ยอดจดทะเบียนธุรกิจ พ.ย. ลด 11%! "ก่อสร้าง-อสังหาฯ-ร้านอาหาร" ยังฮิต

19 ธ.ค. 2561 | 02:12 น.
พาณิชย์ เผย ยอดจดทะเบียนธุรกิจ 11 เดือน โตใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ขณะที่ เดือน พ.ย. ลดลง 11% ชี้! เป็นไปตามฤดูกาล เนื่องจากเป็นช่วงใกล้สิ้นปี ชี้ 3 ธุรกิจ "ก่อสร้างอาคาร อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคาร/ร้านอาหาร" ยังเป็นธุรกิจยอดฮิตคนแห่จดทะเบียนธุรกิจ

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจและการให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดือน พ.ย. 2561 ว่า มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ เดือน พ.ย. จำนวน 5,539 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2561 จำนวน 6,197 ราย ลดลงจำนวน 658 ราย คิดเป็น 11% ซึ่งเป็นสถานการณ์ปกติของการจดทะเบียนในช่วงสิ้นปี ที่มีลักษณะตามแนวโน้มฤดูกาลที่ลดลง และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2560 จำนวน 6,597 ราย ลดลงจำนวน 1,058 ราย คิดเป็น 16% เนื่องจากปีที่ผ่านมา การจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นมากจากมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลของกรมสรรพากร

 

[caption id="attachment_363227" align="aligncenter" width="333"] วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า[/caption]

สำหรับประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 534 ราย คิดเป็น 10% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 381 ราย คิดเป็น 7% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 176 ราย คิดเป็น 3% สำหรับมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ในเดือน พ.ย. 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 75,167 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2561 จำนวน 19,962 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 55,205 ล้านบาท คิดเป็น 3 เท่า และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2560 จำนวน 68,462 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 6,705 ล้านบาท คิดเป็น 10%

ทั้งนี้ ธุรกิจที่ดำเนินกิจการ ณ วันที่ 30 พ.ย. 2561 มีจำนวน714,478 ราย มูลค่าทุน 17.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 183,014 ราย คิดเป็น 25%, บริษัทจำกัด จำนวน 530,246 ราย คิดเป็น 74.21% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,218 ราย คิดเป็น 0.17% ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ เดือน พ.ย. มีจำนวน 2,482 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2561 จำนวน 2,166 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 316 ราย คิดเป็น 15% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2560 จำนวน 2,306 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 176 ราย คิดเป็น 8% ซึ่งเป็นไปในลักษณะตามแนวโน้มฤดูกาล ที่จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี โดย ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 207 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 141 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 64 ราย คิดเป็น 3% โดยมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการในเดือน พ.ย. 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,754 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค. 2561 จำนวน 10,088 ล้านบาท ลดลงจำนวน 1,334 ล้านบาท คิดเป็น 13% และเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2560 จำนวน 7,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,236 ล้านบาท คิดเป็น 16%

สำหรับภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจตลอดปี 2561 ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. - พ.ย. 61) มีการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวนทั้งสิ้น 68,007 ราย ซึ่งมีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจจัดตั้งใหม่ส่วนใหญ่ยังเป็นธุรกิจในกลุ่มก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร เป็นหลัก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ที่มีการสนับสนุนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และการขยายตัวของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน นอกจากนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย โดยภาพรวมตั้งแต่ ม.ค. - ต.ค. 2561 ยังคงเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา รวมทั้งเสถียรภาพทางด้านการเงิน ที่สามารถคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายทางการเงินไว้ที่ 1.5% (ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย) ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการสนับสนุนการเจริญเติบโตและการขยายตัวของธุรกิจจัดตั้งใหม่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา


90289

"จำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. - พ.ย. 61) ลดลงเล็กน้อย จำนวน 205 ราย คิดเป็น 0.30% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. - พ.ย. 60) จำนวน 68,212 ราย เนื่องจากในปี 2560 ภาครัฐได้มีมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมให้บุคคลธรรมดาประกอบธุรกิจในรูปของนิติบุคคล โดยการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้าให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2560 แต่สำหรับในปี 2561 เพิ่งมีการประกาศใช้มาตรการดังกล่าว เมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในเดือน ธ.ค. 2561 ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได้" นายวุฒิไกร กล่าว

ทั้งนี้ กรมได้เร่งดำเนินการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้ามาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งจะสนับสนุนและส่งเสริมให้นิติบุคคลมีศักยภาพในการทำธุรกิจ ทั้งด้านการบริหารองค์กร การจัดการทางการเงิน การตลาด โดยจะบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยธุรกิจ และ Startup ต่าง ๆ เพื่อให้นิติบุคคลเข้าถึงการใช้งานเทคโนโลยี โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป และองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ ซึ่งการเป็นนิติบุคคลจะได้รับสิทธิประโยชน์และมีโอกาสเพิ่มขึ้น เช่น ด้านการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน การมีโอกาสเข้าถึงมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจอีกด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว