ปตท. ถอยกรูด! หั่นงบ 5 ปี ลดลงเท่าตัว จาก 3.4 แสนล้าน เหลือ 1.67 แสนล้าน

21 ธ.ค. 2561 | 11:43 น.
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า คณะกรรมการบริษัทในการประชุมเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติแผนการลงทุน 5 ปี (2562-2566) ของบริษัท วงเงินรวม 167,114 ล้านบาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้

วงเงินสำหรับการร่วมทุนและการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% จำนวน 101,205 ล้านบาท หรือสัดส่วน 61%, ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 27,527 ล้านบาท หรือ 16%, สำนักงานใหญ่และอื่น ๆ 15,695 ล้านบาท หรือ 9%, ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย 11,779 ล้านบาท หรือ 7% และธุรกิจก๊าซธรรมชาติลงทุน 10,908 ล้านบาท หรือ 7%

ทั้งนี้ การลงทุนส่วนใหญ่ของ ปตท. เป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และการร่วมทุนและการลงทุนในบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% อาทิ ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ การขยายขีดความสามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) การขยายงานของธุรกิจน้ำมัน และธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provision) จำนวน 187,616 ล้านบาท โดยหลักเพื่อขยายธุรกิจหลัก (Core Business) เช่น LNG Value Chain และการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่จะเป็น New S-Curve ของ ปตท. ซึ่งจะตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มการใช้พลังงานสะอาด และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ ซึ่งธุรกิจใหม่เหล่านี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้


4428

สำหรับการอนุมัติแผนการลงทุนของ ปตท. ครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นการปรับลดงบประมาณลงทุนในระยะ 5 ปี ลงอย่างมาก จากเดิมที่บอร์ด ปตท. เคยอนุมัติงบลงทุน 5 ปี (2561-2565) วงเงินรวม 340,000 ล้านบาท ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างความภูมิใจและความมั่งคั่งให้กับประเทศไทย (Pride & Treasure of Thailand) โดยแผนดังกล่าวประกอบไปด้วย กลยุทธ์ 3D คือ Do now, Decide now และ Design now โดยได้จัดสรรงบประมาณที่ต้องลงมือทำตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ประกอบด้วย

1.Do now หรือ แผนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการเพิ่มผลผลิตจากธุรกิจปัจจุบันให้ผลประกอบการอยู่ในระดับชั้นนำ จำนวน 31,200 ล้านบาท โครงการที่สำคัญ ได้แก่ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ลดต้นทุนการผลิต

2.Decide now หรือ มาตรการการเร่งตัดสินใจการลงทุนเพื่อการเติบโต โดยมุ่งเน้นความชำนาญในธุรกิจปัจจุบัน ให้ความสำคัญการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านก๊าซธรรมชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานสะอาด การเติบโตในธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก รวมถึงการใช้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ จำนวน 134,900 ล้านบาท โครงการที่สำคัญ เช่น โครงการขยายท่อส่งก๊าซธรรมชาติและคลังรับก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) และโครงการพัฒนาพื้นที่วังจันทร์วัลเลย์ (อีอีซีไอ) เป็นต้น


IMG_6677

3.Design now ลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ (นิว เอส เคิร์ฟ) หรือ แผนเพื่อการเติบโตในระยะยาว ที่จะต้องตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก เทคโนโลยีใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มการใช้พลังงานสะอาด และยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศตามนโยบายประเทศไทย 4.0 จำนวน 16,300 ล้านบาท มีทิศทางการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน, โครงการการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์, การร่วมทุนในธุรกิจที่มีอนาคต เป็นต้น

ขณะเดียวกัน ปตท. ยังได้ตั้งงบประมาณเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้น 100% ได้แก่ การโอนกิจการน้ำมันให้ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (พีทีทีโออาร์) เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน จำนวน 159,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มทุนในบริษัทพีทีทีโออาร์

นอกจากนี้ ปตท. ยังจัดเตรียมงบลงทุนในอนาคตอีก จำนวน 245,200 ล้านบาท เพื่อรองรับการลงทุนใหม่และที่จะเป็นนิว เอสเคิร์ฟ ของ ปตท. ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เช่น โครงการแยกก๊าซอีเทนออกจากแอลเอ็นจีเป็นต้น

595959859