ปรับตัว-ปรับองค์กร รับความเสี่ยงปี 62

ในรอบปี 2561 ที่กำลังผ่านพ้นไปทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย เผชิญความเสี่ยงหลายด้าน แม้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่า 4 % แต่สะบักสะบอมพอสมควร ต้องใช้มาตรการทางการคลัง กระตุ้นอัดฉีดเพื่อเพิ่มแรงบริโภคต่างกรรมต่างวาระหลายคราว กระนั้นก็ตามในภาครากหญ้ายังไม่กระเตื้อง อันเนื่องมาจากราคาสินค้าเกษตรหลักที่หล่อเลี้ยงยังคงทรุดตัว ประกอบกับภาคบริการท่องเที่ยวชะลอตัวลงในไตรมาสสุดท้าย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่งผลให้กำลังซื้อภาคบริการหดหายไป

ปีนี้ทั้งปีเรายังเผชิญกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ปัจจัยมาจากสงครามการค้าสหรัฐฯกับจีนที่ส่อแววยืดเยื้อและเผชิญหน้าโดยตรงกันเป็นระยะๆให้ประเทศเล็กๆที่เศรษฐกิจเกี่ยวพันอย่างแยกไม่ออกกับโลกให้อกสั่นขวัญผวาอยู่ตลอดเวลา เมื่อสงครามการค้ายืดเยื้อ ส่งผลให้การค้า โลกหดตัว เศรษฐกิจโลกโดยรวมย่อมชะลอตัวลงตามไปด้วย การทำมาค้าขายย่อมชะลอตัวตาม ดังสัญญาณ การหดตัวของการส่งออกไทยที่เกิดขึ้นในเดือน 11 ที่ผ่านมา
สัปดาห์สุดท้ายของปีนักลงทุนยังมิวาย เผชิญกับความวุ่นวายจากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ หลังการหารือของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯกับ 6 ธนาคารขนาดใหญ่ในการฟื้นความเชื่อมั่น แต่ไม่สำเร็จ การที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีท่าทีแข็งกร้าวใส่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) การบีบรัฐมนตรีกลาโหมพ้นตำแหน่ง การชัตดาวน์หน่วยราชการบางแห่งในสหรัฐฯ ประกอบกับราคานํ้ามันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลง 653 จุดตั้งแต่วันจันทร์ต้นสัปดาห์ แน่นอนฉุดให้ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงตามกราวรูดทันทีที่เปิดตลาด รวมทั้งตลาดหุ้นไทยที่ลงแรงจนนักวิเคราะห์ต้องคำนวณแนวรับใหม่

[caption id="attachment_366651" align="aligncenter" width="335"] [/caption]

ปีที่กำลังผ่านพ้นไปแม้ตัวเลขเศรษฐกิจ จะขยายตัวได้ 4% ก็จริง แต่ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นปีที่ดีของคนไทยสักเท่าไร เมื่อต้องสู้กับอุปสรรครอบด้านและหลากหลายปัจจัยเหล่านี้ ยังคงดำรงอยู่ต่อเนื่องไปสู่ปี 2562 นั่นหมายถึงเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงอยู่ในระดับสูงพอสมควร ประกอบกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามามีผลกระทบต่อ การทำธุรกิจ ทั้งรูปแบบการค้าใหม่ ต้นทุนการผลิตใหม่

แน่นอนปีหน้าไทยยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากปัจจัยการเมือง โดยการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ความไม่แน่นอนทางการเมือง ความขัดแย้งรอบใหม่ของการเมืองจะหมุนวนกลับมาอีกรอบหรือไม่ มีความวุ่นวายหรือไม่ กระนั้นก็ตามหากเดินหน้าได้หลังเลือกตั้งจะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน ที่รัฐบาลชุดใหม่จะนำนโยบายไปปฏิบัติให้เห็นผลรูปธรรมได้ ฉะนั้นนักธุรกิจ นักลงทุน ภาครัฐ ประชาชน ต้องวาง แผนรับมือ ปรับตัว ปรับองค์กรให้มีความกระชับ ยืดหยุ่น รุก รับ เร็ว รองรับความเสี่ยงทั้งจากภายใน-ภายนอกในปีที่จะมาถึงนี้ ต้องวางแผนให้ดี ก่อนที่จะถูกพายุพัดหายไปในห้วงเวลานี้

| บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3430 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 27-29 ธ.ค.2561