'ซัมมิท' เล็งแท่นองค์กรคุณธรรม
ซัมมิทชู 3 กลยุทธ์ ขึ้นแท่นองค์กรคุณธรรมคู่ผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ - ปี 62 ตั้งเป้ารายได้โต 15%
ตลอดระยะเวลา 24 ปีของการให้บริการในประเทศไทย "ซัมมิท แคปปิตอล" ได้รับความวางใจจากลูกค้ามากกว่า 790,000 รายทั่วประเทศ ด้วยปริมาณเงินให้สินเชื่อโดยรวมมากกว่า 37,000 ล้านบาท และจะครบรอบ 25 ปีในปี 2562
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ระบุว่า ปี 2562 ตั้งเป้าเพิ่มสัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์อีก 6% หรือประมาณ 7,920 ล้านบาท และรายได้โตอีกกว่า 15% พร้อมพัฒนาระบบบริการครอบคลุมทุกมิติ ขยายเครือข่ายดีลเลอร์ ยกระดับคุณภาพบุคลากร ยึดหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อการบริการที่เป็นเลิศ ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนคุณภาพ ควบคู่คุณธรรม เพื่อความยั่งยืน"
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.การทุ่มพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วยงบลงทุน 60 ล้านบาท จากปี 2561 ได้ใช้งบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมระบบการติดตามทวงหนี้ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และเตรียมรุกตลาดด้วยความพร้อมของระบบในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย อาทิ ระบบการแจ้งเตือนลูกค้าผ่านสมาร์ทโฟน หรือ อีเมล์ เป็นต้น
"การพัฒนาระบบเเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์การให้บริการในยุคดิจิทัล 4.0 ทั้งการรับสมัครสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยนต์ผ่านโมบายแอพพลิเคชัน การคัดกรองคุณภาพลูกค้าด้วยระบบ Credit Scoring ให้มีความแม่นยำในการประมวลผลและวิเคราะห์คุณภาพของลูกค้า โดยสามารถอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เบื้องต้นให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที"
2.การขยายพันธมิตรคู่ค้า ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคู่ค้า 10% จากที่มีอยู่กว่า 900 ราย/2,800 โชว์รูมทั่วประเทศ และ ยกระดับบุคลากรมืออาชีพ พร้อมเพิ่มพนักงานอีก 9% จากที่มีอยู่ 1,400 คน เป็นประมาณ 1,600 คน 3.วางเป้าหมายเป็นองค์กรคุณธรรม ที่มีธรรมาภิบาลและได้รับความวางใจจากลูกค้า ซึ่งเป็นเป้าหมายเพิ่มเติมจากเป้าเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ผู้ให้" และ "เอาใจใส่" ต่อความสุข ความปลอดภัยของสังคม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่หลากหลาย
สำหรับรอบปี 2561 บริษัทคาดว่า ตัวเลขรวมของอัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้างจะเพิ่มขึ้นที่ 27% จากปีก่อน และจำนวนสัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 13% หรือ สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 6% โดยพบว่า ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา หรือตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน ต.ค. 2561 ภาคเหนือมีอัตราการเติบโตของสัญญามากที่สุด หรือเท่ากับ 66% ในขณะเดียวกัน ถ้ามองสัดส่วนการขายแบ่งตามภาค พบว่า ภาคตะวันออกยังคงครองแชมป์อันดับ 1 หรือมีสัดส่วนการขายเท่ากับ 33% รองลงมา คือ ภาคกลาง 27% และอีก 40% กระจายอยู่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตก และคาดว่า ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ บริษัทจะมีรายได้รวมจากการดำเนินงานใน 12 เดือน เติบโต 30% จากปีก่อน และปริมาณหนี้เสีย (NPL) นั้น คงเกณฑ์ดีที่ประมาณ 1%
ในขณะที่ ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ของไทยปีนี้มีอัตราเติบโตค่อนข้างทรงตัว โดยคาดการณ์ถึงสิ้นปี 2561 จะมีจำนวนรถจักรยานยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนไม่เกิน 1.8 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังคงครองแชมป์รถจดทะเบียนใหม่ของกรมขนส่งทางบกเช่นเคย และข้อมูลจากกรมขนส่งทางบกยังพบว่า ภาคที่มีอัตราการจดทะเบียนมากที่สุด คือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 30% และ 24% ตามลำดับ ส่วนที่เหลือกระจายตัวอยู่ในภาคอื่น ๆ เช่นกัน
