กีรติ เทพธัญญ์ หัวใจของการทำธุรกิจ 'จริงใจ...ผิด...ขอโทษ...แก้ไข'

12 มี.ค. 2559 | 02:00 น.

วิถีทางการทำธุรกิจของแต่ละคนต่างกัน แม้เป้าคือรายได้และผลกำไร แต่จำนวนของรายได้และกำไรสูงๆ ไม่ใช่คำตอบสูงสุดขอนักธุรกิจ "เอ๊าะ - กีรติ เทพธัญญ์" ดารา พิธีกรที่สนใจการทำธุรกิจมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม คณะวิทยาการจัดการ เอกประชาสัมพันธ์

"เอ๊าะ" เล่าว่า ทำธุรกิจกับเพื่อนตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ ไล่มาตั้งแต่ทำรายการทีวี ไปเป็นโปรดิวเซอร์ ทำตัดต่อ หัดเริ่มเขียนสคริป จากอาชีพหลักคือนักแสดง จนมาถึงเบื้องหลัง มาเป็นพิธีกร แล้วก็เริ่มผลิตรายการทีวีของตัวเอง จนกระทั่งเกิดไอเดียว่า การถ่ายรายการที่ต้องไปอาศัยสถานที่ถ่ายทำ ต้อง Barter แลกเปลี่ยนกับโฆษณาในรายการ โดยที่เจ้าของสถานที่ไม่ค่อยได้ลูกค้าเพิ่ม จะได้ก็เพียงภาพลักษณ์ เขาและเพื่อนจึงคิดถึงธุรกิจทัวร์ ที่จะสามารถเข้ามาซัพพอร์ตเจ้าของสถานที่เหล่านี้ได้ดีขึ้น

"แต่พอมาทำจริง มันไม่เกี่ยวกับแนวคิดเดิมเลย มันเป็นอะไรที่ใหม่หมดสำหรับผม"

การทำทัวร์โดยมีดาราเป็นคนพาเที่ยว กลายเป็นอะไรที่ฮิตมากๆ อยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อเอาเข้าจริง ก็อย่างที่นักบริหารหนุ่มคนนี้พูด ว่ามันไม่เหมือนอย่างที่คิดเลย และเมื่อผนวกเข้ากับแนวคิดการทำงานของเขา ทุกอย่างแตกต่างโดยสิ้นเชิง เขาเริ่มต้นทำธุรกิจนี้กับเพื่อน เสนาลิง - สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์ หลังจากที่เคยไปร่วมหุ้นในบริษัททัวร์แห่งหนึ่งมาแล้ว แต่เมื่อมาเปิดเป็น "ลุกซ์ ทราเวล แอนด์ เอเจนซี่" (Luxe Travel And Agency) เขาและเพื่อนแบ่งหน้าที่กันชัดเจน โดยเพื่อนคือผู้ถือหุ้น แต่งานบริหารจัดการทั้งหมด เป็นหน้าที่ของเขา

 

"ผมจะเป็นคนบริหาร ดูแล และจัดการ ของลุกซ์ ทั้งหมด ส่วนเสนาลิงจะเป็นผู้ถือหุ้น เราจะคุยกันแบบนี้ครับว่า ธุรกิจประเภทนี้ ถ้าคนนี้ดูแล คนอื่นห้ามยุ่ง ไม่ว่าการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร จะปันผลได้เมื่อไร จะต้องฟังจากคนที่เป็นผู้บริหารเป็นหลัก ซึ่ง ลุกซ์ ก็จะเป็นผม" ความชัดเจนในความรับผิดชอบ ทำให้ตัดปัญหาเรื่องการทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนไปได้
 

ลุกซ์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ โดยรูปแบบธุรกิจไม่ต่างจากทัวร์ทั่วๆ ไป แต่เมื่อทำได้เพียงปีเดียว ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ก็ค้นพบว่ามันไม่เวิร์ก ยิ่งทำราคายิ่งลง เขาจึงตัดสินใจเลิกทัวร์รูปแบบเดิมๆ หันมาสร้างความต่าง ใส่ความคิดสร้างสรรค์ ทำเป็น TAILOR - MADE ทำเฉพาะกรุ๊ปเหมาตามความต้องการของลูกค้า

"ผมไม่แตกต่าง ผมไม่ได้หนี แต่ผมทำให้มันเหนือ...อย่างเดียว"
 

"เอ๊าะ" บอกว่า ทัวร์ลักษณะนี้มีอยู่ในตลาดไม่มาก เพราะกำไรน้อย และรายละเอียดเยอะ ความคิดของเขาในการทำทัวร์คือ การท่องเที่ยวเป็นประสบการณ์เดียวที่ซื้อมาฝากกันไม่ได้ มันเป็นประสบการณ์ที่ต้องไปด้วยตัวเองต้องรู้สึกเอง เพราะฉะนั้นเมื่อลูกค้าเสียเงินแล้ว เขาและทีมมีหน้าที่ดูแลความฝันของลูกค้าให้ดีที่สุด

