‘สมคิด’เร่งสปีดTFFIF2 จี้ให้เสร็จก่อนเลือกตั้ง เคาะวงเงิน 5 หมื่นล้าน

27 ธ.ค. 2561 | 12:55 น.
สคร.แจงขั้นตอนตั้ง TFFIF2 เสร็จแล้ว มูลค่าเบื้องต้น 5 หมื่นล้านบาท เหลือเสนอแก้กฎหมาย ตั้ง SPV รับโอน จ่ายรายได้ค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ 7 และ 9 เข้ากองทุน “สมคิด”เร่งให้ทันรัฐบาลนี้

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) กองแรกของไทย ประสบความสำเร็จด้วยดี จากยอดจองซื้อหน่วยลงทุนที่ออกมาอย่างล้นหลาม ทั้งประชาชนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันที่สูงถึง 4.5 หมื่นล้านบาท รวมถึงหลังเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนดีมาก เพราะถือเป็นทางเลือกใหม่ในการระดมทุนของหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และมีส่วนสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ โดยราคาขึ้นไปสูงสุดที่ 10.40 บาทและยังไม่เคยตํ่ากว่า 10 บาท

สำหรับความคืบหน้าในการออกกองทุน TFFIF2 นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขั้นตอนในส่วนของสคร.ถือว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของกรมทางหลวงที่จะต้องแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สามารถนำรายได้และค่าธรรมเนียมจากค่าผ่านมาเข้ากองทุนได้เหมือนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) เนื่องจากกรมทางหลวงเป็นหน่วยงานรัฐ ไม่ได้เป็นรัฐวิสาหกิจ รายได้ทั้งหมดต้องนำส่งรัฐเป็นรายได้แผ่นดินอยู่แล้ว MP19-3430-A

ทั้งนี้ ตามแผน TFFIF2 จะมีมูลค่ากองทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยเป็นการนำรายได้ของเส้นทางมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 กรุงเทพฯ-บ้านฉาง และมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครของกรมทางหลวงมาเป็นรายได้ของ TFFIF2 แต่เนื่องจากกรมทางหลวงมีกองทุนที่รับโอนรายได้ส่วนนี้อยู่แล้ว จึงไม่ต้องการที่จะนำ TFFIF ไปยุ่งกับกองทุนเดิม จึงจะเป็นการตั้งนิติบุคคลเฉพาะขึ้นมาหรือ SPV เพื่อเป็นตัวกลางในการรับรายได้และเข้ามาทำสัญญากับ TFFIF แทน

“เราจะตั้ง SPV ขึ้นมาเป็นตัวกลางในการรับเงินและจ่ายออก เพื่อไม่ให้กระทบกับกองทุนเดิมที่มีอยู่แล้ว ดังนั้นรูปแบบการสัญญา TFFIF2 จะต่างจากกองทุนแรกที่เป็นการทำสัญญาระหว่าง TFFIFกับกทพ. แต่กองใหม่ ในสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ (RTA)จะเป็นสัญญา 3 ฝ่ายคือ ทางเรา SPV และ TFFIF ซึ่งท่านรองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จี้ให้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อให้ออกทันในรัฐบาลนี้ ซึ่งหากแก้ไขกฎหมายเสร็จ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะมีรูปแบบที่เคยทำมาแล้วกับกทพ.” นายประภาศกล่าว

แอดฐานฯ

สำหรับการซื้อขาย TFFIF ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)นายประภาศกล่าวว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ราคายังสูงกว่าราคาที่ขายให้กับประชาชนทั่วไปที่ 10 บาท ส่วนเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)กรุงไทยฯและเอ็มเอฟซีได้นำไปลงทุนให้เหมาะสม ภายใต้กฎหมายกำหนดคือ ฝากไว้ที่สถาบันการเงิน ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล หรือลงทุนในหลักทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยงหรือความเสี่ยงตํ่า เพราะกทพ.จะเริ่มก่อสร้างโครงการทางพิเศษฉลองรัชและโครงการทางพิเศษบูรพาวิถีปลายปีนี้ถึงกลางปีหน้า จึงต้องการลงทุนให้เกิดผลตอบแทนในช่วงจังหวะที่รอการลงทุน

หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,430 วันที่ 27 - 29 ธันวาคม พ.ศ.2561 595959859