ตลอดระยะเวลา 24 ปีของการให้บริการในประเทศไทย "ซัมมิท แคปปิตอล" ได้รับความวางใจจากลูกค้ามากกว่า 790,000 รายทั่วประเทศ ด้วยปริมาณเงินให้สินเชื่อโดยรวมมากกว่า 37,000 ล้านบาท และจะครบรอบ 25 ปีในปี 2562
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ระบุว่า ปี 2562 ตั้งเป้าเพิ่มสัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์อีก 6% หรือประมาณ 7,920 ล้านบาท และรายได้โตอีกกว่า 15% พร้อมพัฒนาระบบบริการครอบคลุมทุกมิติ ขยายเครือข่ายดีลเลอร์ ยกระดับคุณภาพบุคลากร ยึดหลักธรรมาภิบาลมาใช้เพื่อการบริการที่เป็นเลิศ ภายใต้แนวคิด "ขับเคลื่อนคุณภาพ ควบคู่คุณธรรม เพื่อความยั่งยืน"
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมรุกตลาดด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1.การทุ่มพัฒนาระบบเทคโนโลยีเพิ่มเติมด้วยงบลงทุน 60 ล้านบาท จากปี 2561 ได้ใช้งบประมาณไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมระบบการติดตามทวงหนี้ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น และเตรียมรุกตลาดด้วยความพร้อมของระบบในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย อาทิ ระบบการแจ้งเตือนลูกค้าผ่านสมาร์ทโฟน หรือ อีเมล์ เป็นต้น
"การพัฒนาระบบเเทคโนโลยีให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์การให้บริการในยุคดิจิทัล 4.0 ทั้งการรับสมัครสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยนต์ผ่านโมบายแอพพลิเคชัน การคัดกรองคุณภาพลูกค้าด้วยระบบ Credit Scoring ให้มีความแม่นยำในการประมวลผลและวิเคราะห์คุณภาพของลูกค้า โดยสามารถอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เบื้องต้นให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที"
2.การขยายพันธมิตรคู่ค้า ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนคู่ค้า 10% จากที่มีอยู่กว่า 900 ราย/2,800 โชว์รูมทั่วประเทศ และ ยกระดับบุคลากรมืออาชีพ พร้อมเพิ่มพนักงานอีก 9% จากที่มีอยู่ 1,400 คน เป็นประมาณ 1,600 คน 3.วางเป้าหมายเป็นองค์กรคุณธรรม ที่มีธรรมาภิบาลและได้รับความวางใจจากลูกค้า ซึ่งเป็นเป้าหมายเพิ่มเติมจากเป้าเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "ผู้ให้" และ "เอาใจใส่" ต่อความสุข ความปลอดภัยของสังคม ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมที่หลากหลาย
สำหรับรอบปี 2561 บริษัทคาดว่า ตัวเลขรวมของอัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อคงค้างจะเพิ่มขึ้นที่ 27% จากปีก่อน และจำนวนสัญญาใหม่ของสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น 13% หรือ สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 6% โดยพบว่า ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา หรือตั้งแต่เดือน ม.ค. ถึงเดือน ต.ค. 2561 ภาคเหนือมีอัตราการเติบโตของสัญญามากที่สุด หรือเท่ากับ 66% ในขณะเดียวกัน ถ้ามองสัดส่วนการขายแบ่งตามภาค พบว่า ภาคตะวันออกยังคงครองแชมป์อันดับ 1 หรือมีสัดส่วนการขายเท่ากับ 33% รองลงมา คือ ภาคกลาง 27% และอีก 40% กระจายอยู่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตก และคาดว่า ถึงสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ บริษัทจะมีรายได้รวมจากการดำเนินงานใน 12 เดือน เติบโต 30% จากปีก่อน และปริมาณหนี้เสีย (NPL) นั้น คงเกณฑ์ดีที่ประมาณ 1%
ในขณะที่ ตลาดรถมอเตอร์ไซค์ของไทยปีนี้มีอัตราเติบโตค่อนข้างทรงตัว โดยคาดการณ์ถึงสิ้นปี 2561 จะมีจำนวนรถจักรยานยนต์ใหม่ที่จดทะเบียนไม่เกิน 1.8 ล้านคัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ยอดจดทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ก็ยังคงครองแชมป์รถจดทะเบียนใหม่ของกรมขนส่งทางบกเช่นเคย และข้อมูลจากกรมขนส่งทางบกยังพบว่า ภาคที่มีอัตราการจดทะเบียนมากที่สุด คือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ 30% และ 24% ตามลำดับ ส่วนที่เหลือกระจายตัวอยู่ในภาคอื่น ๆ เช่นกัน
