Gen 2 "ณ สัทธา อุทยานไทย" ปรับลุคธุรกิจ สร้างแลนด์มาร์กใหม่ราชบุรี
| สัมภาษณ์พิเศษ : Gen2 "ณ สัทธา อุทยานไทย" ปรับลุคธุรกิจ สร้างแลนด์มาร์กใหม่ราชบุรี
| โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
……………….
"อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม" จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับ จ.ราชบุรี มาตั้งแต่ปี 2549 แต่วันนี้ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่น 2 ซึ่งเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจดั้งเดิมของตระกูล ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่และรีแบรนด์เป็น "ณ สัทธา อุทยานไทย" ที่เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2561 หลังจากปิดปรับปรุงไปกว่า 2 ปี รวมไปถึงการเปิดแนวรุกธุรกิจใหม่ ด้วยการร่วมลงทุนสร้างรีสอร์ตหรูบนเกาะสมุย ... อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายยุทธลักษณ์ ศิริพรเลิศ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ และผู้บริหาร ณ สัทธา อุทยานไทย
[caption id="attachment_364253" align="aligncenter" width="335"]
ยุทธลักษณ์ ศิริพรเลิศ[/caption]
● ทุ่ม 100 ล้าน ปรับโฉมธุรกิจ
การปรับโฉมอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามมาเป็น "ณ สัทธา อุทยานไทย" ได้ใช้เงินลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวบนพื้นที่กว่า 42 ไร่แห่งนี้ ให้เข้ายุคสมัย ภายใต้โจทย์ที่ว่า "ทำอย่างไรคนรุ่นใหม่จึงจะเข้ามาเที่ยว" เพื่อให้คนได้ศึกษาประวัติของผู้มีชื่อเสียงและพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทย ในรูปแบบหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสขนาดเสมือนจริงกว่า 60 รูป ประติมากรรมพระพุทธรูปยุคต่าง ๆ
ดังนั้น เราจึงนำเทคนิคจัดแสดงและวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชัน "ณ สัทธา" ที่ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ผ่านสัญญาณ Wi-Fi ที่ให้บริการอยู่ทั่วบริเวณการจัดแสดง การใช้เทคนิคสมัยใหม่ อาทิ อินเตอร์ แอกทีฟ เกม, AR, วิดีโอ แมป, QR Code, การจัดไลต์แอนด์ซาวด์, การ์ตูนแอนิเมชัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกวัย รวมไปถึงเด็ก ๆ ได้เข้าถึงคอนเทนต์การจัดแสดงภายใน 8 โซนหลักได้อย่างสนุกสนาน
รวมไปถึงการเพิ่มเติมจุดจัดแสดงและปรับเรื่องราวการนำเสนอให้น่าสนใจ เช่น มีการสร้างหุ่นขี้ผึ้งที่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในยุคปัจจุบัน เช่น หลวงพ่อคูณ หลวงตามหาบัว ส่วนในโซน ณ สัทธาปฏิมา ที่จัดแสดงประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย คือ สุโขทัย, อยุธยา, เชียงแสน ก็มีการสร้างโบสถ์ติดแอร์ครอบวิหารสมัยสุโขทัย ซึ่งอยู่ภายในโซนนี้ และใช้เทคนิค "วิดีโอ แมปปิ้ง" เล่าเรื่องราวการเดินทางของพระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทยในสมัยอาณาจักรสุโขทัย ผ่านแสง สี เสียง และแสดงภาพบนผนังโบสถ์และองค์พระพุทธรูป เป็นต้น
● จัดอีเวนต์กลางคืนครั้งแรก
