ส.อุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย พร้อมใช้ rPET ผลิตขวด เตรียมเดินประสานความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ซัพพลายเออร์ นักวิชาการ และหน่วยงานภาครัฐ ร่วมแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก ชี้ปี2560 มีขวดพลาสติกใหม่ถูกผลิตออกมาใช้มากกว่า 1.85 แสนตัน แต่ในจำนวนทั้งหมดนั้นไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลเพื่อผลิตเป็นขวดพลาสติกใช้ซ้ำสำหรับบรรจุอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทยได้ เพราะติดข้อห้ามกฎหมายกระทรวงสาธารณสุข
นายวีระ อัครพุทธิพร อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย เปิดเผยว่า การบริหารจัดการขยะขวดพลาสติกเป็นประเด็นสิ่งแวดล้อมที่สร้างความตื่นตัวให้กับผู้ผลิตสินค้าและผู้บริโภค และเป็นประเด็นระดับโลกที่ทุกคนต่างยินดีให้ความร่วมมือ สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มีความมุ่งหวังที่จะเห็นประเทศไทยเร่งรัดให้มีการใช้พลาสติกรีไซเคิลมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม เพราะเป็นการใช้พลาสติกหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปริมาณการใช้พลาสติกใหม่ (Virgin Plastic)
โดยสมาคมเริ่มผลักดันให้บริษัทสมาชิก มีการนำขวดพลาสติกบรรจุเครื่องดื่มที่ทำจากเม็ดพลาสติกรีไซเคิล หรือ Recycled PET (rPET) มาเป็นวัตถุดิบผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำและเครื่องดื่ม รวมทั้งได้ประสานงานกับซัพพลายเออร์ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลและบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกให้มีความเข้าใจตรงกัน และเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยนแพจเกจจิ้งรีไซเคิลสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่มในอนาคต
“การใช้ rPET มาผลิตขวดเครื่องดื่มมีต้นทุนเพิ่มอยู่บ้าง และผมเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายมีความพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงและดำเนินการได้ทันที แต่ที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในตอนนี้ เพราะประเทศไทยมีกฎหมายห้ามใช้พลาสติกรีไซเคิลมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหารและเครื่องดื่ม” นายวีระกล่าว โดยระบุรายละเอียดจากประกาศกระทรวงสาธารณะสุข ฉบับที่ 295 พ.ศ. 2548 ข้อ 8 ระบุว่า “ห้ามมิให้ใช้ภาชนะบรรจุที่ทำขึ้นจากพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารแล้ว เว้นแต่ใช้เพื่อบรรจุผลไม้ชนิดที่ไม่รับประทานเปลือก” ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในช่วงเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมา การออกประกาศดังกล่าวเป็นไปเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคจากบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สะอาด อาจเพราะในยุคนั้น ยังไม่มีเทคโนโลยีด้านการรีไซเคิลพลาสติกที่สามารถผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณภาพ มีความสะอาดเพียงพอต่อการนำไปผลิตขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มได้
“ถ้าหากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยสามารถใช้ rPET มาผลิตขวดเครื่องดื่มได้ ผมคิดว่าจะเป็นวิธีการดีที่สุดที่ทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือกันลดปริมาณขยะขวดพลาสติกและช่วยดูแลสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เราขอเพียงให้กระทรวงสาธารณสุขได้มีการแก้กฎหมายเท่านั้น ซึ่งเราเข้าใจดีว่าคงต้องใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลในหลายส่วน และเราพร้อมเป็นตัวประสานและจัดหาข้อมูลวิจัยต่างๆ เพื่อสนับสนุนการกำหนดแนวทางการใช้ rPET สำหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม” นายวีระ กล่าว
ทั้งนี้ในช่วงปีที่ผ่านสมาคมได้ดำเนินการประสานความร่วมมือกับหลายฝ่ายเพื่อจัดทำข้อมูลในด้านนวัตกรรมรีไซเคิลที่ปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาครัฐในการปลดล็อกกฎหมายดังกล่าว ล่าสุด ได้มีการหารือเกี่ยวกับแนวทางและความเป็นไปได้ในการนำวัสดุเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET) มาใช้สำหรับภาชนะบรรจุอาหารในประเทศไทย โดยเชิญนักวิจัย ดร.วาณี โกมลประเสริฐ Consumer Safety Officer สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) นักวิชาการระดับหัวกะทิที่ทำงานวิจัยเรื่อง rPET มานานกว่า 30 ปีและเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ประกาศข้อกำหนดการตรวจสอบมาตรฐานเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่จะนำไปผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารและเครื่องดื่มในสหรัฐอเมริกา มาร่วมแชร์ข้อมูลสำคัญในหลายประเด็น เช่น กรอบการพิจารณาตรวจสอบของ FDA การกำหนดประเภทพลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ การกำหนดวิธีการตรวจสอบกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล การออกจดหมายรับรองให้ธุรกิจสามารถใช้เม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดได้ เป็นต้น
รวมทั้งมีตัวแทนจาก บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เจ้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล มีฐานการผลิตในประเทศไทย เป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าที่ผลิตได้ทั้งหมด 100% ไปยังออสเตรเลียและอังกฤษ มานำเสนอความก้าวล้ำด้านกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในระดับที่ผ่านมาตรฐานทั้งของสหรัฐอเมริกาและมาตรฐานอียู เพื่อเก็บข้อมูลนำเสนอให้หน่วยงานผู้คุมกฎภาครัฐได้มีความมั่นใจและนำไปศึกษาต่อว่าจะมีแนวทางการกำหนดมาตรฐานอย่างไรและอะไรบ้างหากจะมีการนำวัสดุเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (rPET) มาใช้สำหรับภาชนะบรรจุอาหารในประเทศไทย
อย่างไรก็ตามสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทย มีความเข้าใจการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก แต่ขณะเดียวกันในฐานะที่ต้องดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขย่อมมีความห่วงกังวลในเรื่องของความสะอาดของเม็ดพลาสติกที่ได้จากกระบวนการรีไซเคิล ซึ่งในปัจจุบัน ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สามารถสร้างมาตรฐานการผลิตที่ได้คุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไทยจึงตั้งความหวังให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อประเทศไทยจะได้เดินหน้านโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและการจัดการปัญหาขยะพลาสติกได้อย่างยั่งยืนต่อไป