นักสู้ที่มองหาโอกาสและไขว่คว้า สร้างรถไฟ คนไทยก็ทำได้
การเปิดใจเรียนรู้ และพร้อมลุยเต็มที่ คือ วิถีที่ทำให้ “คุณบิว - เมธัส เลิศเศรษฐการ” กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ปิ่นเพชร มารีน จำกัด คนนี้ ประสบความสำเร็จ ในการสร้างธุรกิจของตัวเอง กับการเป็นผู้สร้างรถไฟให้กับคนไทยได้ใช้งาน ในราคาที่เหมาะสม และคุณภาพการใช้งานดี
“เมธัส” เรียนจบบริหารธุรกิจมาจากออสเตรเลีย และก่อนที่จะเข้าช่วยงานในบริษัทซ่อมเรือรบขนาดใหญ่ของคุณพ่อ เขาเคยผ่านสนามแข่งรถมาแล้ว ตามสไตล์ของคนหนุ่มผู้รักความเร็ว ทำให้เขาคิดเร็ว กล้าตัดสินใจ และกล้าทำ เมื่อเข้ามาช่วยงานที่บริษัท ซึ่งทำเกี่ยวกับการซ่อมเรือรบขนาดใหญ่ รวมทั้งการขายอะไหล่เครื่องยนต์เรือรบให้กับกองทัพเรือ และเมื่อได้เรียนรู้ก็พบว่ามีอะไหล่รถไฟบางตัว ก็เป็นอะไหล่ที่เหมือนกับอะไหล่เครื่องยนต์ในกองทัพเรือ เขาจึงลองทำเรื่องเสนอขายให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นการเปิดโอกาสและสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
การสั่งสมประสบการณ์ทั้งด้านงานช่าง งานอะไหล่ และความพร้อมด้านทีมงานซ่อมบำรุง ความสามารถของช่างเชื่อมที่มี เมื่อ ร.ฟ.ท. มีโครงการดัดแปลงรถโบกี้ไฟฟ้า เมื่อมกราคม 2560 เขาจึงลองเข้าประมููล และได้งานมาทำ ซึ่งปัจจุบันโบกี้รถไฟต้นแบบของเขา ได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยไปแล้ว ด้วยคุณภาพที่เทียบได้กับมาตรฐานยุโรปเลยทีเดียว
เมื่อถามว่า ทำไมถึงกล้าตัดสินใจเข้าประมูลงานที่ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน “คุณบิว” เล่าว่า นอกจากความพร้อมของทีมงาน ตัวเขาเอง ก็ผ่านการฝึกอบรมมาจากหลายๆ ที่ ไปดูงานและฝึกอบรมที่ประเทศจีนบ่อยมาก อาศัยการเรียนรู้จากการได้ทดลองทำ ใส่ใจกับการดูผู้เชี่ยวชาญในที่ต่างๆ ในลักษณะของครูพักลักจำ และที่หลักๆ ก็คือ การทำเป็นผู้จัดการโปรเจ็กต์การซ่อมเรือรบ คุมทีมงานลงมือเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นงานที่เสริมจากคุณพ่อ ที่เน้นงานขายเป็นหลัก
“ช่วงแรกๆ ก็ติดขัดทุกจุด เราไม่มีใบรับรองผลงาน คือ ทุกคนก็ถาม ยูเคยสร้างรถไฟเหรอ ถ้าถามคำถามนี้ก็จบ สร้างไม่ได้ ผมต้องสู้กับคำนี้มาร่วมปี เรามีเป้าหมายว่าจะทำแบบนี้ เราคำนวณแล้ว มันทำได้ จนมันผ่านมาได้ ทุกสิ่งที่ออกแบบ และตัดสินใจทำ เราตั้งคำถามกับตัวเอง ถ้าเราตอบได้แล้ว เราก็ทำ”
ผู้ชายคนนี้มองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ จากงานซ่อมเรือรบที่กองทัพเรือ ต้องเสียเงินวันละหลายหมื่นบาท เพื่อจ้างซูเปอร์ไวเซอร์ต่างชาติเข้ามาทำงานซ่อมบำรุงเรือรบ “คุณบิว” จึงอาสาเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของกองทัพเรือ โดยการนำความสามารถและทีมงานที่มี เข้าไปเสนอตัว เช่นเดียวกับ ร.ฟ.ท. ที่มีปัญหากับค่าซ่อมบำรุงที่ตีมูลค่าแล้วกว่า 70 ล้านบาท แต่หากให้ทีมงานของเขาทำ สามารถทำได้ในราคาเพียงกว่า 20 ล้านบาท ถือว่าถูกกว่าและประหยัดกว่ามาก
การทำงานของ “คุณบิว” ไม่ใช่ใช้แค่ความสามารถทางด้านฝีมือ แต่เป็นการประสานงานกับพาร์ตเนอร์ผู้มีความรู้
ทั้งอาจารย์ในสถาบันต่างๆ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยวิจัยระบบราง คำนวณโครงสร้าง ทุกฝ่ายช่วยกันคิดจนได้งานออกมา