หลังการปรับโฉมใหม่ ก็ทำให้เราได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น เฉลี่ยมีผู้เข้าชมเกิน 1 หมื่นคนต่อเดือน หากเทียบกับก่อนการปรับปรุงที่ไม่ถึง 1 หมื่นคนต่อเดือน ซึ่งจากนี้เราจะเน้นการทำโปรโมตขึ้น เพื่อให้ลูกค้ารับทราบถึงการปรับโฉมใหม่ ซึ่งด้วยศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว เรายังรองรับเพิ่มได้อีก 1 หมื่นคน ประกอบกับด้วยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ก็ทำให้ราชบุรีได้รับการประชาสัมพันธ์ในการดึงให้คนมาเที่ยวเมืองรอง ก็จะเป็นโอกาสในการดึงคนให้มาเที่ยวที่นี่ได้เพิ่มขึ้น
อีกทั้งเรายังจะเน้นจัดกิจกรรมใหญ่เป็นครั้งแรก ซึ่งเรามองว่า ราชบุรียังขาดอะไรที่จะดึงดูดให้มาเที่ยวได้อีกบ้าง เลยคิดว่าการจัด "เทศกาลประดับไฟ" น่าจะตอบโจทย์ให้คนมาเที่ยวและถ่ายรูป จึงทำให้ปีนี้เราเปิดให้มีการเที่ยวชมในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 18.00 น. ภายใต้การเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ในกิจกรรม "ณ สัทธา เฟสติวัล 2018" ที่จะจัดในวันที่ 22-23 ธ.ค. , 29-30 ธ.ค. 2561 และวันที่ 1, 5-6 ม.ค. 2562 ที่เราลงทุนไปกว่า 3 ล้านบาท ในการจัดอีเวนต์นี้ที่จะมีการจัดแสดงไฟประดับทั่วพื้นที่ 42 ไร่ กิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศ ให้เที่ยวได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
● ทุ่ม 1.5 พันล้าน ลงทุน รร.สมุย
ไม่เพียงแต่การบริหาร "ณ สัทธา อุทยานไทย" เท่านั้น ล่าสุด ทาง "ศิริเลิศ กรุ๊ป" ยังมีแผนจะสร้างโรงแรมที่เกาะสมุย หลังจากได้เข้าไปซื้อที่ดิน 43 ไร่ติดทะเลมา และมองโอกาสในการลงทุนธุรกิจโรงแรมเป็นครั้งแรก ซึ่งจะลงทุนราว 1,500 ล้านบาท ในการสร้างบูติกรีสอร์ตระดับหรู ขนาดราว 100 ห้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและการคัดเลือกเชนที่จะเข้ามาบริหาร ซึ่งมองไว้ว่าจะใช้เชนไฮแอท แต่กำลังพิจารณาเลือกแบรนด์ใดของไฮแอทจึงจะเหมาะสม
ในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของครอบครัว อย่าง บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หลังจากเขาเข้ามาบริหาร ก็มีการปรับโครงสร้าง พร้อมรีแบรนด์เป็น "กลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ" ดำเนินธุรกิจใน 4 บริษัท โดย บริษัท ศิริเลิศ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง, บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จะลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ อย่าง คอนโดมิเนียม เช่น ล่าสุดพัฒนาโครงการ "Sign คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 50" จำนวน 105 ยูนิต ซึ่งขายไปกว่า 90% แล้ว และเรายังมองถึงการขยายอสังหาริมทรัพย์แนวราบ แต่ต้องขอรอดูทิศทางเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง ส่วนบริษัท สเปซรีเลชั่น ดีไซน์ จำกัด เป็นบริษัทออกแบบ ซึ่งเรารับงานออกแบบให้โรงแรมและคอนโดมิเนียมในหลายโครงการ, บริษัท สปาร์คกลิ้ง ไลท์ จำกัด ทำธุรกิจด้านการขายโคมไฟ
ทั้งหมดล้วนเป็นการปรับแนวรุกธุรกิจที่เกิดขึ้นในยุคเจเนเรชัน 2 ของตระกูลศิริพรเลิศ
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3429 ระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2561
| โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
……………….
"อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม" จัดว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับ จ.ราชบุรี มาตั้งแต่ปี 2549 แต่วันนี้ภายใต้การบริหารงานของทายาทรุ่น 2 ซึ่งเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจดั้งเดิมของตระกูล ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่และรีแบรนด์เป็น "ณ สัทธา อุทยานไทย" ที่เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2561 หลังจากปิดปรับปรุงไปกว่า 2 ปี รวมไปถึงการเปิดแนวรุกธุรกิจใหม่ ด้วยการร่วมลงทุนสร้างรีสอร์ตหรูบนเกาะสมุย ... อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายยุทธลักษณ์ ศิริพรเลิศ กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ และผู้บริหาร ณ สัทธา อุทยานไทย
[caption id="attachment_364253" align="aligncenter" width="335"]
● ทุ่ม 100 ล้าน ปรับโฉมธุรกิจ
การปรับโฉมอุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยามมาเป็น "ณ สัทธา อุทยานไทย" ได้ใช้เงินลงทุนไปกว่า 100 ล้านบาท เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวบนพื้นที่กว่า 42 ไร่แห่งนี้ ให้เข้ายุคสมัย ภายใต้โจทย์ที่ว่า "ทำอย่างไรคนรุ่นใหม่จึงจะเข้ามาเที่ยว" เพื่อให้คนได้ศึกษาประวัติของผู้มีชื่อเสียงและพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทย ในรูปแบบหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสขนาดเสมือนจริงกว่า 60 รูป ประติมากรรมพระพุทธรูปยุคต่าง ๆ
ดังนั้น เราจึงนำเทคนิคจัดแสดงและวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น แอพพลิเคชัน "ณ สัทธา" ที่ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ผ่านสัญญาณ Wi-Fi ที่ให้บริการอยู่ทั่วบริเวณการจัดแสดง การใช้เทคนิคสมัยใหม่ อาทิ อินเตอร์ แอกทีฟ เกม, AR, วิดีโอ แมป, QR Code, การจัดไลต์แอนด์ซาวด์, การ์ตูนแอนิเมชัน เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกวัย รวมไปถึงเด็ก ๆ ได้เข้าถึงคอนเทนต์การจัดแสดงภายใน 8 โซนหลักได้อย่างสนุกสนาน
รวมไปถึงการเพิ่มเติมจุดจัดแสดงและปรับเรื่องราวการนำเสนอให้น่าสนใจ เช่น มีการสร้างหุ่นขี้ผึ้งที่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนในยุคปัจจุบัน เช่น หลวงพ่อคูณ หลวงตามหาบัว ส่วนในโซน ณ สัทธาปฏิมา ที่จัดแสดงประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย คือ สุโขทัย, อยุธยา, เชียงแสน ก็มีการสร้างโบสถ์ติดแอร์ครอบวิหารสมัยสุโขทัย ซึ่งอยู่ภายในโซนนี้ และใช้เทคนิค "วิดีโอ แมปปิ้ง" เล่าเรื่องราวการเดินทางของพระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทยในสมัยอาณาจักรสุโขทัย ผ่านแสง สี เสียง และแสดงภาพบนผนังโบสถ์และองค์พระพุทธรูป เป็นต้น
● จัดอีเวนต์กลางคืนครั้งแรก
