หวั่น! นักช็อปออนไลน์รับภาระ "Shopee" คิดค่าธุรกรรมบัตรเครดิตและเดบิต 1.5%
วันที่ 24 ธ.ค. 2561 'ช้อปปี้' ได้ส่งอีเมล์แจ้งผู้จำหน่ายสินค้าและลูกค้าในระบบ ว่า ช้อปปี้จะคิดค่าธุรกรรมผ่านบัครเครดิตและเดบิต 1.5% ของยอดขายที่ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและเดบิต ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2562 เป็นต้นไป
การคิดคำนวณค่าธุรกรรมมบัตรเครดิตและเดบิตจะมีการคิดจากทุกคำสั่งซื้อที่มีการชำระผ่านช่องทางบัตรเครดิตหรือเดบิต คิดเป็น 1.5% ของยอดขายที่ลูกค้าชำระผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต โดยคิด (รวมจากยอดรวมที่ลูกค้าชำระจริงรวมค่าขนส่งและหักส่วนลดจากโค้ด และ Shopee Coins แล้ว) โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว และจะหักจากยอดขายของร้านค้าอัตโนมัติ
สำหรับค่าธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตและเดบิตจะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีการชำระสินค้าด้วยวิธีดังกล่าวจากยอดรวมที่ผู้ซื้อได้ชำระเงินจริง (ค่าจัดส่ง, ค่าส่วนลดสินค้า และอื่น ๆ)
จากอีเมล์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ซื้อเกิดความสับสน ว่า การคิดค่าธุรกรรมดังกล่าวจะกลายเป็นภาระที่อนาคตผู้ขายอาจบวกรวมเข้าไปกับราคาสินค้าหรือไม่
Google เคยเผยผลการศึกษาพฤติกรรมซื้อของในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ของคนไทย พบว่า การเติบโตของการซื้อสินค้าออนไลน์มีสูงมาก ปัจจัยที่ทำให้คนไทยช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น เกิดจาก "ราคา" ที่ไม่สูงมากนัก พอรับความเสี่ยงในกรณีที่ไม่ได้เห็นสินค้าก่อน และปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนกลุ่มที่ไม่เคยซื้อสินค้าออนไลน์หันมาทดลองซื้อสินค้าในระบบออนไลน์ ได้แก่ คำบอกเล่าของคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนหรือคนในครอบครัว และตัวเลือกในการชำระเงินที่ยืดหยุ่น ทั้งการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ เดบิต รวมไปถึงบริการ Cash & Delivery คือ การจ่ายเงินสด หรือ บริการจ่ายเงินปลายทาง ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยในการช็อปปิ้งมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฎิบัติการช้อปปี้ ได้เปิดเผยผลการดำเนินของช้อปปี้ก่อนหน้านี้ ว่า ช้อปปี้มีการเติบโตสูง มีผู้ใช้งานกว่า 160 ล้านคนในภูมิภาคอาเซียนและไต้หวัน แบ่งเป็น ผู้ใข้คนไทย 23 ล้านคน มีจำนวนร้านค้ากว่า 8 แสนร้านค้า และมีแบรนด์พันธมิตรมากกว่า 60 แบรนด์ หลังเปิดให้บริการมา 3 ปี โดยปัจจัยที่ทำให้ช้อปปี้เติบโตสูงในไทยเกิดจากการปรับเนื้อหาให้เข้ากับผู้ใช้ โดยในไทยมีการทำคอนเทนต์และแอพพลิเคชันภาษาไทย รวมถึงมีการปรับบริการให้เข้ากับพฤติกรรมคนไทย เช่น การจ่ายเงินปลายทาง เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ต้องการเห็นของก่อนซื้อ
สำหรับตลาดออนไลน์ของไทยยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ช้อปปี้ยังมีโอกาสการขยายตลาดในเมืองไทยอีกมาก โดยประเมินว่า จนถึงสิ้นปีนี้จะสามารถทำตัวเลขการเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก และช้อปปี้ยังประสบความสำเร็จจากแคมเปญ 11.11 ปีนี้ช้อปปี้สามารถทุบสถิติปีก่อนได้ในเวลา 07.46 น (GMT+8) โดยในวันที่ 11 พ.ย. 2561 ทั่วทั้งภูมิภาคมีจำนวนยอดคำสั่งซื้อกว่า 11 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 4.5 เท่า มีจำนวนนักช็อปมากกว่า 42 ล้านคน เข้ามาทำการสั่งซื้อ และแคมเปญ 12.12 มียอดจำหน่ายสินค้ามากกว่า 12 ล้านรายการ มีสินค้ากว่า 74,000 ชิ้น ภายใน 1 นาที มีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 48 ล้านคน
