กคช. "ปีหมูทอง" เน้นช่วยเหลือประชาชนให้มีบ้าน-คุณภาพชีวิตดี

21 ธ.ค. 2561 | 11:44 น.
นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 45 ปี โดยในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติมีผลการดำเนินงานที่ดี จนทำให้มีผลกำไรสุทธิเบื้องต้น 1,713 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,038 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกำไรจากการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติที่สูงที่สุดในรอบ 20 ปี อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานต่าง ๆ เช่น การควบคุมและลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด รายได้จากการบริหารค่าน้ำประปา การส่งมอบอาคารและสาธารณูปโภคได้ตามเป้าหมาย และรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัย เป็นต้น

สำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติ ปี 2562 มี 5 แผนงาน ประกอบด้วย โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง จำนวน 6,546 หน่วย รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ปัจจุบันโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 1 (แปลง G) จำนวน 334 หน่วย ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทั้งให้ผู้อยู่อาศัยเดิมแฟลตที่ 18-22 ย้ายเข้าอยู่แล้ว 238 หน่วย นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 อนุมัติให้ดำเนินโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2, 3 และ 4 จำนวน 6,212 หน่วย วงเงินลงทุนรวม 10,115.238 ล้านบาท ตลอดจนอนุมัติในหลักการบริหารจัดการคนเข้าอยู่อาศัยในโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 1-4 ในกรณีที่มีหน่วยพักอาศัยคงเหลือจากการบรรจุผู้อยู่อาศัยเดิมในแต่ละระยะของโครงการฯ ซึ่งการเคหะแห่งชาติได้ทำการจับสลากผู้อยู่อาศัยที่จะต้องย้ายในโครงการฯ ระยะที่ 2 และเข้าพักอาศัยในห้องพักที่ยังว่างในโครงการฯ ระยะที่ 1 เพิ่มเติมอีก 96 หน่วย ส่วนการรื้อถอนอาคารเดิมแฟลตที่ 18-22 เริ่มรื้อถอนเดือน พ.ย. 2561 ถึงเดือน ก.พ. 2562 และจะเริ่มก่อสร้างอาคารใหม่ในเดือน มี.ค. 2562

โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย มีเป้าหมายเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ จำนวน 38,562 หน่วย ซึ่งได้รับความเห็นชอบแล้ว 10,244 หน่วย ได้แก่ โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง รองรับผู้อยู่อาศัยเดิม ระยะที่ 2, 3 และ 4 จำนวน 6,212 หน่วย, โครงการบ้านเคหะกตัญญูคลองหลวง 1 จำนวน 192 หน่วย, โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จ.ลำปาง จำนวน 229 หน่วย, โครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 2 ระยะที่ 1 จำนวน 3,365 หน่วย, โครงการอาคารเช่าสำหรับผู้มีรายได้น้อย จ.เพชรบุรี (โพไร่หวาน) จำนวน 246 หน่วย, โครงการที่อยู่อาศัยพร้อมขาย เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยตั้งเป้าหมายการขายจำนวน 13,689 หน่วย ปัจจุบัน ขายได้ 2,132 หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ธ.ค. 61)

โครงการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน การเคหะแห่งชาติมีแนวทางการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกับภาคเอกชน โดยมีกรอบแนวคิด 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 การร่วมลงทุนกับเอกชน (Joint Investment) ในโครงการที่มีมูลค่าตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ภายใต้พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ขณะนี้ได้รับอนุมัติในหลักการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐให้ความเห็นชอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในปี 2562 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนเชียงใหม่ (หนองหอย)