หลังการปรับโฉมใหม่ ก็ทำให้เราได้รับการตอบรับที่ดีขึ้น เฉลี่ยมีผู้เข้าชมเกิน 1 หมื่นคนต่อเดือน หากเทียบกับก่อนการปรับปรุงที่ไม่ถึง 1 หมื่นคนต่อเดือน ซึ่งจากนี้เราจะเน้นการทำโปรโมตขึ้น เพื่อให้ลูกค้ารับทราบถึงการปรับโฉมใหม่ ซึ่งด้วยศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยว เรายังรองรับเพิ่มได้อีก 1 หมื่นคน ประกอบกับด้วยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ก็ทำให้ราชบุรีได้รับการประชาสัมพันธ์ในการดึงให้คนมาเที่ยวเมืองรอง ก็จะเป็นโอกาสในการดึงคนให้มาเที่ยวที่นี่ได้เพิ่มขึ้น
อีกทั้งเรายังจะเน้นจัดกิจกรรมใหญ่เป็นครั้งแรก ซึ่งเรามองว่า ราชบุรียังขาดอะไรที่จะดึงดูดให้มาเที่ยวได้อีกบ้าง เลยคิดว่าการจัด "เทศกาลประดับไฟ" น่าจะตอบโจทย์ให้คนมาเที่ยวและถ่ายรูป จึงทำให้ปีนี้เราเปิดให้มีการเที่ยวชมในช่วงกลางคืน ตั้งแต่ 18.00 น. ภายใต้การเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ ในกิจกรรม "ณ สัทธา เฟสติวัล 2018" ที่จะจัดในวันที่ 22-23 ธ.ค. , 29-30 ธ.ค. 2561 และวันที่ 1, 5-6 ม.ค. 2562 ที่เราลงทุนไปกว่า 3 ล้านบาท ในการจัดอีเวนต์นี้ที่จะมีการจัดแสดงไฟประดับทั่วพื้นที่ 42 ไร่ กิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เพื่อสร้างสีสันและบรรยากาศ ให้เที่ยวได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน
● ทุ่ม 1.5 พันล้าน ลงทุน รร.สมุย
ไม่เพียงแต่การบริหาร "ณ สัทธา อุทยานไทย" เท่านั้น ล่าสุด ทาง "ศิริเลิศ กรุ๊ป" ยังมีแผนจะสร้างโรงแรมที่เกาะสมุย หลังจากได้เข้าไปซื้อที่ดิน 43 ไร่ติดทะเลมา และมองโอกาสในการลงทุนธุรกิจโรงแรมเป็นครั้งแรก ซึ่งจะลงทุนราว 1,500 ล้านบาท ในการสร้างบูติกรีสอร์ตระดับหรู ขนาดราว 100 ห้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบและการคัดเลือกเชนที่จะเข้ามาบริหาร ซึ่งมองไว้ว่าจะใช้เชนไฮแอท แต่กำลังพิจารณาเลือกแบรนด์ใดของไฮแอทจึงจะเหมาะสม
ในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของครอบครัว อย่าง บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หลังจากเขาเข้ามาบริหาร ก็มีการปรับโครงสร้าง พร้อมรีแบรนด์เป็น "กลุ่มบริษัทในเครือศิริเลิศ" ดำเนินธุรกิจใน 4 บริษัท โดย บริษัท ศิริเลิศ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง, บริษัท ศิริเลิศ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด จะลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ อย่าง คอนโดมิเนียม เช่น ล่าสุดพัฒนาโครงการ "Sign คอนโดมิเนียม สุขุมวิท 50" จำนวน 105 ยูนิต ซึ่งขายไปกว่า 90% แล้ว และเรายังมองถึงการขยายอสังหาริมทรัพย์แนวราบ แต่ต้องขอรอดูทิศทางเศรษฐกิจหลังการเลือกตั้ง ส่วนบริษัท สเปซรีเลชั่น ดีไซน์ จำกัด เป็นบริษัทออกแบบ ซึ่งเรารับงานออกแบบให้โรงแรมและคอนโดมิเนียมในหลายโครงการ, บริษัท สปาร์คกลิ้ง ไลท์ จำกัด ทำธุรกิจด้านการขายโคมไฟ
ทั้งหมดล้วนเป็นการปรับแนวรุกธุรกิจที่เกิดขึ้นในยุคเจเนเรชัน 2 ของตระกูลศิริพรเลิศ
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3429 ระหว่างวันที่ 23 - 26 ธันวาคม 2561
