ปตท.อัดพันล้านสู้ศึกนํ้ามันเครื่อง ผุดศูนย์กระจายสินค้า-ลุยนอก
ตลาดนํ้ามันหล่อลื่นปีหน้าโต 5-10 % พีทีทีโออาร์เร่งปรับตัวรับศึกษาการแข่งขัน อัดงบกว่า 1 พันล้านบาท ผุดคลังกระจายสินค้าที่ฉะเชิงเทรา และขยายสาขา FIT Auto เพิ่ม พร้อมเล็งจัดตั้งบริษัทจัดจำหน่าย ลุยจ้างผลิตในต่างแดนมากขึ้นรับการเติบโต 15-20%
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีโออาร์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศว่า ในปี 2562 ตลาดนํ้ามันหล่อลื่นในประเทศน่าจะเติบโต 5-10% เทียบกับปี 2561 โดยตั้งเป้าไว้ที่ 160 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่พลาดเป้าและน่าจะทำได้ 150 ล้านลิตร หรือครองตลาดเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 32% จากปริมาณตลาดรวมทั้งหมด 750 ล้านลิตร
[caption id="attachment_366066" align="aligncenter" width="503"]
บุรณิน รัตนสมบัติ[/caption]
โดยภาพรวมตลาดนํ้ามันหล่อลื่นในประเทศปีนี้ เติบโตไม่มากนัก หรือโตเพียง 1-2% เท่านั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี ส่งผลให้ราคานํ้ามันหล่อลื่นสูงขึ้น กระทบต่อความต้องการใช้ลดลง ประกอบกับการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจนี้มากกว่า 230 บริษัท ส่งผลให้แบรนด์ต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศมากขึ้น แย่งส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทไปส่วนหนึ่ง ประกอบกับตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯกับจีน ประกอบกับตลาดเพื่อนบ้านมีค่าเงินอ่อนค่า
อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศในปี 2562 มีโอกาสเติบโตได้ถึง 15-20% จากปัจจุบันบริษัทมียอดขายนํ้ามันหล่อลื่นรวมอยู่ที่ 25 ล้านลิตร มีการส่งออกไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นตลาดเมียนมา อันดับ 1 สัดส่วน 40% ที่เหลือ 30% เป็นแอฟริกา ตะวันออก เอเชียใต้ และอีก 30% อยู่ในโซนเอเชียตะวันออก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งการทำตลาดในต่างประเทศในปีหน้าคงจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ จากการส่งออกผลิตภัณฑ์นํ้ามันหล่อลื่อนไปจำหน่าย แต่จะเป็นการเข้าไปลงทุนผลิต จัดตั้งบริษัทจัดจำหน่ายในต่างประเทศ โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ เปิดที่จีนแล้ว 1 แห่ง ส่งผลให้คาดว่าปีหน้าจะสามารถทำตลาดที่จีนได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพิจารณาตลาดเวียดนาม เมียนมา เอเชียใต้ อินเดีย ทวีปแอฟริกา ซึ่งอาจไม่ถึงกับจัดตั้งบริษัท แต่จะเน้นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จัก เนื่องจากในอนาคตกลุ่ม ปตท.อาจเข้าไปทำตลาดเม็ดพลาสติกและพลาสติกขึ้นรูปต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับยอดขายนํ้ามันหล่อลื่นในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯกับจีน ประกอบกับตลาดเพื่อนบ้านมีค่าเงินอ่อนค่า ดังนั้นถือว่าเป็นการปรับตัวของธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่น
นายบุรณิน กล่าวอีกว่า สำหรับงบลงทุนในปี 2562 เบื้องต้นบริษัทตั้งไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 250 ล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการก่อสร้างคลังสินค้าใน จังหวัดฉะเชิงเทรา 700 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้านํ้ามันหล่อลื่นของ ปตท. ให้เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ผ่านการสั่งการโดยคอมพิวเตอร์ในการจัดของ ส่งของ และกระจายสินค้า จะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2563
ส่วนเงินลงทุนอีก 150 ล้านบาทใช้ขยายศูนย์บริการ FIT Auto ในประเทศอีก 10 สาขา ทำให้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 50 สาขา จากสิ้นปีนี้ที่มี 40 สาขา และอีก 150 ล้าน บาทจะใช้รองรับการขยายงานต่างประเทศ ด้วยการจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม, เอเชียใต้ เช่น อินเดีย หรือบังกลาเทศ จากปีนี้ได้จัดตั้งบริษัท PTTOR CHINA เพื่อทำธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นในจีน และจะขยายไปสู่ธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในอนาคตด้วย โดยธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นในจีนจะมีการจ้างโรงงานผลิตนํ้ามันหล่อลื่นตามมาตรฐานของบริษัท พร้อมกับทำการตลาดมากขึ้น นอก จากนี้ยังมีแผนจะขยายศูนย์บริการ FIT Auto ไปยังเมียนมา จากปัจจุบันที่มีในสปป.ลาว 2 แห่ง
