เคล็ด (ไม่) ลับ "หางานช่วงวันหยุดยาว"
ปลายปีแบบนี้และยังเป็นช่วงวันหยุดต่อเนื่องของเทศกาลปีใหม่ หลายคนที่กำลังมองหางาน ทั้งน้อง ๆ นศ. ที่กำลังจะเป็นบัณฑิต และคนทำงานที่ต้องการจะค้นหาความสำเร็จกับความท้าทายใหม่ ๆ โดย "แมนพาวเวอร์กรุ๊ป" ที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมระดับโลก ได้รวบรวมกลเม็ดเคล็ด (ไม่) ลับ พร้อมการเตรียมตัวเพื่อค้นหางานใหม่มาฝากในช่วงวันหยุด
สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติเป็นขั้นตอนการเตรียมความพร้อม เริ่มจากการวิเคราะห์ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ จุดแข็ง จุดอ่อน ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่างานอะไรตอบโจทย์และคุณต้องการมากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมของคุณในการเขียนประวัติในขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่คุณต้องการ ว่า ต้องใช้คุณสมบัติ ความสามารถ หรือ ประสบการณ์อะไรบ้าง และตรงกับสิ่งที่คุณมีหรือไม่ ผ่านการค้นหางานตามเว็บไซต์หางาน แอพพลิเคชัน หนังสือพิมพ์ หรือ บริษัทฯ เป้าหมายที่คุณต้องการร่วมงานด้วย จะทำให้คุณมองภาพตลาดอาชีพในสายงานที่คุณต้องการได้ในเบื้องต้น ในกรณีที่คุณขาดคุณสมบัติในบางอย่าง สิ่งที่คุณควรจะต้องเตรียมพร้อม คือ เรียนรู้ทักษะเหล่านั้นเพิ่มเติม ทั้งที่บริษัทฯ ปัจจุบัน ฝึกฝนด้วยตนเอง หรือแม้แต่การฝึกอบรมนอกสถานที่
หลังจากวิเคราะห์ข้อจำกัด หรือ ความต้องการของคุณ ในบางครั้งงานใหม่ที่คุณต้องการอาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องค่าตอบแทน การเดินทาง หรือ ปัจจัยต่าง ๆ ขั้นตอนนี้ คือ การที่คุณจะต้องจัดลำดับความต้องการของคุณ หากคุณกำลังจะได้ "โอกาส" ที่คุณต้องการ และเตรียมใจไว้กับสิ่งที่คุณกำลังจะรับ
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำการมองหาทางเลือกในสายงานอื่น ๆ นอกเหนือจากสายงานที่คุณต้องการสมัครงานนั้น ยังมีสายงานอื่นที่ใกล้เคียง หรือ ใช้คุณสมบัติ ความสามารถ หรือ ประสบการณ์ของคุณอีกหรือไม่ การเปลี่ยนสายงานอาจจะเป็นการสร้างโอกาสและความสุขในการทำงานให้คุณได้เช่นกัน
ลำดับถัดมา หลังจากการวิเคราะห์จัดเตรียมความพร้อมขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการเตรียมตัวเข้าสมัครงาน การเขียนประวัติ (Resume) เป็นจุดแรกที่บริษัทจะรู้จักตัวคุณ หากคุณรู้ว่า บริษัทฯ ที่คุณจะสมัครงานต้องการบุคลากร คุณสมบัติ หรือ ประสบการณ์แบบไหน ถ้าคุณมีสิ่งที่บริษัทฯ ต้องการ คุณควรจะต้องเน้นจุดสำคัญเหล่านั้นในประวัติคุณ อย่าละเลยคิดว่าไม่สำคัญ ในบางครั้งประสบการณ์ที่คุณเคยทำงานมา อาจจะช่วยส่งเสริมให้ทำงานใหม่ได้ดีขึ้น ดังนั้น การเขียนประวัติควรจะต้องครบถ้วน กระชับ อ่านง่าย ชัดเจน และมีความเป็นมืออาชีพ
เมื่อเตรียมความพร้อมกันแล้ว ช่องทางการค้นหางานที่โดนใจในยุคดิจิทัลทำได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจากในอดีต ที่เราอาจต้องเปิดหาตามหน้า นสพ. หรือ ใบประกาศ ดังนั้น เมื่อช่องทางง่ายขึ้นก็เป็นการลดเวลาที่จะเลือกหาง่ายที่ตรงกับความต้องการ โดยช่องทางการค้นหาง่ายจะมีดังนี้
1.เว็บไซต์สมัครงาน ที่จะรวบรวมตำแหน่งงานจากหลากหลายบริษัทมาไว้รวมกันในที่เดียว อีกทั้งผู้สมัครสามารถระบุถึงประเภทงาน ตำแหน่งที่สนใจ พื้นที่ที่ทำงาน ระดับการศึกษา เงินเดือน ฯลฯ ได้อีกด้วย 2.เว็บไซด์หลักของบริษัทที่ผู้สมัครสนใจ บางบริษัทจะมีการประกาศรับสมัครทางเว็บไซต์ของตนเอง หากผู้สมัครสนใจหรืออยากร่วมงานกับบริษัทอะไร ผู้สมัครก็สามารถเข้าไปค้นหาตำแหน่งงานที่เปิดรับในเว็บไซต์ของบริษัทนั้น ๆ ได้ และฝากประวัติได้ทันที 3.โซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางสำคัญที่สุดในยุคนี้ อาทิ Facebook ไม่ว่าจะเป็น เพจ กลุ่ม หรือ ส่วนตัว บริษัทส่วนใหญ่ก็มีการเปิดประชาสัมพันธ์งานในช่องทางนี้มากขึ้น อาจจะลงประกาศรับสมัครงาน คุณสมบัติ ที่ผู้สมัครอาจจะสามารถส่งประวัติผ่านช่องทางนี้ก็ได้ นับว่าเป็นช่องทางที่ได้รับการตอบรับได้เฉพาะกลุ่มและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมี IG, Twitter, Linkedin เป็นช่องทางสำหรับการติดตามการประกาศรับสมัครงาน ซึ่งเราสามารถเลือกติดตามกลุ่มเฉพาะที่ตรงกับสายงานของเราได้ เพื่อเราจะได้ติดต่อและสมัครงานได้โดยตรง 4.บริษัทจัดหางาน เป็นหนึ่งทางเลือกที่ผู้สมัครสามารถฝากประวัติส่วนตัวมาไว้กับบริษัทจัดหางาน เมื่อมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับประวัติ ทางบริษัทก็จะติดต่อมาเพื่อดำเนินการสัมภาษณ์ต่อไป และที่ขาดไม่ได้หากผู้สมัครสนใจสมัครงานกับ "แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป" สามารถส่งประวัติส่วนตัวมาที่ recruitmentthailand@manpower. th.com หรือทางเว็บไซต์ www.manpowerthailand.com ได้เช่นกัน
จากกลเม็ดไม่ลับที่นำมาฝากกันแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับน้อง ๆ นักศึกษา และผู้ที่กำลังหางาน ไม่มากก็น้อย แต่จะขอฝากข้อคิดทิ้งท้ายในเรื่องความคิด ขอให้ตั้งเป้าหมายและคิดเชิงบวก ที่สำคัญ คือ การให้กำลังใจตัวเอง แม้การหางานเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและมีความพยายาม เพราะมีการแข่งขันสูง รวมถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ดังนั้น สิ่งทีสำคัญที่สุด คือ การสร้างพลังให้ตัวเอง วางแผนให้ดี สนใจติดตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในการสร้างทักษะและเตรียมความพร้อม รับมือกับการสัมภาษณ์งานที่มี การเสนอเข้ามาเพื่อเปิดโอกาสให้ เราได้ฝึกฝนและทดสอบตัวเอง ควรมองว่า สิ่งที่ผ่านเข้ามานั้นเป็นเรื่องที่ดีและน่าสนใจ จงเปิดรับทุกโอกาสแล้วลงมือทำ เปลี่ยนความหวังเป็นสิ่งคุณทำมันได้ ความสำเร็จ … คงอยู่ไม่ไกล
สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติเป็นขั้นตอนการเตรียมความพร้อม เริ่มจากการวิเคราะห์ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ จุดแข็ง จุดอ่อน ของตนเอง ขั้นตอนนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่างานอะไรตอบโจทย์และคุณต้องการมากที่สุด ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมของคุณในการเขียนประวัติในขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่คุณต้องการ ว่า ต้องใช้คุณสมบัติ ความสามารถ หรือ ประสบการณ์อะไรบ้าง และตรงกับสิ่งที่คุณมีหรือไม่ ผ่านการค้นหางานตามเว็บไซต์หางาน แอพพลิเคชัน หนังสือพิมพ์ หรือ บริษัทฯ เป้าหมายที่คุณต้องการร่วมงานด้วย จะทำให้คุณมองภาพตลาดอาชีพในสายงานที่คุณต้องการได้ในเบื้องต้น ในกรณีที่คุณขาดคุณสมบัติในบางอย่าง สิ่งที่คุณควรจะต้องเตรียมพร้อม คือ เรียนรู้ทักษะเหล่านั้นเพิ่มเติม ทั้งที่บริษัทฯ ปัจจุบัน ฝึกฝนด้วยตนเอง หรือแม้แต่การฝึกอบรมนอกสถานที่
หลังจากวิเคราะห์ข้อจำกัด หรือ ความต้องการของคุณ ในบางครั้งงานใหม่ที่คุณต้องการอาจจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการในเรื่องค่าตอบแทน การเดินทาง หรือ ปัจจัยต่าง ๆ ขั้นตอนนี้ คือ การที่คุณจะต้องจัดลำดับความต้องการของคุณ หากคุณกำลังจะได้ "โอกาส" ที่คุณต้องการ และเตรียมใจไว้กับสิ่งที่คุณกำลังจะรับ
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำการมองหาทางเลือกในสายงานอื่น ๆ นอกเหนือจากสายงานที่คุณต้องการสมัครงานนั้น ยังมีสายงานอื่นที่ใกล้เคียง หรือ ใช้คุณสมบัติ ความสามารถ หรือ ประสบการณ์ของคุณอีกหรือไม่ การเปลี่ยนสายงานอาจจะเป็นการสร้างโอกาสและความสุขในการทำงานให้คุณได้เช่นกัน
ลำดับถัดมา หลังจากการวิเคราะห์จัดเตรียมความพร้อมขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงการเตรียมตัวเข้าสมัครงาน การเขียนประวัติ (Resume) เป็นจุดแรกที่บริษัทจะรู้จักตัวคุณ หากคุณรู้ว่า บริษัทฯ ที่คุณจะสมัครงานต้องการบุคลากร คุณสมบัติ หรือ ประสบการณ์แบบไหน ถ้าคุณมีสิ่งที่บริษัทฯ ต้องการ คุณควรจะต้องเน้นจุดสำคัญเหล่านั้นในประวัติคุณ อย่าละเลยคิดว่าไม่สำคัญ ในบางครั้งประสบการณ์ที่คุณเคยทำงานมา อาจจะช่วยส่งเสริมให้ทำงานใหม่ได้ดีขึ้น ดังนั้น การเขียนประวัติควรจะต้องครบถ้วน กระชับ อ่านง่าย ชัดเจน และมีความเป็นมืออาชีพ
เมื่อเตรียมความพร้อมกันแล้ว ช่องทางการค้นหางานที่โดนใจในยุคดิจิทัลทำได้ง่าย ซึ่งแตกต่างจากในอดีต ที่เราอาจต้องเปิดหาตามหน้า นสพ. หรือ ใบประกาศ ดังนั้น เมื่อช่องทางง่ายขึ้นก็เป็นการลดเวลาที่จะเลือกหาง่ายที่ตรงกับความต้องการ โดยช่องทางการค้นหาง่ายจะมีดังนี้
1.เว็บไซต์สมัครงาน ที่จะรวบรวมตำแหน่งงานจากหลากหลายบริษัทมาไว้รวมกันในที่เดียว อีกทั้งผู้สมัครสามารถระบุถึงประเภทงาน ตำแหน่งที่สนใจ พื้นที่ที่ทำงาน ระดับการศึกษา เงินเดือน ฯลฯ ได้อีกด้วย 2.เว็บไซด์หลักของบริษัทที่ผู้สมัครสนใจ บางบริษัทจะมีการประกาศรับสมัครทางเว็บไซต์ของตนเอง หากผู้สมัครสนใจหรืออยากร่วมงานกับบริษัทอะไร ผู้สมัครก็สามารถเข้าไปค้นหาตำแหน่งงานที่เปิดรับในเว็บไซต์ของบริษัทนั้น ๆ ได้ และฝากประวัติได้ทันที 3.โซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางสำคัญที่สุดในยุคนี้ อาทิ Facebook ไม่ว่าจะเป็น เพจ กลุ่ม หรือ ส่วนตัว บริษัทส่วนใหญ่ก็มีการเปิดประชาสัมพันธ์งานในช่องทางนี้มากขึ้น อาจจะลงประกาศรับสมัครงาน คุณสมบัติ ที่ผู้สมัครอาจจะสามารถส่งประวัติผ่านช่องทางนี้ก็ได้ นับว่าเป็นช่องทางที่ได้รับการตอบรับได้เฉพาะกลุ่มและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมี IG, Twitter, Linkedin เป็นช่องทางสำหรับการติดตามการประกาศรับสมัครงาน ซึ่งเราสามารถเลือกติดตามกลุ่มเฉพาะที่ตรงกับสายงานของเราได้ เพื่อเราจะได้ติดต่อและสมัครงานได้โดยตรง 4.บริษัทจัดหางาน เป็นหนึ่งทางเลือกที่ผู้สมัครสามารถฝากประวัติส่วนตัวมาไว้กับบริษัทจัดหางาน เมื่อมีตำแหน่งงานที่เหมาะสมกับประวัติ ทางบริษัทก็จะติดต่อมาเพื่อดำเนินการสัมภาษณ์ต่อไป และที่ขาดไม่ได้หากผู้สมัครสนใจสมัครงานกับ "แมนพาวเวอร์ กรุ๊ป" สามารถส่งประวัติส่วนตัวมาที่ recruitmentthailand@manpower. th.com หรือทางเว็บไซต์ www.manpowerthailand.com ได้เช่นกัน
จากกลเม็ดไม่ลับที่นำมาฝากกันแล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์ให้กับน้อง ๆ นักศึกษา และผู้ที่กำลังหางาน ไม่มากก็น้อย แต่จะขอฝากข้อคิดทิ้งท้ายในเรื่องความคิด ขอให้ตั้งเป้าหมายและคิดเชิงบวก ที่สำคัญ คือ การให้กำลังใจตัวเอง แม้การหางานเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและมีความพยายาม เพราะมีการแข่งขันสูง รวมถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงปัจจัยทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ดังนั้น สิ่งทีสำคัญที่สุด คือ การสร้างพลังให้ตัวเอง วางแผนให้ดี สนใจติดตามสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในการสร้างทักษะและเตรียมความพร้อม รับมือกับการสัมภาษณ์งานที่มี การเสนอเข้ามาเพื่อเปิดโอกาสให้ เราได้ฝึกฝนและทดสอบตัวเอง ควรมองว่า สิ่งที่ผ่านเข้ามานั้นเป็นเรื่องที่ดีและน่าสนใจ จงเปิดรับทุกโอกาสแล้วลงมือทำ เปลี่ยนความหวังเป็นสิ่งคุณทำมันได้ ความสำเร็จ … คงอยู่ไม่ไกล
