ฐานโซไซตี : บ่วงกรรม "ชินวัตร" ฤาจะต้องหนีทั้งตระกูล?

25 ธ.ค. 2561 | 13:53 น.
ชินวัตร-01
“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-เยาวภา” 3 พี่น้องตระกูล “ชินวัตร” หลบหนีออกนอกประเทศ แล้วเกิดคำถามว่า โอ๊ค-พานทองแท้ จะหนีตามไปอีกคนหรือไม่? เพราะก็มีคดีติดตัวเหมือนกัน...

นับตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร “พี่ใหญ่แห่งตระกูลชินฯ” หลบหนีคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก ตั้งแต่ปี 2551 โดยทำหนังสือขออนุญาตศาลฎีกานักการเมือง ออกนอกประเทศ เพื่อไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน ระหว่างวันที่ 5-10 สิงหาคม 2551 แต่ก็ไม่ได้เดินทางกลับมารายงานตัวต่อศาลอีกเลย ก่อนที่ศาลจะพิพากษาลับหลัง ตัดสินให้จำคุก เป็นเวลา 2 ปี รวมระยะเวลาที่หลบหนีและต้องร่อนเร่อยู่ต่างประเทศกว่า 10 ปี จวบจนเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา คดีได้สิ้นอายุความลง แต่ก็ยังกลับเข้าประเทศไม่ได้ เพราะมี “หมายจับ” อีกหลายคดีค้างคาอยู่
100 ปัจจุบัน ทักษิณ ถูกออกหมายจับอีก 4 หมายจับ คือ 1.คดีปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ที่อนุมัติเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่าให้กับรัฐบาลพม่า วงเงิน 4,000 ล้านบาท ในโครงการปรับปรุงระบบโทรคมนาคมของประเทศพม่า เอื้อประโยชน์ธุรกิจดาวเทียม ที่มีการสั่งซื้ออุปกรณ์จาก บริษัท ชิน แซทเทิลไลท์ฯ และบริษัทในเครือตระกูลชินวัตร โดยเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 ศาลฎีกาฯ สั่งให้ออกหมายจับ 2.คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2

และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ศาลฎีกาฯนัดพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2551 แต่ไม่มา ศาลจึงสั่งออกหมายจับ 3.คดีแปลงสัมปทานมือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต ศาลนัดพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2551 และได้ออกหมายจับเนื่องจากไม่มาศาล และ 4.คดีธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้กว่า 9,000 ล้านบาท ให้กับเครือกฤษดามหานคร ศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555 เหตุไม่มาศาลในนัดพิจารณาคดีครั้งแรก และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ศาลออกหมายจับอีกใบในคดีนี้เนื่องจากไม่มาศาล

คนถัดมา “ยิ่งลักษณ์” น้องสาวคนเล็กของตระกูลชินฯ มี “บ่วงกรรม” ไม่ต่างจากพี่ชาย หลังจากเบี้ยวไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ ในคดีจำนำข้าว ที่กำหนดนัดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 และต่อมารู้ว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปตั้งแต่คืนวันที่  23 สิงหาคม 2560 นอกจากคดีจำนำข้าวแล้ว ยังมีอีกหลายคดีเข้าคิวรอให้ “อดีตนายกฯหญิง” กลับมาต่อสู้อีกอย่างน้อย 8 คดี คือ 1.คดีออกพ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทเพื่อบริหารจัดการนํ้า 2.คดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ 3.คดีจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง 4.คดีละเว้นไม่ลงโทษผู้ใต้บังคับบัญชา กรณี จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กับพวก ปราศรัยรุนแรง-แบ่งแยกประเทศ 5.คดีประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ช่วงม็อบ กปปส. 6.คดีปล่อยให้อดีตนายกฯ ทักษิณ กล่าวเปิดงานมวยมาเก๊า ผ่านช่อง 11 และ 7.คดีรํ่ารวยผิดปกติกรณีครอบครองนาฬิกาเรือนละ 2.5 ล้านบาท รวมทั้ง 8.คดีรํ่ารวยผิดปกติจากโครงการรับจำนำข้าว

ต่อมาคนใน “ตระกูลชินฯ” อีกคนที่มีข่าวหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ก็คือ เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เนื่องจากอยู่ในข่ายลุ้นระทึกว่าจะถูก “ป.ป.ช.” ชี้มูลความผิดและนำไปสู่การดำเนินคดีจำนำข้าว (ระบายข้าวรัฐต่อรัฐ) ล็อต 2 หรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าว บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ที่ถูกจำคุกอยู่ขณะนี้ ให้การ “ซัดทอด” ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว ในสมัย ยิ่งลักษณ์ น้องสาว ที่หลบหนีคุกไปก่อนหน้านี้

[caption id="attachment_366249" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

200 ขณะที่ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” ก็ตกเป็นจำเลยคดีร่วมฟอกเงิน กรณีอนุมัติสินเชื่อของอดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงิน 10 ล้านบาทและขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยหลักทรัพย์เงินสด 1 ล้านบาท แต่ห้ามออกนอกประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาต

จาก “พี่ใหญ่ทักษิณ” มาถึง “น้องนุชคนสุดท้องยิ่งลักษณ์” ต่อด้วย “เจ๊ใหญ่เยาวภา” เป็นรายที่ 3 ที่ต้องเผ่นไปต่างประเทศ แล้วลูกรักอย่าง “โอ๊ค-พานทองแท้” จะเป็นรายต่อไปที่ต้อง “เจริญรอยตาม” หรือไม่... ฤาจะต้องหนีกันทั้งตระกูลชินฯ??? โปรดติดตามต่อไป...

ปิดท้ายที่ ฉาย บุนนาค ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการ บจก.ฐานเศรษฐกิจ มัลติมีเดีย แล้ว โดยแต่งตั้ง ศุทธิชัย บุนนาค เป็นกรรมการและประธานกรรมการ แทน ทั้งยังได้ลาออกจาก กรรมการ บมจ.นิวส์ เน็ตเวิร์ค มัลติมีเดีย แล้วแต่งตั้ง เอกชัย ชัยเชิดชูกิจ เป็นกรรมการแทน พร้อมลาออกจากประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น ในคราวเดียวกัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป

| คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
| โดย : ว.เชิงดอย
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3429 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 23 -26 ธ.ค.2561
595959859