เดินทางปลอดภัย-เที่ยวสนุก ... รู้จักระบบ "4WD" เทคนิคการขับ "ออฟโรด"

23 ธ.ค. 2561 | 05:48 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

เข้าสู่ช่วงปลายปีอากาศดี ... หลายคนเตรียมการวางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือ ใครมี "ปิกอัพ พีพีวี" ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อาจมองไปถึงการแคมปิ้ง หรือ "ลุยเส้นทางออฟโรด" เพื่อเพิ่มสีสันให้ชีวิต

แม้รถอเนกประสงค์แบบ "พีพีวี" และ "ปิกอัพ" มักจะใช้งานระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สามารถเลือกเป็นการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ได้เมื่อจำเป็น ... "เชฟโรเลต ประเทศไทย" ค่ายรถยนต์ในเครือจีเอ็ม ที่ปัจจุบันเน้นขายแต่รถในกลุ่มนี้ ออกมาเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเทคนิคการขับออฟโรด


Chevrolet Flood Relief 05

รู้จักระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ

• ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อด้วยความเร็วสูง หรือ "โหมดทูไฮ" (2H - Two-Wheel Drive High) มักใช้สำหรับการขับขี่บนถนนทั่วไปและไฮเวย์

• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยความเร็วสูง หรือ "โหมดโฟร์ไฮ" (4H - Four-Wheel DriveHigh) ใช้เมื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะบนผิวถนนลื่น

• ตำแหน่งเกียร์ว่าง หรือ โหมด N (Neutral) ใช้เมื่อต้องลากจูง

โหมดโฟร์โลว์ (4L - Four-Wheel Drive Low) ใช้เมื่อขับบนทรายหรือดินโคลน หรือเมื่อต้องขึ้น/ลงเนินที่มีความลาดชันสูง


Buyer-Guide-to-pickup-trucks-and-SUVs---TH

ทำความคุ้นเคยกับรถยนต์
ผู้ขับควรรู้ความกว้าง ความสูง สมรรถนะ แรงบิด และระบบช่วยเหลือทั้งหมดของรถ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันท่วงทีในการใช้รถยนต์ให้เหมาะสมกับถนนที่มีสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย ควรทำความเข้าใจกับฟีเจอร์ระบบช่วยเหลือต่าง ๆ ในรถยนต์ รวมถึงระบบเบรกป้องกันล้อล็อก หรือ Antilock Brake System (ABS), ระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist), ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว หรือ Electronic Stability Control (ESC), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Grade Braking) โหมดลงทางลาดชัน, ระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน หรือ Hill Start Assist (HSA), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน หรือ Hill Descent Control (HDC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและการลื่นไถล หรือ Traction Control System (TCS)


เตรียมตัวให้พร้อม
เครื่องมือและอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อไปนี้จะมีประโยชน์ในสภาวะคับขัน ไม่ว่าจะเป็น ยางออลเทอร์เรน (AT) และยางอะไหล่ขนาดเท่ายางที่ใช้งาน (Full-Size) เครื่องวัดความดันของลมในยาง ชุดอุปกรณ์เติมลมยางแบบอิเล็กทรอนิกส์ แม่แรงหนุนรถสูง/แม่แรงยกของสูง ชุดรักษาความปลอดภัย รวมถึงชุดปฐมพยาบาล และเครื่องดับเพลิง ชุดวินซ์/กว้าน ยึดหรือผูกกับสายรัด เครื่องมืออเนกประสงค์ พลั่วและขวาน วิทยุสื่อสารคลื่นความถี่ประชาชน (CB) เข็มทิศและไฟฉาย


Buyer-Guide-to-pickup-trucks-and-SUVs---4WD

นั่งในตำแหน่งที่เหมาะสม
สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ควรทำ คือ การปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งให้เหมาะสมกับรูปร่างของตนเองและคาดเข็มขัดนิรภัย เพราะจะช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาตำแหน่งที่นั่งได้เมื่อต้องขับขึ้น/ลงเนินเขาที่สูงชัน


จับพวงมาลัยให้ถูกต้อง
วางมือบนพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา และ 9 นาฬิกา จับพวงมาลัยให้กระชับ โดยให้นิ้วโป้งทั้ง 2 ข้างชี้ขึ้น ไม่ควรสอดนิ้วโป้งเข้าไปในพวงมาลัยเมื่อต้องขับขี่แบบออฟโรด เพราะเมื่อรถยนต์ชนกับหินหรืออุปสรรคอื่น ๆ พวงมาลัยจะหมุนอย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้นิ้วโป้งหรือข้อมือของคุณได้รับบาดเจ็บ

เพิ่มแรงฉุดลากเมื่อต้องขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ไม่แน่น ลาดชัน หรือ เปียกลื่น

ไม่ควรเหยียบคันเร่งมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้รถเสียการทรงตัวบนถนนที่พื้นผิวไม่แน่น ทำให้ควบคุมรถได้ยาก

• ใช้เกียร์ตํ่าและขับช้า ๆ

• หากเป็นไปได้ให้ขับทั้งขึ้นและลงเขา

• ชะลอความเร็วเมื่อใกล้ถึงยอดเขา

• ห้ามลงเขาด้วยเกียร์ว่างในตำแหน่ง N (Neutral)

• เมื่อต้องขับรถลงเขา บังคับพวงมาลัยให้ตรงและใช้เกียร์ตํ่า เพราะกำลังเครื่องจะส่งไปยังเบรกเพื่อชะลอความเร็วและช่วยให้สามารถควบคุมรถยนต์ได้


Chevrolet Moutain Travel in Rainy season 1

ออกตัวอีกครั้ง เมื่อเครื่องยนต์ดับ

• เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถ เปลี่ยนเกียร์ให้อยู่ที่ตำแหน่ง P (Park) จากนั้นสตาร์ตเครื่องยนต์อีกครั้ง

• หากรถดับเมื่อกำลังขับขึ้นเขา ให้เปลี่ยนเกียร์ไปที่ R (Reverse) ปล่อยเบรกและถอยตรงลงมา อย่าพยายามกลับรถ ถ้าเนินลาดชันมากจนทำให้เครื่องยนต์ดับได้ ก็สามารถทำให้รถควํ่าได้เช่นกัน

• หากรถดับเมื่อกำลังขับลงเขา ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ตํ่า ปล่อยเบรก และขับตรงลงเขา

• หากไม่สามารถสตาร์ตเครื่องยนต์อีกครั้งได้ ให้ดึงเบรกมือ เปลี่ยนเป็นเกียร์ P (Park) และดับเครื่อง ลงจากรถและขอความช่วยเหลือ


Off-roading 2

ขับขี่ผ่านนํ้าลึก

• ถ้านํ้าไม่เชี่ยวและระดับนํ้าไม่ลึก ให้ขับผ่านอย่างช้า ๆ ถ้าขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไปจะทำให้นํ้าเข้าเครื่องยนต์ และสามารถทำให้เครื่องยนต์ดับได้

• ก่อนที่จะขับลงไปในนํ้า ให้ปิดแอร์และเปิดกระจกทั้ง 4 บาน

• ค่อย ๆ ขับลงนํ้าด้วยความเร็วไม่เกิน 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเพิ่มความเร็วเป็น 6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่ออยู่ในนํ้า

• เมื่อขับรถพ้นจากนํ้า ให้เหยียบเบรกหลาย ๆ ครั้ง เพื่อรีดนํ้าออกจากผ้าเบรก

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,429 วันที่  23 - 26 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-16-503x62