KPNET ฟ้อง 'นพพร' ฟอกเงิน! ศาลรับคดี นัดสืบพยาน ก.พ. 62
"เสี่ยนพพร" โดนอีกคดี! ภายหลังจากศาลรับฟ้องคดี KPNET ยื่นฟ้องฐานฟอกเงิน ลักทรัพย์นายจ้าง ลงบัญชีเท็จและปลอมเอกสาร นัดสืบพยานเดือน ก.พ. 2562
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อ.3757/2559 ที่บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KPNET เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพพร ศุภพิพัฒน์ กับพวกรวม 3 คน ในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ลงบัญชีเป็นเท็จ และความผิดฐานฟอกเงิน
โดยก่อนการพิจารณา ศาลอนุญาตให้ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะโจทก์ ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และ 3 จากนั้นศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า โจทก์มีตัวผู้รับมอบอำนาจเบิกความประกอบเอกสาร ยืนยันว่า นายนพพรโอนหุ้นพิพาทให้แก่ผู้อื่น โดยมีนายนพพรเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง ในราคาต่ำกว่าราคาขายหุ้นเพิ่มทุนอย่างมาก และมีการชำระเงินค่าหุ้นในภายหลังเพียงส่วนน้อย หลังจากนั้นไม่มีการชำระหนี้ค่าหุ้นส่วนที่เหลืออีกเลย อันส่อแสดงถึงพฤติการณ์ในลักษณะที่อาจจะเป็นการวางแผนมาแต่ต้น
แม้นายนพพรจะลงระบบบัญชีว่า มีบุคคลอื่นเป็นลูกหนี้ค่าหุ้นส่วนที่เหลือและขายหุ้นแก่ผู้ซื้อรายอื่นในราคาเดียวกันก็ตาม แต่เมื่อในชั้นนี้เป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้อง นายนพพรยังไม่สามารถนำพยานหลักฐานมาสืบประกอบข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขาดเจตนา
พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำมาไต่สวน ฟังได้ว่า คดีโจทก์มีมูลตามฟ้อง จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา และมีหมายเรียกนายนพพรมาให้การในวันเดียวกับวันนัดตรวจพยาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน โดยให้นัดพร้อมเพื่อสอบปากคำให้การนายนพพรและตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันสืบพยานในวันที่ 26 ก.พ. 2562 เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่ 2 ที่ศาลรับพิจารณากรณี KPNET ยื่นฟ้องนายนพพร ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญารับฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.3930/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อ.763/2561 ในความผิดลักทรัพย์นายจ้าง โดยศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายนพพรเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 หลังไม่มารายงานตัวต่อศาล ส่วนแหล่งที่อยู่ล่าสุดของนายนพพร ปัจจุบันยังคงอยู่ในประเทศฝรั่งเศส หลบหนีหมายจับศาลทหารกรุงเทพในคดีหมิ่นเบื้องสูง ม.112
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผู้พิพากษาออกนั่งพิจารณาคดีหมายเลขดำที่ อ.3757/2559 ที่บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KPNET เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนพพร ศุภพิพัฒน์ กับพวกรวม 3 คน ในความผิดฐานลักทรัพย์นายจ้าง ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ลงบัญชีเป็นเท็จ และความผิดฐานฟอกเงิน
โดยก่อนการพิจารณา ศาลอนุญาตให้ บริษัท เคพีเอ็น เอนเนอยี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะโจทก์ ถอนฟ้องจำเลยที่ 2 และ 3 จากนั้นศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า โจทก์มีตัวผู้รับมอบอำนาจเบิกความประกอบเอกสาร ยืนยันว่า นายนพพรโอนหุ้นพิพาทให้แก่ผู้อื่น โดยมีนายนพพรเป็นผู้รับประโยชน์ที่แท้จริง ในราคาต่ำกว่าราคาขายหุ้นเพิ่มทุนอย่างมาก และมีการชำระเงินค่าหุ้นในภายหลังเพียงส่วนน้อย หลังจากนั้นไม่มีการชำระหนี้ค่าหุ้นส่วนที่เหลืออีกเลย อันส่อแสดงถึงพฤติการณ์ในลักษณะที่อาจจะเป็นการวางแผนมาแต่ต้น
แม้นายนพพรจะลงระบบบัญชีว่า มีบุคคลอื่นเป็นลูกหนี้ค่าหุ้นส่วนที่เหลือและขายหุ้นแก่ผู้ซื้อรายอื่นในราคาเดียวกันก็ตาม แต่เมื่อในชั้นนี้เป็นเพียงชั้นไต่สวนมูลฟ้อง นายนพพรยังไม่สามารถนำพยานหลักฐานมาสืบประกอบข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำที่ขาดเจตนา
พยานหลักฐานโจทก์เท่าที่นำมาไต่สวน ฟังได้ว่า คดีโจทก์มีมูลตามฟ้อง จึงให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา และมีหมายเรียกนายนพพรมาให้การในวันเดียวกับวันนัดตรวจพยาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน โดยให้นัดพร้อมเพื่อสอบปากคำให้การนายนพพรและตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันสืบพยานในวันที่ 26 ก.พ. 2562 เวลา 09.00 น.
สำหรับคดีนี้ถือเป็นคดีที่ 2 ที่ศาลรับพิจารณากรณี KPNET ยื่นฟ้องนายนพพร ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลอาญารับฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.3930/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อ.763/2561 ในความผิดลักทรัพย์นายจ้าง โดยศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับนายนพพรเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2561 หลังไม่มารายงานตัวต่อศาล ส่วนแหล่งที่อยู่ล่าสุดของนายนพพร ปัจจุบันยังคงอยู่ในประเทศฝรั่งเศส หลบหนีหมายจับศาลทหารกรุงเทพในคดีหมิ่นเบื้องสูง ม.112
