เร่งสอบ "คลิปแจกบัตรคนจน-โต๊ะจีนระดมทุน" ไม่เกิน 60 วัน
ที่ประชุม 7 กกต. รู้ข้อเท็จจริง แนะสำนักงานติดตามตั้งแต่ต้น หวั่นช้าจะถูกหยิบประเด็นทางการเมือง นายทะเบียนพรรคปัดตอบคุณสมบัติหัวหน้าพรรค ด้าน 'อุตตม' อ้างยังไม่เห็นเรื่อง
วันนี้ (24 ธ.ค. 61) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวกรณีมีคลิปเผยแพร่อ้างว่า มีการแจกบัตรคนจน แต่โดนบังคับให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ยโสธร นั้น ว่า ถ้ามีเหตุอะไรต่าง ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นก่อนการคลายล็อค เราก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ กรณีมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ให้ด้านสืบสวนสอบสวนได้แจ้งไปยังหน่วยข่าวทางจังหวัดเพื่อตรวจสอบ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 30-60 วัน ในการสรุปข้อเท็จจริง ก็จะทราบว่าเป็นความผิดตามข้อกฎหมายใด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางสำนักงานได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อที่ประชุม กกต. รวมถึงกรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรค พปชร. หรือ กรณีคลิปดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้ซักถามถึงขั้นตอนการทำงาน และให้แนวปฏิบัติว่า ในกรณีที่จะมีการจัดงานและเห็นว่าเสี่ยงอาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย หากสำนักงานทราบล่วงหน้า ก็ควรที่จะเข้าไปติดตามตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าพอเป็นข่าวก็เข้าไปแก้ไข ซึ่งการให้ข่าวล่าช้าทำให้ถูกหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง และถ้าหากกรณีที่สำนักงานเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายแล้ว ก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีมูล ก็ต้องเสนอให้ กกต. ตั้งคณะกรรมการไต่สวน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า การเริ่มตรวจสอบก็อาจจะเริ่มจากการนำเสนอข่าวของสื่อ โดยครั้งที่แล้วได้มีการเชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล เป็นการค่อย ๆ ก้าวเข้าไปของเจ้าพนักงาน ว่า ได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เพื่อให้สามารถดำเนินการสืบสวนต่อไปได้
"อย่างเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนที่มีการนำเสนอรูปผังที่นั่งในงาน เราก็ต้องเชิญสื่อที่นำเสนอข้อมูลดังกล่าวมาให้ข้อมูล ว่า ผังดังกล่าวได้มาจากไหน ได้มาจากใคร"
เมื่อถามว่า ถ้าข้าราชการมีการบริจาค แล้วต่อมาพรรค พปชร. คืนเงิน ให้ถือเป็นความผิดหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ การคืนเงินแล้วยังผิดหรือไม่ ต้องไปดู เพราะเรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายทางอาญา และถ้าพบว่า มีมูลความผิดทางอาญาก็มีวิธีดำเนินการหลายวิธี เช่น ส่งพนักงานสอบสวน ส่งอัยการ
เมื่อถามต่อว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ร้องตรวจสอบ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. ที่สมัครเป็นสมาชิกหลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเรื่อง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง คงสอบได้ไม่ยาก แต่โดยกฎหมายแล้วหากมีชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดตั้งพรรคความสมาชิกของผู้ก่อตั้ง จะนับย้อนไปถึงวันที่มายื่นขอยื่นจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
วันนี้ (24 ธ.ค. 61) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวกรณีมีคลิปเผยแพร่อ้างว่า มีการแจกบัตรคนจน แต่โดนบังคับให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เหตุเกิดในพื้นที่ จ.ยโสธร นั้น ว่า ถ้ามีเหตุอะไรต่าง ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นก่อนการคลายล็อค เราก็จะเก็บเป็นข้อมูลไว้ กรณีมีการเผยแพร่คลิปดังกล่าว ให้ด้านสืบสวนสอบสวนได้แจ้งไปยังหน่วยข่าวทางจังหวัดเพื่อตรวจสอบ ซึ่งโดยเฉลี่ยจะใช้เวลา 30-60 วัน ในการสรุปข้อเท็จจริง ก็จะทราบว่าเป็นความผิดตามข้อกฎหมายใด โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางสำนักงานได้รายงานข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อที่ประชุม กกต. รวมถึงกรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรค พปชร. หรือ กรณีคลิปดังกล่าว ซึ่งที่ประชุมได้ซักถามถึงขั้นตอนการทำงาน และให้แนวปฏิบัติว่า ในกรณีที่จะมีการจัดงานและเห็นว่าเสี่ยงอาจเกิดการกระทำผิดกฎหมาย หากสำนักงานทราบล่วงหน้า ก็ควรที่จะเข้าไปติดตามตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ว่าพอเป็นข่าวก็เข้าไปแก้ไข ซึ่งการให้ข่าวล่าช้าทำให้ถูกหยิบไปเป็นประเด็นการเมือง และถ้าหากกรณีที่สำนักงานเห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายแล้ว ก็ต้องตรวจสอบพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีมูล ก็ต้องเสนอให้ กกต. ตั้งคณะกรรมการไต่สวน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า การเริ่มตรวจสอบก็อาจจะเริ่มจากการนำเสนอข่าวของสื่อ โดยครั้งที่แล้วได้มีการเชิญให้สื่อมาให้ข้อมูล เป็นการค่อย ๆ ก้าวเข้าไปของเจ้าพนักงาน ว่า ได้ทราบข้อมูลเหล่านี้มาจากไหน เพื่อให้สามารถดำเนินการสืบสวนต่อไปได้
"อย่างเรื่องการจัดโต๊ะจีนระดมทุนที่มีการนำเสนอรูปผังที่นั่งในงาน เราก็ต้องเชิญสื่อที่นำเสนอข้อมูลดังกล่าวมาให้ข้อมูล ว่า ผังดังกล่าวได้มาจากไหน ได้มาจากใคร"
เมื่อถามว่า ถ้าข้าราชการมีการบริจาค แล้วต่อมาพรรค พปชร. คืนเงิน ให้ถือเป็นความผิดหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ การคืนเงินแล้วยังผิดหรือไม่ ต้องไปดู เพราะเรื่องนี้เป็นข้อกฎหมายทางอาญา และถ้าพบว่า มีมูลความผิดทางอาญาก็มีวิธีดำเนินการหลายวิธี เช่น ส่งพนักงานสอบสวน ส่งอัยการ
เมื่อถามต่อว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แกนนำพรรคไทยรักษาชาติ ร้องตรวจสอบ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. ที่สมัครเป็นสมาชิกหลังจากที่ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเรื่อง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง คงสอบได้ไม่ยาก แต่โดยกฎหมายแล้วหากมีชื่อเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เมื่อนายทะเบียนพรรคการเมืองรับจดตั้งพรรคความสมาชิกของผู้ก่อตั้ง จะนับย้อนไปถึงวันที่มายื่นขอยื่นจัดตั้งพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
