รถไฟฯ งัดที่แปลงงาม! นําร่อง "เมืองกาญจน์" ให้ทุนท้องถิ่นเช่า 30 ปี
ร.ฟ.ท. เร่งปั้นรายได้จากที่ดินแนวรถไฟ เคลียร์ผู้บุกรุก 2 ทำเลทอง "เมืองกาญจน์-ท่านุ่น พังงา" โครงการแรกบอร์ดอนุมัติทุนท้องถิ่น "วิชั่น อินสเป็คเตอร์" เช่าที่ใกล้สะพานแม่นํ้าแควยาว 30 ปี ผุดมิกซ์ยูส โรงแรม - ศูนย์ดูแลสุขภาพ
หลังจากวางเป้าหมายนำที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟสร้างรายได้ให้กับองค์กร ฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เดินหน้าสำรวจพื้นที่และเจรจากับผู้บุกรุกให้ออกจากพื้นที่ดินแปลงต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยมีที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้กว่า 3.6 หมื่นไร่ ล่าสุด เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นสำหรับ 2 แปลงใหญ่ ที่ จ.กาญจนบุรี และพังงา โดยแปลงที่ดินใน จ.กาญจนบุรี ขนาดพื้นที่ 1,070 ไร่ ปัจจุบันมีทั้งโดนบุกรุกและเช่าพื้นที่ จุดไฮไลต์ใกล้สะพานแม่นํ้าแคว สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จะเร่งตั้งค่าพิกัดของที่ดินในพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากรูปแบบเดิมที่ตั้งแนวเสาโทรเลขไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน
อีกแปลงเป็นที่ดินแปลงใหญ่ในเขตพื้นที่ท่านุ่น จ.พังงา ประมาณ 858 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพติดทะเล ปัจจุบันมีผู้เช่าและผู้บุกรุก ประกอบกับที่ดินบางแปลงยังสามารถนำไปพัฒนาโรงแรม รีสอร์ต ที่อยู่อาศัย หรือ ศูนย์การค้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการจัดสัมมนาองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ แต่พื้นที่ทำเลดังกล่าวส่วนหนึ่งยังเป็นชุมชนใหญ่ อยู่อาศัยหนาแน่น เกาะไปตามแนวเส้นทางรถไฟสายพังงา-ท่านุ่น ซึ่ง ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการให้สามารถเชื่อมไปถึงภูเก็ตในโครงการสายสุราษฎร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น-ภูเก็ต ให้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้
ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บอร์ดเห็นชอบให้ บริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นทุนท้องถิ่น เช่าพื้นที่ขนาด 7.8 หมื่นตารางเมตร ใกล้กับสะพานข้ามแม่นํ้าแคว เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยเสนอผลตอบแทนค่าเช่าและค่าธรรมเนียมให้กับ ร.ฟ.ท. คิดเป็นเงินค่าธรรมเนียม (ระยะเวลา 30 ปี) 74 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรก 1,332 ล้านบาท พัฒนาโครงการ World War 2 Bridge เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นและหลายประเทศที่สนใจ ภายในมีทั้งโรงแรมที่พัก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลเพื่อสุขภาพ คอมมิวนิตีโซน รองรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นและหลายประเทศที่สนใจ
ส่วนที่ดินในกรุงเทพฯ นั้น ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ล่าสุด ได้เสนอขอความเห็นชอบข้อเสนอแนะผลประโยชน์ตอบแทนการต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินที่สถานีคลองสาน ขนาดพื้นที่ 7,428 ตารางเมตร ของกลุ่มบริษัท ที่ปรึกษาการวางแผนและพัฒนา จำกัด เพื่อปลูกสร้างอาคาร 4 ชั้น และที่จอดรถ ระยะเวลาสัญญาเช่า 20 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 448 ล้านบาท
