ราคาน้ำมันดิบปรับลดแตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 ปี จากความกังวลเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 25 ธันวาคม 2561
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนส.ค. 60 หลังนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งได้รับแรงกดดันจากการปิดบริการของรัฐบาลกลางแห่งสหรัฐฯ (Government Shutdown) หลังวุฒิสภาไม่อนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งครอบคลุมงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐและเม็กซิโก
- นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากกระแสเงินที่ไหลออกจากสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทั้งนี้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ได้ปรับตัวลดลง 653.17 จุดลงไปแตะระดับ 21,792.20 จุด ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดตั้งแต่วิกฤติหนี้สินของกลุ่มประเทศยุโรปในปี 2554
+ กลุ่มโอเปกและพันธมิตรพร้อมที่จะลดระดับกำลังการผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันตั้งแต่ ม.ค. 62 นี้ เพื่อเป็นการปรับสมดุลตลาดน้ำมันดิบโลกให้ราคามีเสถียรภาพอีกครั้ง หลังจากได้มีการประชุมหารือกันมาตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา
+ นาย Suhail al-Mazrouei รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เปิดเผยว่า กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรพร้อมที่จะเรียกประชุมหารือรอบพิเศษอีกครั้ง หากการปรับลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันไม่สามารถสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมันดิบได้ในปีหน้า
ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดปิดเนื่องในวัน Christmas Eve
ราคาน้ำมันดีเซล ตลาดปิดเนื่องในวัน Christmas Eve
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 40-45 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
กลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลง จากแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง หลังเศรษฐกิจจีนและยุโรปค่อนข้างซบเซา ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังธนาคารกลาง (เฟด) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
อุปทานน้ำมันดิบโลกคาดปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจาก คาดว่าแหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของลิเบียจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีลิเบียสามารถตกลงกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธได้สำเร็จ หลังกองกำลังติดอาวุธเข้าบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ส่งผลให้บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย (NOC) ต้องประกาศเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) ยกเลิกการส่งน้ำมันดิบจากแหล่งผลิต
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังโรงกลั่นดำเนินการด้วยอัตราการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง ประกอบกับอุปทานน้ำมันดีเซลและอากาศยานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
[caption id="attachment_365443" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]