619286191

โครงการร่มเกล้าคอนเน็คชั่น และโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 3 และ 4 รองรับผู้อยู่อาศัยใหม่ สำหรับ "รูปแบบที่ 2" โครงการร่วมดำเนินกิจการระหว่างภาครัฐและเอกชน (Joint Operation) มูลค่าโครงการต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ภายใต้ข้อบังคับและระเบียบของการเคหะแห่งชาติ โดยคัดเลือกแปลงที่ดินเพื่อประกาศร่วมลงทุน จำนวน 17 แปลง โดยมีเป้าหมายลงนามสัญญากับผู้ร่วมลงทุน 10 โครงการ ภายในเดือน ก.ย. 2562, รูปแบบที่ 3 โครงการร่วมสนับสนุนภาคเอกชน (Joint Supporting) โดยการเคหะแห่งชาติจะเป็นที่ปรึกษา (Consultant) ให้กับภาคเอกชนในด้านการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและบริหารจัดการงานก่อสร้าง ซึ่งการเคหะแห่งชาติจะพิจารณาทำเลที่ตั้งโครงการ ความเป็นไปได้ด้านการตลาด กายภาพ และการเงิน โดยมีผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอมาแล้ว 5 ราย ในพื้นที่ 5 จังหวัด 7 โครงการ ได้แก่ เชียงราย พิษณุโลก ขอนแก่น ปทุมธานี และตราด ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคหะแห่งชาติออกหนังสือสอบทานผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการให้ผู้ประกอบการ เพื่อยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จำนวน 1 ราย ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก 1 โครงการ จำนวน 445 หน่วย ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติมีเป้าหมายออกหนังสือสอบทานดังกล่าวให้เอกชนประกอบการขอสินเชื่อสถาบันการเงิน จำนวน 10 โครงการ


บาร์ไลน์ฐาน

โครงการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ โดยปีงบประมาณ 2562 มีเป้าหมายจะดำเนินการ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน เป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการวางแผน และกำหนดแนวทางการดูแลชุมชนของตนเอง รวมทั้งมีการบูรณาการแผนชุมชนให้สอดคล้องกับแผนของหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่เป้าหมาย "ชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน" ระดับที่ 3 จำนวน 55 ชุมชน, โครงการตลาดเคหะประชารัฐ เป็นการยกระดับการพัฒนาตลาดชุมชนของการเคหะแห่งชาติสู่ตลาดเคหะประชารัฐกระจายอยู่ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาค 93 ตลาด รวม 9,900 แผงร้านค้า ซึ่งขับเคลื่อนร่วมกับภาคีต่าง ๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ สถาบันการเงิน ผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ ชุมชนใกล้เคียง และประชาชนทั่วไป


แอดฐานฯ

ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก สร้างงาน สร้างอาชีพให้ชุมชน โดยมีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพตลาดเคหะประชารัฐเพิ่มเติม ในปี 2562 จำนวน 4 ตลาด คือ ตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ (เกรียงไกร-ร่มเกล้า) กรุงเทพฯ, ตลาดเคหะประชารัฐชวนเดินเพลินใจเทพประสิทธิ์ (พัทยา) จ.ชลบุรี, ตลาดเคหะประชารัฐชวนเดินเพลินใจ (โคราช) จ.นครราชสีมา และตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ (บ้านเอื้ออาทรหัวหิน) จ.ประจวบคีรีขันธ์ โครงการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ถุงพลาสติก เพื่อให้ชุมชนมีการคัดแยกขยะลดการใช้ถุงพลาสติก และใช้ประโยชน์จากขยะ โดยจะนำร่อง 4 โครงการ คือ บ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง 1 กรุงเทพมหานคร, บ้านเอื้ออาทรรัตนาธิเบศร์ (ท่าอิฐ) จ.นนทบุรี, บ้านเอื้ออาทรรังสิต (คลอง 9) จ.ปทุมธานี และบ้านเอื้ออาทรบางโฉลง 1 จ.สมุทรปราการ "โครงการสานสัมพันธ์นำสู่สุขภาวะชุมชนที่ดี" จะจัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแลตรวจสุขภาพผู้อยู่อาศัยในชุมชน มีเป้าหมายดำเนินการนำร่อง 4 โครงการ คือ เคหะชุมชนร่มเกล้า กรุงเทพมหานคร, เคหะชุมชนบ่อนไก่ กรุงเทพมหานคร. บ้านเอื้ออาทรรัตนาธิเบศร์ (ท่าอิฐ) จ.นนทบุรี และบ้านเอื้ออาทรรังสิต (คลอง 10/2) จ.ปทุมธานี "โครงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชน" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ โดยตั้งเป้าหมายปรับปรุงสภาพแวดล้อมชุมชนที่อยู่ในความดูแล 74 ชุมชน

595959859