ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อเนื่อง หลังตลาดยังกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อเนื่อง หลังตลาดยังกังวลเกี่ยวกับอุปทานล้นตลาดและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2561
- ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับลดอย่างต่อเนื่อง หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ล้นตลาดจากการคาดการณ์ว่าระดับการผลิตน้ำมันในชั้นหินดินดานในสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า รวมไปถึงความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก
- แหล่งน้ำดิบ Buzzard ในสหราชอาณาจักรได้กลับมาดำเนินการผลิต หลังได้ปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันก่อนหน้านี้ ตามการรายงานของ Nexen ทั้งนี้แหล่งน้ำมันดิบ Buzzard มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 150,000 บาร์เรลต่อวัน
- ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้รายงานตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนหน้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลขึ้นไปแตะระดับ 441.3 ล้านบาร์เรล
+ อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงในม.ค. 62 นี้ หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้ตกลงที่จะลดระดับการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังและพยุงราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนความต้องการน้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้นจากอินโดนิเซีย อย่างไรก็ดีอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังคงล้นตลาด ส่งผลกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลปรับลดลง โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรป ประกอบกับการส่งออกจากประเทศจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ ยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว ประกอบกับ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังตกลงที่จะปรับลดลงกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 62 เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน
ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังกองกำลังติดอาวุธบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างแหล่ง El Sharara กำลังการผลิตกว่า 315,000 บาร์เรลต่อวัน
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
[caption id="attachment_363060" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2561
- ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับลดอย่างต่อเนื่อง หลังนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ล้นตลาดจากการคาดการณ์ว่าระดับการผลิตน้ำมันในชั้นหินดินดานในสหรัฐฯ จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแตะระดับ 8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า รวมไปถึงความต้องการใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงตามเศรษฐกิจโลก
- แหล่งน้ำดิบ Buzzard ในสหราชอาณาจักรได้กลับมาดำเนินการผลิต หลังได้ปิดซ่อมบำรุงท่อขนส่งน้ำมันก่อนหน้านี้ ตามการรายงานของ Nexen ทั้งนี้แหล่งน้ำมันดิบ Buzzard มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 150,000 บาร์เรลต่อวัน
- ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) ได้รายงานตัวเลขคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ในสัปดาห์ก่อนหน้า คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลขึ้นไปแตะระดับ 441.3 ล้านบาร์เรล
+ อย่างไรก็ตาม อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงในม.ค. 62 นี้ หลังกลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้ตกลงที่จะลดระดับการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มลง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นร้อยละ 1 ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก เพื่อเป็นการลดปริมาณน้ำมันดิบคงคลังและพยุงราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนความต้องการน้ำมันเบนซินที่ปรับเพิ่มขึ้นจากอินโดนิเซีย อย่างไรก็ดีอุปทานน้ำมันเบนซินที่ยังคงล้นตลาด ส่งผลกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลปรับลดลง โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรป ประกอบกับการส่งออกจากประเทศจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ธ.ค.
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 55-60 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับลดลง หลังโรงกลั่นในสหรัฐฯ ยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว ประกอบกับ ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังตกลงที่จะปรับลดลงกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 62 เป็นเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน
ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หลังกองกำลังติดอาวุธบุกยึดแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ อย่างแหล่ง El Sharara กำลังการผลิตกว่า 315,000 บาร์เรลต่อวัน
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
[caption id="attachment_363060" align="aligncenter" width="335"]
