"จัมโบ้ ซีฟู๊ด" เจาะตลาด ประเดิม 'ไอคอนสยาม'

27 ธ.ค. 2561 | 08:46 น.
"ซี เจ ซีฟู๊ด" สบช่องธุรกิจร้านอาหารในไทย โตไม่หยุด ทุ่ม 100 ล้านบาท ส่งตรง "จัมโบ้ ซีฟู๊ด" แบรนด์ร้านอาหารซีฟูดสุดดังจากสิงคโปร์ปักหมุดในไทย ประเดิมสาขาแรกศูนย์การค้าไอคอนสยาม ก่อนวางเป้า 5 ปี ขยายเพิ่ม 10 สาขา ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

นายเด็ด ชินสุภัคกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี เจ ซีฟู้ด จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดัง "จัมโบ้ ซีฟู๊ด" จากประเทศสิงคโปร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้รับสิทธิ์แฟรนไชส์แบรนด์ "จัมโบ้ ซีฟู๊ด" จากประเทศสิงคโปร์ เข้ามาทำตลาดในไทยด้วยสัญญา 20 ปี ซึ่งได้เปิดให้บริการสาขาแรกที่ศูนย์การค้าไอคอนสยามไปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา บนพื้นที่ 800 ตร.ม. ถือเป็นร้านอาหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดร้านอาหารหนึ่งของไอคอนสยาม สามารถรองรับลูกค้าได้ 250-300 ที่นั่ง ภายใต้งบประมาณการลงทุนร่วม 100 ล้านบาท โดยมีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Award-Winning Chili Crab และ Signature Black Pepper Crab ล็อบสเตอร์ ปูทาราบะ ปูดันเจนีส และอีกกว่า 200 เมนู เป็นไฮไลต์ในการดึงดูดลูกค้า ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี ทั้งลูกค้าชาวไทยที่รู้จักแบรนด์เป็นอย่างดีอยู่แล้ว และลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในศูนย์ โดยคาดการณ์จะมีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการมากถึงกว่า 2 แสนคน ภายในช่วง 1 ปีแรก

 

[caption id="attachment_366026" align="aligncenter" width="503"] เด็ด ชินสุภัคกุล เด็ด ชินสุภัคกุล[/caption]

"เราเลือกมาเปิดสาขาแรกที่ไอคอนสยาม เนื่องจากมองว่า เป็นโลเกชันที่ดีในการริเริ่มสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะการมีทำเลติดแม่นํ้าเจ้าพระยา ประกอบกับเรื่องคอนเซ็ปต์ของศูนย์ ที่เน้น One Stop Shopping ที่มีแบรนด์แฟชั่นหลากหลาย เชื่อว่าจะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ขณะที่ เรื่องของการลงทุนระยะยาว คือ นโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญ ซึ่งตรงจุดนี้เอง บริษัทมั่นใจว่า โลเกชันไอคอนสยามจะสามารถตอบโจทย์การเติบโตระยะยาวของบริษัทได้"

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายในช่วง 5 ปีนับจากนี้ ด้วยการขยายสาขาในประเทศไทยให้ครบ 10 สาขา แบ่งเป็น สาขาในกรุงเทพฯ 5 สาขา เบื้องต้น ในปีหน้า (2562) บริษัทมีแผนขยายเพิ่มอีก 1 สาขา ย่านในเมือง ในรูปแบบสแตนด์อะโลน ก่อนจะขยายไปยังสาขานอกเมืองและหัวเมืองใหญ่อีก 5 สาขา ภายในช่วง 3 ปีนับจากนี้ ภายใต้งบประมาณการลงทุนราว 60 ล้านบาทต่อสาขา


IMG_6259

ขณะที่ รูปแบบการทำตลาดของแบรนด์ "จัมโบ้ ซีฟู๊ด" ในไทยนับจากนี้ จะให้ความสำคัญกับการสร้างการรับ
รู้แบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทยมากกว่าชาวต่างชาติ เนื่องจากมองว่า ยังเป็นกลุ่มหลักที่มีกำลังซื้อและจะสามารถสร้างการเติบโตได้แบบต่อเนื่องมากกว่าที่จะพึ่งพิงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก โดยจุดเด่นเรื่องราคาที่ถูกกว่าสิงคโปร์ 20-25% และความเป็นเมนูที่โดดเด่นตามแบบต้นฉบับ ก่อนจะพัฒนาเป็นเมนูที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ามาภายในร้านในอนาคต


Jumbo Seafood

อย่างไรก็ตาม บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตของ "จัมโบ้ ซีฟู๊ด" ไว้ใน 2 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การเติบโตจากการขยายสาขาไปในทำเลที่มีศักยภาพทางการเติบโต อาทิ ศูนย์การค้า และ 2.การเติบโตจาก Same Store Growth ที่ปีละ 5-10% ขณะที่ ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารภายใต้การบริหารงานของตนเองขณะนี้ ประกอบไปด้วย 6 แบรนด์หลัก จาก 3 บริษัท ได้แก่ 1.บริษัท ซูชิ เด็น จำกัด ดูแลแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นซูชิเด็น ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 20 สาขา โดยมีแผนขยายเพิ่ม 3-5 สาขาต่อปี 2.บริษัท ชินดี จำกัด ดูแลแบรนด์ร้านอาหารคาปรี (Capri) จำนวน 1 สาขา และมีแผนเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ในปีหน้า, ร้านไวน์ 97 จำนวน 1 สาขา, ร้านลูกัง คาเฟ่ 1 สาขา และร้านอิบูชิ 1 สาขา


IMG_6264

ทั้งนี้ ในปีหน้ามีแผนนำเข้าแบรนด์ใหม่มาทำตลาดในไทย เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเจรจา โดยเป็นรูปแบบของแฟรนไชส์ร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกง ที่มาจากฮ่องกง เน้นเจาะตลาดระดับกลาง-บนเป็นหลัก ซึ่งในช่วง 3 ปีนับจากนี้ บริษัทมีแผนรวมกรุ๊ปบริษัททั้ง 6 แบรนด์ในเครือใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตแบบยั่งยืน พร้อมกับวางเป้าหมายขยายสาขาเพิ่มเป็น 50 สาขา ในทุกแบรนด์ จากปัจจุบันที่มีจำนวนทั้งสิ้น 30 สาขา โดยภาพรวมทุกการเติบโตในปีที่ผ่านมาของทั้ง 6 แบรนด์ อยู่ที่ 20% ขณะที่ ปีหน้าวางเป้าหมายการเติบโตไว้มากกว่า 20%

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,430 ระหว่างวันที่ 27-29 ธันวาคม 2561

595959859