การคิดคำนวณค่าธุรกรรมมบัตรเครดิตและเดบิตจะมีการคิดจากทุกคำสั่งซื้อที่มีการชำระผ่านช่องทางบัตรเครดิตหรือเดบิต คิดเป็น 1.5% ของยอดขายที่ลูกค้าชำระผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต โดยคิด (รวมจากยอดรวมที่ลูกค้าชำระจริงรวมค่าขนส่งและหักส่วนลดจากโค้ด และ Shopee Coins แล้ว) โดยค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% แล้ว และจะหักจากยอดขายของร้านค้าอัตโนมัติ
สำหรับค่าธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตและเดบิตจะถูกคิดก็ต่อเมื่อมีการชำระสินค้าด้วยวิธีดังกล่าวจากยอดรวมที่ผู้ซื้อได้ชำระเงินจริง (ค่าจัดส่ง, ค่าส่วนลดสินค้า และอื่น ๆ)
จากอีเมล์ดังกล่าวอาจทำให้ผู้ซื้อเกิดความสับสน ว่า การคิดค่าธุรกรรมดังกล่าวจะกลายเป็นภาระที่อนาคตผู้ขายอาจบวกรวมเข้าไปกับราคาสินค้าหรือไม่
Google เคยเผยผลการศึกษาพฤติกรรมซื้อของในเว็บช็อปปิ้งออนไลน์ของคนไทย พบว่า การเติบโตของการซื้อสินค้าออนไลน์มีสูงมาก ปัจจัยที่ทำให้คนไทยช็อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น เกิดจาก "ราคา" ที่ไม่สูงมากนัก พอรับความเสี่ยงในกรณีที่ไม่ได้เห็นสินค้าก่อน และปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนกลุ่มที่ไม่เคยซื้อสินค้าออนไลน์หันมาทดลองซื้อสินค้าในระบบออนไลน์ ได้แก่ คำบอกเล่าของคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนหรือคนในครอบครัว และตัวเลือกในการชำระเงินที่ยืดหยุ่น ทั้งการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ เดบิต รวมไปถึงบริการ Cash & Delivery คือ การจ่ายเงินสด หรือ บริการจ่ายเงินปลายทาง ที่ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยในการช็อปปิ้งมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม นายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฎิบัติการช้อปปี้ ได้เปิดเผยผลการดำเนินของช้อปปี้ก่อนหน้านี้ ว่า ช้อปปี้มีการเติบโตสูง มีผู้ใช้งานกว่า 160 ล้านคนในภูมิภาคอาเซียนและไต้หวัน แบ่งเป็น ผู้ใข้คนไทย 23 ล้านคน มีจำนวนร้านค้ากว่า 8 แสนร้านค้า และมีแบรนด์พันธมิตรมากกว่า 60 แบรนด์ หลังเปิดให้บริการมา 3 ปี โดยปัจจัยที่ทำให้ช้อปปี้เติบโตสูงในไทยเกิดจากการปรับเนื้อหาให้เข้ากับผู้ใช้ โดยในไทยมีการทำคอนเทนต์และแอพพลิเคชันภาษาไทย รวมถึงมีการปรับบริการให้เข้ากับพฤติกรรมคนไทย เช่น การจ่ายเงินปลายทาง เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่ต้องการเห็นของก่อนซื้อ
สำหรับตลาดออนไลน์ของไทยยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น กลุ่มผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังเป็นคนรุ่นใหม่ ทำให้ช้อปปี้ยังมีโอกาสการขยายตลาดในเมืองไทยอีกมาก โดยประเมินว่า จนถึงสิ้นปีนี้จะสามารถทำตัวเลขการเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก และช้อปปี้ยังประสบความสำเร็จจากแคมเปญ 11.11 ปีนี้ช้อปปี้สามารถทุบสถิติปีก่อนได้ในเวลา 07.46 น (GMT+8) โดยในวันที่ 11 พ.ย. 2561 ทั่วทั้งภูมิภาคมีจำนวนยอดคำสั่งซื้อกว่า 11 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ถึง 4.5 เท่า มีจำนวนนักช็อปมากกว่า 42 ล้านคน เข้ามาทำการสั่งซื้อ และแคมเปญ 12.12 มียอดจำหน่ายสินค้ามากกว่า 12 ล้านรายการ มีสินค้ากว่า 74,000 ชิ้น ภายใน 1 นาที มีจำนวนผู้เข้าใช้งาน 48 ล้านคน
