ทาบมืออาชีพนั่งซีอีโอ ปลด SP ใน 1 ปี
เลือกตั้งกรรมการไอเฟคผ่านฉลุย มติเอกฉันท์“ทวิช เตชะนาวากุล” คุมไอเฟค ลั่นพร้อมเร่งเดินหน้าแก้ปัญหา ปรับลดขนาดโครงสร้างองค์กร ทาบมืออาชีพนั่งซีอีโอ คาดปลด SP ภายใน 1 ปี
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ณ สโมสรกองทัพบก โดยมีวาระเดียวคือ เลือกตั้งกรรมการทดแทนกรรมการที่ว่างลง 7 ราย โดยมีผู้มาลงทะเบียน เป็นผู้ถือหุ้นมาด้วยตนเอง 426 ราย และรับมอบหมายอำนาจ 515 ราย รวมเป็นจำนวน 941 ราย เป็นจำนวนหุ้น 891,479,770 หุ้น คิดเป็น 44.114% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 2,020,834 หุ้น มีผู้ใช้สิทธิ์ออกเสียง 888 ราย งดออกเสียง 53 ราย
การประชุมได้เริ่มเมื่อเวลา 11.00 น. โดยก่อนวาระ 3 ของการลงคะแนน ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการซึ่งมี 18 รายชื่อ ใน 3 กลุ่มหลัก ได้นำเสนอข้อมูลของแต่ละกลุ่ม กำหนดเวลาไม่เกินกลุ่มละ 7 นาที เพื่อเปิดให้นักลงทุนได้ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการเสนอเข้ามาเป็นกรรมการของบริษัท
[caption id="attachment_366266" align="aligncenter" width="336"]
ทวิช เตชะนาวากุล[/caption]
แต่ปรากฏว่า กลุ่มที่นำเสนอข้อมูลมีเพียง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนายอภิศักดิ์ เทพผดุงพร และกลุ่มนายทวิช เตชะนาวากุล ขณะที่กลุ่มหมอวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการไอเฟค ที่เสนอในนามของนายอัศวิทย์ วิรัชพันธ์ ส่งรายชื่อผู้รับสมัคร 4 รายนั้น ได้ถอนตัวไป
ส่วนวาระ 3 การลงคะแนน ที่ประชุมใช้เวลาประมาณ 1.10 ชั่วโมง ก่อนจะปิดโหวตในเวลา 13.00 น. และเข้าสู่วาระ 4 ประกาศรายชื่อ โดยกลุ่มที่มีคะแนนโหวตสูงสุด เป็นของนายทวิช เตชะนาวากุล เสนอ7 รายชื่อดังนี้
1. นายทวิช เตชะนาวากุล 2. พลเอกสำเภา ชูศรี 3. นางสาวประนอม โฆวินวิพัฒน์ 4. นายหาญ เชี่ยวชาญ 5. นายพิชิตสินพัฒนสกุล 6. นายกุดั่น สุขุมานนท์ และ 7. นายบุญเลิศ เอี้ยวพรชัย โดยการประชุมผู้ถือหุ้นได้เสร็จสิ้นเมื่อ 13.46 น.ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ในระหว่างการประชุมวาระแรก นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตประธานกรรมการ ไอเฟค ได้ใช้สิทธิ์ตั้งข้อสังเกตกรณีการเปิดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ตามมาตรา 82 ของพ.ร.บ.มหาชน ในขณะที่กรรมการยังมีคดีอาญาเรื่องการลดกรรมการลงจนเหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ดังนั้นกรรมการที่ได้รับเลือกเข้ามาจะถูกกฎหมายหรือไม่ และหากศาลตัดสินว่ากรรมการที่เหลืออยู่ 2 ท่านมีความผิด (นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ และพล.ต.บุญเลิศแจ้งนพรัตน์) ใครจะรับผิดชอบ รวมไปถึงการตัดสิทธิ์ผู้ถือหุ้นที่สมัครรับเลือกเป็นกรรมการ แม้จะมีการเปิดรับสมัครใหม่ในภายหลังก็ตาม แต่ก็เป็นการล็อกสเปก
ด้านนายทวิช เตชะนาวากุล กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นฯ ว่า ภายในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ ตนจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาของบริษัทที่เกิดขึ้นให้ยุติได้โดยเร็ว เพื่อให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้ และจะยื่นรายชื่อกรรมการบริษัททั้ง 9 คน (รวมกรรมการเดิม 2 คน )ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์รับรอง
พร้อมกันนี้จะเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดภายใน 6 เดือน หรืออย่างช้าภายใน 1 ปี โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินของบริษัท โดยจะหารือเจรจาร่วมกับเจ้าหนี้เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะสม รวมทั้งจะทาบทามมืออาชีพเข้ามาช่วยบริหารในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในตอนนี้
ส่วนเรื่องการปลดเครื่องหมาย SP หุ้น IFEC นั้น คาดว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี เนื่องจากต้องปิดงบการเงินและรับรองงบการเงินปี 2559 แบบไม่มีเงื่อนไข เพื่อนำส่งให้กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ก่อน จากนั้นจะต้องมาปิดงบการเงินปี 2560 และ 2561 ตามลำดับ และต้องส่งงบการเงินปี 2562 อีก 2 ไตรมาสต่อเนื่องกันจึงจะสามารถปลดเครื่องหมาย SP ได้ โดยจะจะว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีพิเศษ (Special Audit) เข้ามาตรวจสอบบัญชีและรับรองงบการเงิน
นายทวิช ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดหรือตรวจพบการทุจริตว่า เรื่องดังกล่าว คาดจะมีความชัดเจนภายใน 2 เดือนหลังจากบริษัทได้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้น ส่วนกรณีของโรงแรมดาราเทวี เชียงใหม่ อยู่ระหว่างการพิจาณาว่าจะนำมาบริหารต่อหรือขายออกไป ซึ่งยังไม่สามารถบอกได้ในขณะนี้
สำหรับวาระการบริหารของกรรมการไอเฟคทั้ง 9 ราย ในส่วนของกรรมการเดิม 2 คนคือ นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ และพล.ต.บุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ จะดำรงตำแหน่งถึงวันที่ 28 เมษายน 2562
ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคะแนนสูงสุด (นายพิชิต สินพัฒนสกุล 641,004,534 คะแนน) และรองจากคะแนนสูงสุดลำดับต่อมา จะมีวาระการดำรงตำแหน่งถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ยกเว้นผู้ที่ได้รับเลือกตั้งคะแนนลำดับสุดท้าย (พลเอกสำเภา ชูศรี 605,836,512) จะมีวาระการดำรงตำแหน่งจนถึงวันที่ 28 เมษายน 2562
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,430 วันที่ 27-29 ธันวาคม 2561