ผู้สูงวัยเชียงใหม่ดีใจได้รับเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปหาหมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาช้างเผือก(เชียงใหม่) มีประชาชนผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุ 65 ปี ได้ทยอยเดินทางมากดเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ที่กรมบัญชีกลางโอนให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป คนละ 1,000 บาท จ่ายเพียงครั้งเดียวเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันนี้(25 ธ.ค.61)
จากการสอบถามความรู้สึกของผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปี ที่สามารถกดเงินได้ ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีใจที่รัฐบาลมอบเงินให้เป็นค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพ คุณลุงท่านหนึ่งบอกว่า ไม่แน่ใจว่าจะได้หรือเปล่าเพราะมีอายุ 65 ปีพอดี วันนี้ ก็เลยลงมากดเงินดู ก็ได้ ดีใจมาก คิดว่าจะไม่ได้ เพราะเพิ่งอายุ 65 ปีพอดี ที่รัฐบาลช่วยเหลือให้กับผู้สูงอายุเพื่อที่จะเดินจะเดินทางไปรักษาพยาบาล ก็ดีใจ ก็จะเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่าย
มีบางคนอายุยังไม่ถึง 65 ปี ก็มีลองมากดดู ก็ไม่ได้ เรายังไม่ได้อายุยังไม่ถึง ขาดไป 1 ปี ได้แค่ 600 บาท
ลุงอีกคนหนึ่งกดได้ เพราะอายุ 67 ปีแล้ว ก็รู้สึกดีใจ จะนำเงินที่นี้ไปซื้อของไปทำบุญปีใหม่และซื้อของกินในวันปีใหม่พร้อมกับลูกหลาน
"ยากจะให้รัฐบาลให้ทุกเดือนเพราะว่า การรักษาพยาบาลก็ต้องไปรักษาทุกเดือนอยู่แล้ว หมอจะนัดตรวจร่างกายทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ที่รัฐบาลให้เงินมา 1,000 บาท ก็จะเอาเงินตรงนี้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะเดินไปหาหมอ"ลุงท่านหนึ่งกล่าว
จังหวัดลพบุรีไม่คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ดูบรรยากาศการกดเงินของประชาชนผู้สูงอายุที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาต่างๆในพื้นที่ จ.ลพบุรี พบว่าบรรยากาศแต่ละแห่งไม่คึกคักเท่าที่ควร ไม่มีผู้สูงอายุมากดเงินเหมือนกับช่วงที่มอบเงินเป็นของขวัญปีใหม่ คนละ 500 บาท ซึ่งผู้ที่มาใช้บริการกดเงินก็มักจะเป็นข้าราชการและคนทำงาน ที่มากดเงินเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มากกว่า สำหรับผู้สูงอายุบางคนที่เดินทางมากดเงินก็ต้องอาศัยไหว้วานประชาชนที่มากดเงินอยู่ก่อนให้ช่วยกด เพราะกลัวว่ากดผิดอาจถูกล๊อคระบบได้ ซึ่งจะสร้างความยุ่งยากเข้าไปใหญ่
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ เต๊ะขันหมาก อายุ 68 ปี ซึ่งได้รับสิทธิมาตรการดังกล่าว ได้เดินทางมากดเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาวงเวียนสระแก้ว ถ.นารายณ์มหาราช ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี เผยว่าตนเองเข้าใจว่าเช้าวันนี้จะมีประชาชนมากดเงินเป็นจำนวนมาก จึงได้เดินทางมากดเงินในช่วงบ่าย ซึ่งก็ผิดคาดเพราะเมื่อมาถึงสามารถกดเงินได้เลย ไม่เหมือนกับตอนในช่วงวันที่ 8-10 ธ.ค. ที่ครั้งนั้นมีประชาชนจำนวนมากที่มายืนรอคิวกดเงินกว่าที่จะได้เงินก็ใช้เวลานานมากซึ่งในความเห็นของตนเองต้องขอบคุณรัฐบาลที่มองเห็นปัญหาของผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยเพราะการที่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลของรัฐในแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายมากมายบางคนก็ต้องไปหาแพทย์เฉพาะทางเก่งๆในกรุงเทพฯยิ่งมีค่าเดินทางมากบางคนพอไม่มีรายได้ก็ไม่อยากไปหาหมอเพราะต้องเก็บเงินเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆที่สำคัญกว่า
