ผู้ค้าม.7แห่นำเข้าแอลพีจีเสรี สนพ.จี้ปตท.ศึกษาค่าบริการเช่าคลังให้แล้วเสร็จเม.ย.นี้

12 มี.ค. 2559 | 03:00 น.
สนพ.เตรียมเรียกผู้ค้าแอลพีจีมาตรา 7 หารือ รุกมาตรการส่งเสริมนำเข้าแอลพีจีเสรี สั่ง ปตท. เร่งศึกษาค่าเช่าคลังแอลพีจีให้เสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ พร้อมหนุน ปตท.นำเข้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เหตุคลังเขาบ่อยาขยายแล้ว 2.5 แสนตัน แต่การใช้ยังไม่มีประสิทธิภาพสูงสุด

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ภายหลังจากกระทรวงพลังงานออกมาตรการส่งเสริมการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) เสรี ทางผู้ค้าแอลพีจีมาตรา 7 หลายรายสอบถามเข้ามา ล่าสุดทางบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลล์ จำกัด (มหาชน) ก็แสดงความสนใจเพื่อนำเข้าแอลพีจีเช่นกัน โดยพบว่าบริษัทดังกล่าวมีศักยภาพ เนื่องจากที่ผ่านมาก็ดำเนินธุรกิจค้าขายแอลพีจีไปขายในต่างประเทศอยู่ก่อนแล้ว

โดยทาง สนพ.สั่งการให้ทางบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปศึกษาค่าบริการเช่าคลังแอลพีจีและท่าเรือ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งที่ผ่านมายังมีข้อถกเถียงกัน 2-3 เรื่อง อาทิ โครงการขยายคลังแอลพีจีที่เขาบ่อยา จังหวัดชลบุรี จากเดิม 1.3 แสนตัน เพิ่มเป็น 2.5แสนตัน ซึ่งจะเปิดใช้เดือนเมษายนนี้ ต้องนำการลงทุนมาคิดรวมด้วย ,ค่าใช้จ่ายต้นทุนทางการเงินในแต่ละปี และค่าใช้จ่ายบริหารตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทาง สนพ.ต้องการให้ ปตท.เน้นการเพิ่มประสิทธิภาพคลังแอลพีจีมากขึ้น ดังนั้นจึงให้ ปตท.ไปทำตัวเลขเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เหมาะสม จากนั้นจะเรียกผู้ค้าแอลพีจีทุกรายมาหารือในช่วงเดือนเมษายนนี้ เพื่อส่งเสริมการนำเข้าเสรีต่อไป

"ตอนนี้เริ่มเห็นการแข่งขันนำแอลพีจีเสรีบ้างแล้ว เพราะมีผู้ค้ามาตรา 7 หลายรายสอบถามเข้ามามาก แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือการทำสัญญาซื้อขายระหว่างเอกชนกับ ปตท. เพราะต้องดูว่าเป็นสัญญาระยะยาวกับ ปตท.หรือไม่ หากเอกชนจะขออนุญาตนำเข้า ทางกรมธุรกิจพลังงานจะพิจารณาว่าจะต้องนำเข้าล็อตไหน ปริมาณเท่าไร ทั้งนี้ภายหลังจากได้ข้อสรุปเรื่องราคาค่าเช่าคลังจาก ปตท. แล้ว ก็จะเรียกผู้ค้าแอลพีจีหารือต่อไป"นายประเสริฐ กล่าว

อย่างไรก็ตามปัจจุบันปริมาณการนำเข้าแอลพีจีลดลงอยู่ที่ 4-8 หมื่นตันต่อเดือน จากปีก่อนที่เคยนำเข้า มากกว่า 1 แสนตันต่อเดือน ประกอบกับแผนขยายคลังแอลพีจีที่เขาบ่อยาก็สั่งช่วงที่มีปริมาณนำเข้าสูง แต่ปีนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปทำให้การนำเข้าลดลงมาก แต่ทางกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) ก็แจ้งว่า ปตท.สามารถนำเข้าแอลพีจีเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ โดยเฉพาะเมียนมา ที่ยังไม่มีท่าเรือรับแอลพีจี ที่ผ่านมาก็มีการซื้อแอลพีจีจากไทย แต่การนำเข้าเพื่อส่งออกนั้นจะต้องคำนึงถึงความมั่นคงในประเทศก่อน

ด้านนายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ปตท.สามารถนำเข้าแอลพีจีเพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้ เพราะหลังจากที่กระทรวงพลังงานเปิดให้มีการนำเข้าแอลพีจีเสรี ทำให้มีผู้ค้าแอลพีจีหลายรายสนใจ ล่าสุดได้อนุญาตให้บริษัท พีเอพี แก๊สแอนด์ออยล์ จำกัด นำเข้าแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ปริมาณไม่มากเพียง 2 พันตันเท่านั้น ขณะที่ ปตท.ทำหนังสือสอบถามมายังกรมเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีการนำเข้าเพื่อการส่งออกในขณะนี้

นอกจากนี้ตามนโยบายของกระทรวงสนับสนุนให้มีการนำเข้าแอลพีจีเพื่อการส่งออก เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยป้องกันปัญหาการลักลอบส่งออกแอลพีจีตามแนวชายแดน ซึ่งในช่วงที่ราคาแอลพีจีในประเทศสูงขึ้น ทำให้ปริมาณการลักลอบส่งออกตามแนวชายแดนลดลง ขณะที่ผู้ค้ามาตรา 7 อื่นๆ ยังขออนุญาตซื้อแอลพีจีนำเข้าจาก ปตท.เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย ปัจจุบันมีการส่งออกไปยังเมียนมาประมาณ 2.5 พันตันต่อเดือน กัมพูชาประมาณ 1 พันตันต่อเดือน และสปป.ลาว ประมาณ 500 ตันต่อเดือน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,138 วันที่ 10 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2559