ผู้สูงอายุเชียงรายทยอยกดเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล

21 ธ.ค. 2561 | 04:32 น.
คนเชียงรายทยอยนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย โดยภาพรวมไม่ได้หนาแน่นเข้าแถวยาวเหยียดเหมือนครั้งก่อน

ผู้สื่อข่าว"ฐานเศรษฐกิจ"ประจำจังหวัดเชียงราย ซึ่งไปสังเกตุการณ์ที่ด้านหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาเด่นห้า(เชียงราย) ในเขตเทศบาลนครเชียงราย รายงานว่า บรรยากาศตั้งแต่เช้ามีผู้นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมากดเงินช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ ที่กรมบัญชีกลางโอนให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป คนละ 1,000 บาท จ่ายเพียงครั้งเดียวเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในวันนี้(25 ธ.ค.61) ซึ่งมีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือรวม 2.49 ล้านราย โดยบรรยากาศจะมีผู้สูงอายุเดินทางมากดเงินเป็นระยะๆ ไม่แน่นหนาเหมือนครั้งได้รับเงินของขวัญปีใหม่ โดยทางธนาคารได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ของสาขามาประจำบริเวณหน้าตู้เอทีเอ็ม คอยให้ความช่วยเหลือหากเกิดปัญหาและให้คำแนะนำในการกดเงิน

ส่วนสาเหตุที่ไม่เนืองแน่นเข้าแถวยาวเหยียดเหมือครั้งก่อนนั้น เชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะครั้งนี้เป็นการโอนเงินให้กับผู้สูงอายุเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ถือสวัสดิการรัฐทั้งหมด อีกทั้งครั้งก่อนทุกบัตรได้รับรหัสไปแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ถือบัตรสามารถที่จะไปกดที่ตู้ใดก็ได้ของธนาคารกรุงไทย ประกอบกับที่ผ่านมาได้มีการโหมประชาสัมพันธ์มาตลอดว่าการโอนเงินรายการนี้ เงินจะอยู่ในบัญชีไม่มีการเรียกกลับ ทำให้ผู้ถือบัตรมีความเข้าใจมากขึ้น

ผู้ท่ีถือบัตรของมารดามากดเงินรายหนึ่ง(ขอสงวนนาม) กล่าวว่า กระแสที่ว่าเป็นเงินซื้อเสียง ทุกวันนี้คนไทยเข้าใจคำว่าสวัสดิการรัฐกันมากขึ้น ไม่ได้มองว่าเป็นเงินซื้อเสียงล่วงหน้า เงินซื้อเสียงนักการเมืองจะทำอย่างเป็นระบบผ่านหัวคะแนนจัดตั้ง ทำให้หวังผลในเรื่องของคะแนนได้ แต่กรณีนี้ไม่มีใครรู้หรอกว่าผู้ถือบัตรจะลงคะแนนให้ผู้สมัครคนไหนพรรคไหน

"ส่วนตัวผมมองว่าสวัสดิการรัฐ บางครั้งก็ควรจะต้องส่งถึงมือประชาชน และเป็นสิทธิ์ที่พึงมีพึงได้ของประชาชน ซึ่งรัฐควรจะจัดสวัสดิการเช่นนี้บ้าง ตามวาระโอกาสที่สมควร ถ้าสื่อจำเหตุการณ์สถาบันการเงินล้ม ครั้งนั้นรัฐบาลใช้เงินไปอุ้มคนล้มบนพูกมากมายมหาศาล จนถูกมองว่ารัฐบาลอุ้มคนรวย แต่พอรัฐบาลช่วยคนจน คนบางกลุ่มบางพวกกลับมองว่าเป็นการซื้อเสียง" แอดฐานฯ