโน้มจะเหลือเพียง 2 ครั้ง ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัว ขณะที่ยุโรป มติเลือกแนวทาง Brexit คาดจะมีความชัดเจนขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวทำให้กระแสลงทุน (fund flow)เปลี่ยนทิศมาสนใจตลาดเกิดใหม่ ( EM )แทน รวมถึงตลาดหุ้นไทย
"SCBS มองว่าตลาดหุ้นไทยจะทะยานตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้ จากสถิติดัชนีหุ้นก่อนการเลือกตั้งช่วง 2เดือนแรก จะปรับขึ้นเดือนละ 1%ถึง 2% ขณะที่Valuation หุ้นไทยถือว่าค่อนข้างถูก. จาก P/E ต้นปีที่แล้วอยู่ที่ 16 เท่า. ปลายปี 2561 อยูที่ 13 เท่า และใน best case (ไม่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ การเจรจาการค้าสหรัฐ - จีนลงตัว ) คาดว่า SET Index สิ้นปีนี้ยังมีโอกาสแตะ 2000 จุด อิง fwd P/E ที่ 15.5 เท่า"
นายพรเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนเลือกตั้ง ว่าขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เลื่อนออกไป ถ้าเลื่อนออกไปไม่มาก ก็ไม่น่าจะกระทบ อย่างไรก็ดีด้วยกำไรของตลาดที่ยังโตเฉลี่ย 10% ทำให้ sentiment การลงทุนยังเป็นบวก
กลยุทธ์ลงทุน หุ้นกลุ่มที่มีแนวโน้มสดใสในไตรมาสแรกปีนี้ SCBS แนะเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ได้อานิสงค์จากวัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ (กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม) แนะเป็นหุ้น WHA และ ROJNA , วัฏจักรของดอกเบี้ยขาขึ้น (กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ) เลือก BBL และ KTB และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากวัฏจักรราคาเกษตร เลือก TU และ CPF
