กฎเหล็ก กกต. คุมเข้ม "ห้าม" ใส่ซองงานบุญ

03 ม.ค. 2562 | 06:23 น.
กกต. ออกกฎเหล็กคุมเข้มหาเสียงเลือกตั้ง "ห้าม" ช่วยเงินซองงานบุญตามประเพณี ดึงสถาบันฯ ใช้ถ้อยคำรุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม และใช้นักแสดง นักดนตรี พิธีกร เจ้าของสื่อช่วยหาเสียงเอื้อประโยชน์ไม่ได้ ใช้รถ-เวทีหาเสียง ทำได้คิดเป็นค่าใช้จ่าย ขึ้นป้ายรูปผู้สมัครคู่ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ-สมาชิกพรรคเท่านั้น ไฟเขียว! หาเสียงโซเชียลมีเดียได้ทุกช่องทาง

วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. 2561 แล้ว โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สาระสำคัญของระเบียบดังกล่าวกำหนดเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อห้ามไม่ให้ปฏิบัติสำหรับผู้สมัคร พรรคการเมือง และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น โดยวิธีการหาเสียงที่ควรปฏิบัตินั้น ระบุว่า สามารถแจกเอกสาร วีดิทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชน สถานที่ งานพิธีต่าง ๆ ได้ รวมทั้งจัดรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงช่วยหาเสียงได้ โดยผู้สมัครพรรคการเมืองต้องแจ้งรายละเอียดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบภายใน 10 วัน หลังปิดการรับสมัคร ซึ่งทั้งเอกสาร วีดีทัศน์ ประกาศการโฆษณา ป้ายโฆษณาที่จะติดตั้งบนรถหาเสียง เวทีหาเสียง สามารถระบุชื่อ รูปภาพ และหมายเลขผู้สมัคร ชื่อสัญลักษณ์นโยบายของพรรค คติพจน์ คำขวัญ ข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้สมัคร พรรคการเมือง และนำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ลงโฆษณาหาเสียงได้เท่านั้น โดยการดำเนินการในส่วนของรถหาเสียงและเวทีหาเสียงให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หาเสียงผ่านจดหมาย สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ ทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองได้ แต่เอกสารต้องไม่มีลักษณะหรือสีคล้ายกับบัตรเลือกตั้ง

นอกจากนี้ สามารถตั้งผู้ช่วยหาเสียงได้ โดยผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้ช่วยหาเสียงในเขตได้ไม่เกิน 20 คนต่อเขต ส่วนของพรรคที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ มีผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนเขตที่พรรคนั้นส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต

อย่างไรก็ตาม กรณีพบมีการหาเสียงไม่เป็นไปตามที่ กกต. กำหนด ผอ.กกต.จังหวัด จะแจ้งให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง แก้ไขภายใน 5 วัน หากไม่ดำเนินการ กกต. สามารถรื้อถอน ปลดออก หรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร พรรคการเมืองนั้น และนำมาเป็นเหตุสืบสวนวินิจฉัยได้

ส่วนในเรื่องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง สามารถหาเสียงด้วยตนเองหรือว่าจ้างบุคคลนิติบุคคลดำเนินการได้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ทั้งยูทูบ เว็บไซต์ แอพพลิเคชัน อีเมล์ เอสเอ็มเอส โดยผู้สมัครต้องแจ้งวิธีการ รายละเอียดช่องทาง ระยะเวลาการหาเสียง รวมถึงหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ ผอ.กกต.ประจำจังหวัด ทราบตั้งแต่วันสมัครหรือก่อนหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้สมัครหรือสมาชิกพรรคหากต้องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใด ต้องแจ้งชื่อสกุลนิติบุคคล หรือ เครื่องหมายใด ๆ ที่สามารถเจาะจงตัวบุคคลที่ดำเนินการได้ โดยค่าใช้จ่ายในการหาเสียงส่วนนี้หากเกินกว่า 10,000 บาท ต้องแจ้งให้ผู้สมัครพรรคการเมืองทราบและให้แจ้งต่อ ผอ.กกต.จังหวัด เลขาฯกกต. ทราบ และการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัคร พรรคการเมืองนั้น กรณีกกต. พบว่า มีการใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง สามารถสั่งให้แก้ไข เปลี่ยนแปลง ลบข้อมูลนั้น หากผู้สมัครพรรคการเมืองไม่ดำเนินการในเวลาที่กำหนด เลขาฯกกต. สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-ผู้ให้บริการดำเนินการ โดยผู้สมัครพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และการแก้ไข เปลี่ยนแปลง ลบข้อมูล ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ได้กระทำสำเร็จแล้วได้ ซึ่ง กกต. สามารถนำมาสืบสวนและวินิจฉัยได้

ส่วนข้อห้ามไม่ควรปฎิบัติในการหาเสียงนั้นกำหนดไว้กว้าง ๆ คือ ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดให้ผู้ประกอบอาชีพเจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา หรือ นักแสดง นักดนตรี พิธีกร ใช้ความสามารถทางวิชาชีพเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงให้แก่ตน แต่ถ้าผู้สมัครมีความรู้ความสามารถทางศิลปะเป็นของตนเอง สามารถใช้หาเสียงให้กับตัวเองได้ แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง

นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการแจกจ่ายเอกสารที่เกี่ยวกับการหาเสียง โดยใช้วิธีการวางหรือโปรยในที่สาธารณะ ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรงก้าวร้าว หยาบคาย หรือ ปลุกระดม และไม่ช่วยเหลือเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามประเพณี

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว