เดินหน้าลดสินทรัพย์เสี่ยง! กบข. ปรับหุ้นโลกเหลือ 19% เพิ่มตราสารหนี้ระยะสั้น

25 ธ.ค. 2561 | 08:48 น.
กบข. เดินหน้าลดสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องในปี 2562 หลังเห็นสัญญาณไม่ดี ทั้งตลาดหุ้น ตราสารหนี้ เล็งลดสัดส่วนลงทุนในต่างประเทศ จาก 23% เหลือ 19% หันเพิ่มสินทรัพย์เสี่ยงตํ่า ลงตราสารหนี้ระยะสั้น อายุไม่เกิน 2 ปี คาดผลตอบแทน 2-3%

ในที่สุดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ก็มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 1.50% เป็น 1.75% ต่อปี ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกหลังจากการคงอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 28 ครั้งต่อเนื่อง หรือในรอบ 7 ปี 4 เดือน

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เป็นสิ่งที่ กบข. คาดการณ์ไว้แล้ว เพราะ กนง. ส่งสัญญาณชัดเจนมาก่อนหน้านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งเพราะดอกเบี้ยไทยตํ่ามากและคงที่มานาน จึงต้องการมีกระสุน หรือ Policy Space ในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคตด้วย หากต้องการลดดอกเบี้ยลง แต่สิ่งที่ไม่ได้คาดคิด คือ ท่าทีแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ยังขึงขังในการขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า จากเดิมที่คาดว่าจะทิ้งเวลาออกไป หลังจากเห็นสัญญาณการเติบโตที่ช้าลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

 

[caption id="attachment_364306" align="aligncenter" width="503"] วิทัย รัตนากร วิทัย รัตนากร[/caption]

ทั้งนี้ ความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า โดยเฉพาะในฝั่งยุโรป จะมีมากขึ้น ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน ขณะที่ สหรัฐฯ เองก็เห็นแล้วว่า เศรษฐกิจได้ผ่านจุดตํ่าสุดมาแล้ว และยังมีปัญหาเรื่องสงครามการค้ากับจีนอีก แต่อัตราการขยายตัวของเงินเฟ้อไม่ได้ลดลง ทำให้เฟดเองยังต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ทำให้กระทบต่อตลาดหุ้น ขณะเดียวกันดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทำให้การลงทุนในตราสารหนี้ไม่ดีเช่นเดียวกัน

"ปกติถ้าตลาดหุ้นไม่ดี ตราสารหนี้จะดี แต่ปีนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯ ไม่ดีทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ เพราะตลาดหุ้นสหรัฐฯ เองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมา ทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากราคาที่แพง จึงเป็นช่วงของการปรับฐาน เรามองเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปี และได้ลดสินทรัพย์เสี่ยงลง และจะลดต่อเนื่องในปีหน้า โดยจะลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นต่างประเทศจาก 23% เหลือ 19% โดยเฉพาะในตลาดหุ้นประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา ส่วนหุ้นไทยเองสัดส่วนลดลงจากการปรับลงของหุ้นอยู่แล้ว จึงไม่ได้ทำอะไรมาก"

อย่างไรก็ตาม สัดส่วนหุ้นที่ลดลงทำให้มีเงินเหลือ จึงจะหันมาเพิ่มในส่วนของตราสารหนี้ให้ได้ 48-50% แทน จากปัจจุบันที่มีสัดส่วน 45-46% แต่จะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น อายุประมาณ 2 ปี เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และเพื่อให้ผลตอบแทนเฉลี่ยทุกแบบให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่สูงมาก โดยปี 2562 กบข. ตั้งเป้าผลตอบแทนเฉลี่ยไม่ตํ่ากว่า 2-3% ส่วนปีนี้ยังไม่สรุป แต่ยืนยันว่า "ไม่ขาดทุน"

"เราเป็นกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ เป็นการลงทุนระยะยาว คล้ายกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและกองทุนอาร์เอ็มเอฟ ดังนั้น จึงไม่สนับสนุนให้สมาชิกปรับแผนการลงทุนตามภาวะตลาด หรือ ติดตามผลตอบแทนเป็นรายปี ซึ่งปีนี้ผลตอบแทนยังเป็นบวก หากเทียบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพติดลบ"


แอดฐานฯ

สำหรับแนวทางแผนดำเนินงานปี 2562 ยังเน้นการเป็นผู้นำและริเริ่มการลงทุนเพื่อส่งเสริมและพัฒนา ESG อย่างต่อเนื่อง และจะมุ่งเน้นการใช้ Digital Transformation เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินงาน โดยที่ผ่านมาได้พัฒนาแอพพลิเคชัน "My GPF Application" ซึ่งเป็นแอพที่สามารถวางแผนการลงทุน การประเมินความเสี่ยง รวมถึงให้คำปรึกษาแก่สมาชิก

หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,429 วันที่ 23 - 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-16-503x62