อปท. ขานรับนโยบายเดินหน้า "ถนนยางพารา"
นายทวี เสริมภักดีกุล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในส่วนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กำลังอยู่ในระหว่างนัดประชุมหารือกับทางการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และ อปท. ทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ว่าจะเป็น เรื่องแบบมาตรฐาน เนื่องจาก "โครงการถนนพาราซอยด์ซีเมนต์" เป็นโครงการใหม่ จำเป็นที่จะต้องมีการพูดคุยหารือกันเพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างการรับรู้ในการดำเนินงาน โดยเฉพาะในเรื่องแบบถนน เพราะเป็นหัวใจสำคัญ
"หลักในการดำเนินงานที่จะต้องมีการเร่งประชุมกับ อปท. ทั่วประเทศ กับ กยท. เพื่อเร่งรัดในการดำเนินโครงการ ได้แก่ 1.พิจารณาเรื่องงบประมาณ หรือ เงินสะสมของ อปท. ที่มีอยู่ ว่า มีเงินสะสมเหลือเพียงพอหรือไม่ 2.ต้องพิจารณาพื้นที่ ว่า ในพื้นที่มีถนนลูกรังที่จะดำเนินการได้หรือไม่ เพราะบาง อปท. เช่น ในเขตเทศบาล ถนนลูกรังที่จะมาใช้กับถนนพาราซอยด์ซีเมนต์ไม่มี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นถนนคอนกรีตทั้งหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจำเป็นที่จะต้องไปหาพื้นที่ที่จะใช้กับถนนดังกล่าวนี้ได้ ดังนั้น ปัจจัยสำคัญ ก็คือ งบประมาณ สถานที่ และแบบมาตรฐานถนน จะต้องมีการหารือให้ชัดเจน ว่า จะดำเนินการอย่างไร"
นายทวี กล่าวในตอนท้ายว่า ยินดีที่จะสนับสนุนนโยบายรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การดำเนินงานมีความชัดเจนในเรื่องของแบบมาตรฐาน วิธีการดำเนินงาน จะเร่งประสานงานให้โดยเร็ว จึงจำเป็นที่จะต้องมีการพูดคุยและหารือกับหน่วยงานปฏิบัติต่าง ๆ อีกครั้งหนึ่ง สรุปก็คือ อยู่ในระหว่างการประสานงานที่จะขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล
ด้าน นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ ประธานสภาเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (สยยท.) และในฐานะกรรมการคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เผยว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการจัดงบประมาณจากระทรวงมหาดไทยเพื่อทำถนนพาราดินซีเมนต์ส เพื่อดูดซับยางออกจากระบบ ซึ่งจะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพดีขึ้นนั้น ทาง สยยท. จึงแต่งตั้งคณะทำงานติดตามและประสานงานงาน ดังนี้ นายทศพล ขวัญรอด เป็นประธานคณะทำงาน, นายนิวัตร ท่องวิถี เป็นรองประธานคณะทำงาน ส่วนคณะทำงาน ประกอบด้วย นายจรูญ พูนยิ้ม, นายไพรัตน์ เพชรคง, นายประยูร สดใส, นายอเนก บุตรโสภา, นายศิริชัย ห่านวิบูลย์พงศ์ ส่วนเลขานุการ นายทวีศิลป์ ประทีป
หน้าที่ของคณะทำงานจะทำหน้าที่ประสานงานและติดตามกับหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการพาราดินซีเมนต์ เพื่อให้ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ให้เกษตรกรชาวสวนยางให้ขายยางในโครงการนี้ได้โดยรับความเป็นธรรม หรือหากหน่วยงานใดติดปัญหาในการทำถนน ในเรื่องการเบิกจ่าย การสร้างถนนให้ถูกต้องตามระเบียบราชการและการจัดหาน้ำยางสดจากเกษตรกร จะต้องเป็นผู้ประสานงานหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
ในการประสานงานของคณะทำงานชุดนี้จะต้องเสียสละเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ เพราะเป็นคณะทำงานอาสาสมัครเอง มาเบิกจ่ายค่าเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยงไม่ได้ เพราะตาม พ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย มาตรา 49(6) คณะเราไม่มีสิทธิ์ ถึงแม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้พูดในที่ประชุม กนย. ว่า ให้ดูแลแต่ สยยท. ไม่เคยได้รับเงินเซสส์ที่เสียไป 2 บาทต่อกิโลกรัม มาเป็นค่าเดินทางตามมาตรา 49(6) จึงขอร้องให้ทุกคนได้เสียสละเงินและเวลาเข้าทำงาน โดยไม่มีผลตอบแทนเพื่อเกษตรกรชาวสวนยางทั้งประเทศ