“ถึงจะไม่ได้เรียนตรงสาย แต่ผมศึกษาหนักมากๆ ศึกษาจนเข้าใจ และสามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด เราต้องพยายามขวนขวายหาความรู้”
คีย์ของความสำเร็จ ในการลุยต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ของผู้ชายคนนี้ คือ การรับฟังปัญหา ไม่ใช่แค่รับฟังจากผู้บริหาร ร.ฟ.ท. แต่รวมถึงผู้ใช้บริการรถไฟด้วย ซึ่งเขาพบว่ารถไฟที่ซื้อมาจากต่างประเทศฟังก์ชันการใช้งานบางอย่างก็ไม่เหมาะกับเมืองไทย เมื่อรับฟังความคิดเห็นแล้วก็นำมาปรับใช้ และทำให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทยให้มากที่สุด
เส้นทางบนสายธุรกิจของ “คุณบิว” ยังเดินหน้าต่อไปบนสายรถไฟ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ายังสนุกมากๆ และมีความสุขมากๆ ที่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ เพราะนอกจากได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ได้แสดงฝีมือของคนไทยให้คนต่างชาติรับรู้แล้ว งานที่สำเร็จออกมา ยังสามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับเขาอย่างมากด้วย และนอกจากการลุยงานในประเทศแล้ว เขาก็พร้อมจะต่อยอดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องของ รถไฟอาเซียน และรถโดยสาร ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เขาจะเข้าไปลุยงานตรงนี้ต่อ
“เป้าหมายของผม คือ อยากทำศูนย์ซ่อมบำรุง รับซ่อมบำรุง รถไฟ รถโดยสาร รถขนสินค้า รถคอนเทนเนอร์ เพื่อทำให้ร.ฟ.ท. สามารถบริหารจัดการเงินได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าไปจ้างจีน ก็ต้องเสียเวลาส่งเข้าซ่อมในโรงงาน”
ขณะนี้ ปิ่นเพชร มารีน กำลังขยายการลงทุนเพื่อรองรับงาน ที่เพิ่มขึ้น และเป้าหมายที่จะเดินต่อไป ด้วยการลงทุนเกือบ 4 ไลน์ผลิต งบกว่า 60-70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปี 2563 “คุณบิว” บอกว่า เขาไม่อยากสร้างธุรกิจให้ใหญ่เทอะทะ แต่ต้องเป็นธุรกิจที่สามารถขยายตัวได้ เมื่อมีโอกาส เขาก็พร้อมลุย เหมือนเช่นที่เคยทำ และประสบความสำเร็จมาแล้ว
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,430 วันที่ 27 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561
“เมธัส” เรียนจบบริหารธุรกิจมาจากออสเตรเลีย และก่อนที่จะเข้าช่วยงานในบริษัทซ่อมเรือรบขนาดใหญ่ของคุณพ่อ เขาเคยผ่านสนามแข่งรถมาแล้ว ตามสไตล์ของคนหนุ่มผู้รักความเร็ว ทำให้เขาคิดเร็ว กล้าตัดสินใจ และกล้าทำ เมื่อเข้ามาช่วยงานที่บริษัท ซึ่งทำเกี่ยวกับการซ่อมเรือรบขนาดใหญ่ รวมทั้งการขายอะไหล่เครื่องยนต์เรือรบให้กับกองทัพเรือ และเมื่อได้เรียนรู้ก็พบว่ามีอะไหล่รถไฟบางตัว ก็เป็นอะไหล่ที่เหมือนกับอะไหล่เครื่องยนต์ในกองทัพเรือ เขาจึงลองทำเรื่องเสนอขายให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นการเปิดโอกาสและสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับตัวเอง
การสั่งสมประสบการณ์ทั้งด้านงานช่าง งานอะไหล่ และความพร้อมด้านทีมงานซ่อมบำรุง ความสามารถของช่างเชื่อมที่มี เมื่อ ร.ฟ.ท. มีโครงการดัดแปลงรถโบกี้ไฟฟ้า เมื่อมกราคม 2560 เขาจึงลองเข้าประมููล และได้งานมาทำ ซึ่งปัจจุบันโบกี้รถไฟต้นแบบของเขา ได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยไปแล้ว ด้วยคุณภาพที่เทียบได้กับมาตรฐานยุโรปเลยทีเดียว