นอกจากนั้น บอร์ด ร.ฟ.ท. ยังตีกลับการขออนุมัติต่อสัญญาและจัดทำสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง บริเวณโครงการรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน ตามสัญญาประนีประนอมของ บริษัท นารายณ์ร่วมพิพัฒน์ จำกัด ขนาดพื้นที่ 2.1 หมื่นตารางเมตร ที่เคยฟ้องร้องเป็นคดีกันมาตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2538 โดยขออนุมัติต่อสัญญาไปจนถึงวันที่ 2 ต.ค. 2565 คิดเป็นเงิน 113 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่ายังเป็นตัวเลขรายได้อัตราค่าเช่าที่ยังไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน จึงให้ไปหารือร่วมกันใหม่แล้วนำเรื่องนี้เสนอบอร์ดเห็นชอบต่อไป
เช่นเดียวกับรายของ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ บริษัท เลี่ยวไพรัตนวิสาหกิจ จำกัด ที่ได้ยื่นเรื่องถึง นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องการขอเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างอาคารบริเวณ RCA เส้นทางโครงการรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน ช่วงถนนพระราม 9 - ซอยศูนย์วิจัย โดยยินยอมเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนเงินไม่ตํ่ากว่า 100 ล้านบาทในคราวเดียว ในระยะเวลา 5 ปีของการทำสัญญาในครั้งนี้ด้วย
"คาดว่าจะมีอีกหลายรายที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท. อีกครั้ง เพื่อผลักดันให้นำที่ดินจากการเช่ามาพัฒนาให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งที่ดินหมดสัญญาเช่าและติดต่อให้ต่อสัญญารอบใหม่ และหลายแปลงที่เจรจาหลังเป็นคดีกันมาแล้วแต่เจรจาประนีประนอมกันได้ ซึ่งในคณะกรรมการบอร์ดชุดปัจจุบันถือว่ามีความคืบหน้ากรณีการต่อสัญญาในหลายแปลงเกิดขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้ ร.ฟ.ท. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาล"
หน้า 12หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,430 วันที่ 27 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561
หลังจากวางเป้าหมายนำที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟสร้างรายได้ให้กับองค์กร ฝ่ายบริหารทรัพย์สินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เดินหน้าสำรวจพื้นที่และเจรจากับผู้บุกรุกให้ออกจากพื้นที่ดินแปลงต่าง ๆ ทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยมีที่ดินที่สามารถนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้กว่า 3.6 หมื่นไร่ ล่าสุด เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นสำหรับ 2 แปลงใหญ่ ที่ จ.กาญจนบุรี และพังงา โดยแปลงที่ดินใน จ.กาญจนบุรี ขนาดพื้นที่ 1,070 ไร่ ปัจจุบันมีทั้งโดนบุกรุกและเช่าพื้นที่ จุดไฮไลต์ใกล้สะพานแม่นํ้าแคว สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จะเร่งตั้งค่าพิกัดของที่ดินในพื้นที่ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากรูปแบบเดิมที่ตั้งแนวเสาโทรเลขไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน
อีกแปลงเป็นที่ดินแปลงใหญ่ในเขตพื้นที่ท่านุ่น จ.พังงา ประมาณ 858 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีศักยภาพติดทะเล ปัจจุบันมีผู้เช่าและผู้บุกรุก ประกอบกับที่ดินบางแปลงยังสามารถนำไปพัฒนาโรงแรม รีสอร์ต ที่อยู่อาศัย หรือ ศูนย์การค้า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการจัดสัมมนาองค์กรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ แต่พื้นที่ทำเลดังกล่าวส่วนหนึ่งยังเป็นชุมชนใหญ่ อยู่อาศัยหนาแน่น เกาะไปตามแนวเส้นทางรถไฟสายพังงา-ท่านุ่น ซึ่ง ร.ฟ.ท. อยู่ระหว่างการเร่งผลักดันโครงการให้สามารถเชื่อมไปถึงภูเก็ตในโครงการสายสุราษฎร์ธานี-พังงา-ท่านุ่น-ภูเก็ต ให้เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้
ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ บอร์ดเห็นชอบให้ บริษัท วิชั่น อินสเป็คเตอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นทุนท้องถิ่น เช่าพื้นที่ขนาด 7.8 หมื่นตารางเมตร ใกล้กับสะพานข้ามแม่นํ้าแคว เป็นระยะเวลา 30 ปี โดยเสนอผลตอบแทนค่าเช่าและค่าธรรมเนียมให้กับ ร.ฟ.ท. คิดเป็นเงินค่าธรรมเนียม (ระยะเวลา 30 ปี) 74 ล้านบาท ค่าเช่าปีแรก 1,332 ล้านบาท พัฒนาโครงการ World War 2 Bridge เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นและหลายประเทศที่สนใจ ภายในมีทั้งโรงแรมที่พัก คอนเวนชันเซ็นเตอร์ เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ ศูนย์ดูแลเพื่อสุขภาพ คอมมิวนิตีโซน รองรับนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่นและหลายประเทศที่สนใจ
ส่วนที่ดินในกรุงเทพฯ นั้น ด้านแหล่งข่าวระดับสูงของฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ร.ฟ.ท. กล่าวว่า ล่าสุด ได้เสนอขอความเห็นชอบข้อเสนอแนะผลประโยชน์ตอบแทนการต่ออายุสัญญาเช่าที่ดินที่สถานีคลองสาน ขนาดพื้นที่ 7,428 ตารางเมตร ของกลุ่มบริษัท ที่ปรึกษาการวางแผนและพัฒนา จำกัด เพื่อปลูกสร้างอาคาร 4 ชั้น และที่จอดรถ ระยะเวลาสัญญาเช่า 20 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 448 ล้านบาท
นอกจากนั้น บอร์ด ร.ฟ.ท. ยังตีกลับการขออนุมัติต่อสัญญาและจัดทำสัญญาเช่าที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง บริเวณโครงการรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน ตามสัญญาประนีประนอมของ บริษัท นารายณ์ร่วมพิพัฒน์ จำกัด ขนาดพื้นที่ 2.1 หมื่นตารางเมตร ที่เคยฟ้องร้องเป็นคดีกันมาตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. 2538 โดยขออนุมัติต่อสัญญาไปจนถึงวันที่ 2 ต.ค. 2565 คิดเป็นเงิน 113 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่ายังเป็นตัวเลขรายได้อัตราค่าเช่าที่ยังไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน จึงให้ไปหารือร่วมกันใหม่แล้วนำเรื่องนี้เสนอบอร์ดเห็นชอบต่อไป
เช่นเดียวกับรายของ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการ บริษัท เลี่ยวไพรัตนวิสาหกิจ จำกัด ที่ได้ยื่นเรื่องถึง นายกุลิศ สมบัติศิริ ประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย เรื่องการขอเช่าพื้นที่เพื่อพัฒนาปรับปรุงสิ่งปลูกสร้างอาคารบริเวณ RCA เส้นทางโครงการรถไฟสายบางซื่อ-คลองตัน ช่วงถนนพระราม 9 - ซอยศูนย์วิจัย โดยยินยอมเสนอผลประโยชน์ตอบแทนเป็นจำนวนเงินไม่ตํ่ากว่า 100 ล้านบาทในคราวเดียว ในระยะเวลา 5 ปีของการทำสัญญาในครั้งนี้ด้วย
"คาดว่าจะมีอีกหลายรายที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบอร์ด ร.ฟ.ท. อีกครั้ง เพื่อผลักดันให้นำที่ดินจากการเช่ามาพัฒนาให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งที่ดินหมดสัญญาเช่าและติดต่อให้ต่อสัญญารอบใหม่ และหลายแปลงที่เจรจาหลังเป็นคดีกันมาแล้วแต่เจรจาประนีประนอมกันได้ ซึ่งในคณะกรรมการบอร์ดชุดปัจจุบันถือว่ามีความคืบหน้ากรณีการต่อสัญญาในหลายแปลงเกิดขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้ ร.ฟ.ท. ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาล"
หน้า 12หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,430 วันที่ 27 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561