เขายอมรับว่าราคาแพ็กเกจทัวร์ของเขาจะแพง ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ แต่อย่างที่เขาบอก...เขาต้องการขายความเหนือ ไม่ใช่ความแตกต่าง เพราะฉะนั้นก็ต้องทำให้ดีที่สุด เขาสอนทีมงานเสมอว่า เมื่อออกเดินทาง พวกเขาคือคนรับใช้สำหรับกรุ๊ปท่องเที่ยว ต้องตื่นก่อน นอนทีหลัง ต้องบริการเสิร์ฟอาหาร ดูแลทุกอย่างให้ลูกค้า และเมื่อเกิดความผิดพลาด ต้องยอมรับ และแก้ไข
 

"วิธีการทำงานทั้งหมด ผมเป็นคนเซตเอง โดยพื้นฐานเราดูจากถ้าพาแม่ไปเที่ยว เราดูแลแม่เราอย่างไร แต่มันไม่ใช่เปิดมาแล้วเป็นแบบนี้เลยนะ ผมแก้ไขมาเรื่อยๆ ลูกค้าเป็นคนสอนผม เรารับผิดชอบ เราแก้ไข ก็เรียนรู้มาเรื่อยๆ วันนี้เราไม่ได้เก่งสุด แต่เราทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น...ดารามาทำธุรกิจนี้ไม่ได้มีผลอะไรเลย ผลอยู่ที่ราคา และรูปแบบ ลุกซ์ จึงใช้ดาราคนอื่นไม่ได้ เพราะดาราแค่มาเที่ยว มาถ่ายรูป มาเดินช็อปปิ้งด้วย แต่ของผม คือ ดาราต้องเสิร์ฟข้าว กินทีหลัง นอนทีหลัง ตื่นก่อน มันคือสตาฟฟ์ พอผมเดินออกจากเมืองไทย ผมคือสตาฟฟ์"


การให้บริการที่เหนือ...ทำให้ตลอด 5 ปีที่เปิดธุรกิจ ลูกค้าเกือบ 100% กลับมาใช้บริการซ้ำ ขณะที่เขามีงานทัวร์เฉลี่ยเดือนละ 2 กรุ๊ป เพราะมีทีมงานจำกัดอยู่แค่ 13 คน และเขาก็ยังไม่คิดจะขยาย แต่เดือนมีนาคมนี้ เขาต้องรับถึง 6 กรุ๊ปทัวร์ เพราะไม่สามารถปฏิเสธลูกค้าได้
 

เมื่อถามว่า คีย์ซักเซสในการทำธุรกิจของเขาคืออะไร "เอ๊าะ" ตอบชัดเจนเลยว่า มันคือความจริงใจ...เพราะเราเจอปัญหาตลอด เมื่อเราจริงใจ ลูกค้าจะรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่ เมื่อผิดพลาด คุณยอมรับและพยายามแก้ไขแล้วอย่างดีที่สุด แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ ลูกค้าก็จะรู้ และตรงนี้แหละที่ทำให้ธุรกิจเดินหน้าไปได้
 

"ผมสวนทางกับการทำธุรกิจ ควรจะกำไรเยอะ ต้นทุนต่ำ ของเราต้นทุนสูง กำไรนิดเดียว แต่เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ผมมีเพื่อนเยอะมาก ผมเชื่อว่า ผมมีเพื่อนช่วยเหลือเยอะ"


พนักงานที่เข้ามาทำงานบริษัทนี้ ทุกคนต้องผ่านการสอบอยู่กับเรา โดยสิ่งที่เจ้าของธุรกิจคนนี้วัด คือ ตรรกะความคิด หัวใจการให้บริการ ความคิดสร้างสรรค์ ผู้บริหารหนุ่มคนนี้บอกเลยว่า ค่าตอบแทนของพนักงานที่นี่สูงกว่าบริษัททัวร์ทั่วไปเท่าตัว แต่ต้องผ่านช่วงทดลองงาน 4 เดือนก่อนนะ จึงได้ตามอัตราเงินเดือนที่เรียก พร้อมสวัสดิการที่ไม่แตกต่างจากบริษัทใหญ่ๆ


ความฝันของนักบริหารหนุ่มวัย 41 ปี คนนี้คือ เขาต้องการสร้างแบรนด์ "ลุกซ์ ทราเวล แอนด์ เอเจนซี่" ให้เดินไปได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องอาศัยชื่อหรือความเป็นดาราของเขา ปีนี้เขาเริ่มวางระบบการบริหารอย่างเป็นรูปเป็นร่าง เพื่อให้บริษัทเดินหน้าไปด้วยระบบของตัวเอง โดยมีเขาเป็นผู้ควบคุมคุณภาพการทำงาน ร่วมกับทีมงาน ซึ่งแน่นอนว่า ความฝันของเขา คือยังอยากทำทั้งงานพิธีกร และการแสดง แต่ด้วยเวลาที่จำกัด และธุรกิจที่กำลังเดินหน้า ในเวลานี้เขาจึงขอทุ่มทุกอย่างให้กับธุรกิจนี้


... การทำธุรกิจ กำไรไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ที่สุดแล้ว ลูกค้าต้องพอใจ นั่นคือความสุขในการทำธุรกิจของ "เอ๊าะ - กีรติ เทพธัญญ์"


เรื่อง :พัฐกานต์ เชียงน้อย

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,138 วันที่ 10 - 12 มีนาคม พ.ศ. 2559