เมื่อถามว่า ทำไมถึงกล้าตัดสินใจเข้าประมูลงานที่ตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน “คุณบิว” เล่าว่า นอกจากความพร้อมของทีมงาน ตัวเขาเอง ก็ผ่านการฝึกอบรมมาจากหลายๆ ที่ ไปดูงานและฝึกอบรมที่ประเทศจีนบ่อยมาก อาศัยการเรียนรู้จากการได้ทดลองทำ ใส่ใจกับการดูผู้เชี่ยวชาญในที่ต่างๆ ในลักษณะของครูพักลักจำ และที่หลักๆ ก็คือ การทำเป็นผู้จัดการโปรเจ็กต์การซ่อมเรือรบ คุมทีมงานลงมือเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นงานที่เสริมจากคุณพ่อ ที่เน้นงานขายเป็นหลัก
“ช่วงแรกๆ ก็ติดขัดทุกจุด เราไม่มีใบรับรองผลงาน คือ ทุกคนก็ถาม ยูเคยสร้างรถไฟเหรอ ถ้าถามคำถามนี้ก็จบ สร้างไม่ได้ ผมต้องสู้กับคำนี้มาร่วมปี เรามีเป้าหมายว่าจะทำแบบนี้ เราคำนวณแล้ว มันทำได้ จนมันผ่านมาได้ ทุกสิ่งที่ออกแบบ และตัดสินใจทำ เราตั้งคำถามกับตัวเอง ถ้าเราตอบได้แล้ว เราก็ทำ”
ผู้ชายคนนี้มองเห็นโอกาสในการต่อยอดธุรกิจ จากงานซ่อมเรือรบที่กองทัพเรือ ต้องเสียเงินวันละหลายหมื่นบาท เพื่อจ้างซูเปอร์ไวเซอร์ต่างชาติเข้ามาทำงานซ่อมบำรุงเรือรบ “คุณบิว” จึงอาสาเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายของกองทัพเรือ โดยการนำความสามารถและทีมงานที่มี เข้าไปเสนอตัว เช่นเดียวกับ ร.ฟ.ท. ที่มีปัญหากับค่าซ่อมบำรุงที่ตีมูลค่าแล้วกว่า 70 ล้านบาท แต่หากให้ทีมงานของเขาทำ สามารถทำได้ในราคาเพียงกว่า 20 ล้านบาท ถือว่าถูกกว่าและประหยัดกว่ามาก
การทำงานของ “คุณบิว” ไม่ใช่ใช้แค่ความสามารถทางด้านฝีมือ แต่เป็นการประสานงานกับพาร์ตเนอร์ผู้มีความรู้
ทั้งอาจารย์ในสถาบันต่างๆ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญ มาช่วยวิจัยระบบราง คำนวณโครงสร้าง ทุกฝ่ายช่วยกันคิดจนได้งานออกมา
“ถึงจะไม่ได้เรียนตรงสาย แต่ผมศึกษาหนักมากๆ ศึกษาจนเข้าใจ และสามารถตอบคำถามได้ทั้งหมด เราต้องพยายามขวนขวายหาความรู้”
เส้นทางบนสายธุรกิจของ “คุณบิว” ยังเดินหน้าต่อไปบนสายรถไฟ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ายังสนุกมากๆ และมีความสุขมากๆ ที่ได้เข้ามาทำงานตรงนี้ เพราะนอกจากได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ได้แสดงฝีมือของคนไทยให้คนต่างชาติรับรู้แล้ว งานที่สำเร็จออกมา ยังสามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับเขาอย่างมากด้วย และนอกจากการลุยงานในประเทศแล้ว เขาก็พร้อมจะต่อยอดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเรื่องของ รถไฟอาเซียน และรถโดยสาร ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เขาจะเข้าไปลุยงานตรงนี้ต่อ
“เป้าหมายของผม คือ อยากทำศูนย์ซ่อมบำรุง รับซ่อมบำรุง รถไฟ รถโดยสาร รถขนสินค้า รถคอนเทนเนอร์ เพื่อทำให้ร.ฟ.ท. สามารถบริหารจัดการเงินได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าไปจ้างจีน ก็ต้องเสียเวลาส่งเข้าซ่อมในโรงงาน”
ขณะนี้ ปิ่นเพชร มารีน กำลังขยายการลงทุนเพื่อรองรับงาน ที่เพิ่มขึ้น และเป้าหมายที่จะเดินต่อไป ด้วยการลงทุนเกือบ 4 ไลน์ผลิต งบกว่า 60-70 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ประมาณปี 2563 “คุณบิว” บอกว่า เขาไม่อยากสร้างธุรกิจให้ใหญ่เทอะทะ แต่ต้องเป็นธุรกิจที่สามารถขยายตัวได้ เมื่อมีโอกาส เขาก็พร้อมลุย เหมือนเช่นที่เคยทำ และประสบความสำเร็จมาแล้ว
หน้า 26-27 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,430 วันที่ 27 - 29 ธันวาคม พ.ศ. 2561