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,430 วันที่ 27-29 ธันวาคม 2561
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีโออาร์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นทั้งในและต่างประเทศว่า ในปี 2562 ตลาดนํ้ามันหล่อลื่นในประเทศน่าจะเติบโต 5-10% เทียบกับปี 2561 โดยตั้งเป้าไว้ที่ 160 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่พลาดเป้าและน่าจะทำได้ 150 ล้านลิตร หรือครองตลาดเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 32% จากปริมาณตลาดรวมทั้งหมด 750 ล้านลิตร
[caption id="attachment_366066" align="aligncenter" width="503"]
โดยภาพรวมตลาดนํ้ามันหล่อลื่นในประเทศปีนี้ เติบโตไม่มากนัก หรือโตเพียง 1-2% เท่านั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคานํ้ามันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปี ส่งผลให้ราคานํ้ามันหล่อลื่นสูงขึ้น กระทบต่อความต้องการใช้ลดลง ประกอบกับการแข่งขันรุนแรงมากขึ้น มีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจนี้มากกว่า 230 บริษัท ส่งผลให้แบรนด์ต่างประเทศเข้ามาทำตลาดในประเทศมากขึ้น แย่งส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทไปส่วนหนึ่ง ประกอบกับตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯกับจีน ประกอบกับตลาดเพื่อนบ้านมีค่าเงินอ่อนค่า
อย่างไรก็ตาม ตลาดต่างประเทศในปี 2562 มีโอกาสเติบโตได้ถึง 15-20% จากปัจจุบันบริษัทมียอดขายนํ้ามันหล่อลื่นรวมอยู่ที่ 25 ล้านลิตร มีการส่งออกไปยัง 40 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็นตลาดเมียนมา อันดับ 1 สัดส่วน 40% ที่เหลือ 30% เป็นแอฟริกา ตะวันออก เอเชียใต้ และอีก 30% อยู่ในโซนเอเชียตะวันออก จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งการทำตลาดในต่างประเทศในปีหน้าคงจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ จากการส่งออกผลิตภัณฑ์นํ้ามันหล่อลื่อนไปจำหน่าย แต่จะเป็นการเข้าไปลงทุนผลิต จัดตั้งบริษัทจัดจำหน่ายในต่างประเทศ โดยในไตรมาส 4 ปีนี้ เปิดที่จีนแล้ว 1 แห่ง ส่งผลให้คาดว่าปีหน้าจะสามารถทำตลาดที่จีนได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังพิจารณาตลาดเวียดนาม เมียนมา เอเชียใต้ อินเดีย ทวีปแอฟริกา ซึ่งอาจไม่ถึงกับจัดตั้งบริษัท แต่จะเน้นการประชาสัมพันธ์แบรนด์ไทยให้เป็นที่รู้จัก เนื่องจากในอนาคตกลุ่ม ปตท.อาจเข้าไปทำตลาดเม็ดพลาสติกและพลาสติกขึ้นรูปต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ยอมรับยอดขายนํ้ามันหล่อลื่นในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าสหรัฐฯกับจีน ประกอบกับตลาดเพื่อนบ้านมีค่าเงินอ่อนค่า ดังนั้นถือว่าเป็นการปรับตัวของธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่น
นายบุรณิน กล่าวอีกว่า สำหรับงบลงทุนในปี 2562 เบื้องต้นบริษัทตั้งไว้ประมาณ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 250 ล้านบาท โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่จะใช้ในการก่อสร้างคลังสินค้าใน จังหวัดฉะเชิงเทรา 700 ล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้านํ้ามันหล่อลื่นของ ปตท. ให้เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด ผ่านการสั่งการโดยคอมพิวเตอร์ในการจัดของ ส่งของ และกระจายสินค้า จะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2563
ส่วนเงินลงทุนอีก 150 ล้านบาทใช้ขยายศูนย์บริการ FIT Auto ในประเทศอีก 10 สาขา ทำให้จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 50 สาขา จากสิ้นปีนี้ที่มี 40 สาขา และอีก 150 ล้าน บาทจะใช้รองรับการขยายงานต่างประเทศ ด้วยการจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม, เอเชียใต้ เช่น อินเดีย หรือบังกลาเทศ จากปีนี้ได้จัดตั้งบริษัท PTTOR CHINA เพื่อทำธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นในจีน และจะขยายไปสู่ธุรกิจร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในอนาคตด้วย โดยธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นในจีนจะมีการจ้างโรงงานผลิตนํ้ามันหล่อลื่นตามมาตรฐานของบริษัท พร้อมกับทำการตลาดมากขึ้น นอก จากนี้ยังมีแผนจะขยายศูนย์บริการ FIT Auto ไปยังเมียนมา จากปัจจุบันที่มีในสปป.ลาว 2 แห่ง
หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,430 วันที่ 27-29 ธันวาคม 2561