ด้านนายพงศ์เทพ ศรีรักษา ผู้จัดการสาขาอาวุโส ธนาคารกรุงไทยสาขาวงเวียนสระแก้ว เผยถึงการเตรียมพร้อมรองรับการให้บริการแก่ผู้สูงอายุที่มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารกรุงไทยว่า สาขาแห่งนี้ ถือว่าเป็นจุดที่มีประชาชนมาใช้บริการมากเพราะค่อนข้างสะดวกเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้สถานีขนส่ง และเป็นศูนย์กลางการเดินทาง การจอดยานพาหนะก็ง่าย แต่ในครั้งนี้ผู้ที่ได้รับสิทธิจะมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับในช่วงต้นเดือน แต่เราได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยนำรูปแบบและปัญหาจากครั้งก่อน มาปรับปรุงการให้บริการ โยเตรียมพนักงานคอยสอบถามข้อมูลผู้ที่มากดเงินที่เป็นผู้สูงอายุเพื่อคอยช่วยอำนวยความสะดวก ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ทางภาครัฐให้ประชาชนเข้าใจว่าเงินของตนเองยังอยู่ในบัญชี จึงทำให้ประชาชนไม่รีบเดินทางมากดเงินเหมือนครั้งก่อนๆ
[caption id="attachment_363867" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
มีบางคนอายุยังไม่ถึง 65 ปี ก็มีลองมากดดู ก็ไม่ได้ เรายังไม่ได้อายุยังไม่ถึง ขาดไป 1 ปี ได้แค่ 600 บาท
ลุงอีกคนหนึ่งกดได้ เพราะอายุ 67 ปีแล้ว ก็รู้สึกดีใจ จะนำเงินที่นี้ไปซื้อของไปทำบุญปีใหม่และซื้อของกินในวันปีใหม่พร้อมกับลูกหลาน
"ยากจะให้รัฐบาลให้ทุกเดือนเพราะว่า การรักษาพยาบาลก็ต้องไปรักษาทุกเดือนอยู่แล้ว หมอจะนัดตรวจร่างกายทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง แต่ที่รัฐบาลให้เงินมา 1,000 บาท ก็จะเอาเงินตรงนี้เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะเดินไปหาหมอ"ลุงท่านหนึ่งกล่าว
จังหวัดลพบุรีไม่คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่ดูบรรยากาศการกดเงินของประชาชนผู้สูงอายุที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย สาขาต่างๆในพื้นที่ จ.ลพบุรี พบว่าบรรยากาศแต่ละแห่งไม่คึกคักเท่าที่ควร ไม่มีผู้สูงอายุมากดเงินเหมือนกับช่วงที่มอบเงินเป็นของขวัญปีใหม่ คนละ 500 บาท ซึ่งผู้ที่มาใช้บริการกดเงินก็มักจะเป็นข้าราชการและคนทำงาน ที่มากดเงินเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์มากกว่า สำหรับผู้สูงอายุบางคนที่เดินทางมากดเงินก็ต้องอาศัยไหว้วานประชาชนที่มากดเงินอยู่ก่อนให้ช่วยกด เพราะกลัวว่ากดผิดอาจถูกล๊อคระบบได้ ซึ่งจะสร้างความยุ่งยากเข้าไปใหญ่
ด้านนายพงศ์เทพ ศรีรักษา ผู้จัดการสาขาอาวุโส ธนาคารกรุงไทยสาขาวงเวียนสระแก้ว เผยถึงการเตรียมพร้อมรองรับการให้บริการแก่ผู้สูงอายุที่มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มหน้าธนาคารกรุงไทยว่า สาขาแห่งนี้ ถือว่าเป็นจุดที่มีประชาชนมาใช้บริการมากเพราะค่อนข้างสะดวกเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้สถานีขนส่ง และเป็นศูนย์กลางการเดินทาง การจอดยานพาหนะก็ง่าย แต่ในครั้งนี้ผู้ที่ได้รับสิทธิจะมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับในช่วงต้นเดือน แต่เราได้เตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ โดยนำรูปแบบและปัญหาจากครั้งก่อน มาปรับปรุงการให้บริการ โยเตรียมพนักงานคอยสอบถามข้อมูลผู้ที่มากดเงินที่เป็นผู้สูงอายุเพื่อคอยช่วยอำนวยความสะดวก ประกอบกับการประชาสัมพันธ์ทางภาครัฐให้ประชาชนเข้าใจว่าเงินของตนเองยังอยู่ในบัญชี จึงทำให้ประชาชนไม่รีบเดินทางมากดเงินเหมือนครั้งก่อนๆ
[caption id="attachment_363867" align="aligncenter" width="335"]
