MGเสริมทัพ"ปิกอัพ ใหม่" ยึดไทยผลิตป้อนตลาดพวงมาลัยขวา

21 ธ.ค. 2561 | 01:52 น.
“เอ็มจี”ได้ฤกษ์ขายปิกอัพในไทยวางแผนเปิดตัวครึ่งปีหลัง 2562 พร้อมขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานจังหวัดชลบุรี เพื่อส่งออกไปยังตลาดรถพวงมาลัยขวาในเอเชีย โอเชียเนีย

ตลาดรถยนต์เมืองไทยในปี 2561 กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ควรจะเป็น โดยยอดขาย 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย. 61) ทำได้ 928,514 คัน เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าถึงสิ้นปีนี้ตัวเลขตลาดรวมจะทะลุล้านแน่นอน

 

MP32-3428-AA

เมื่อแยกดูเฉพาะเซ็กเมนต์ปิกอัพ 1 ตัน 11 เดือนที่ผ่านมาขายไป 395,554 คัน เพิ่มขึ้น 22.8 % โดยโตโยต้างัดทุกกระบวนท่าเพื่อให้ “ไฮลักซ์ รีโว่” กลับมารั้ง ตำแหน่งเบอร์ 1 ของตลาดนี้แทนที่ “อีซูซุ ดีแมคซ์” ซึ่ง รีโว่ ทำได้ 133,823 คัน เพิ่มขึ้น 40.4%และดีแมคซ์ 130,813 คัน เพิ่มขึ้น 8.0 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีที่ผ่านมา

ส่วนตำแหน่งเบอร์รองที่ขับเคี่ยวไม่แพ้กันคือ ฟอร์ด เรนเจอร์ ที่มียอดขาย 50,562 คัน ตามด้วยมิตซูบิชิ ไทรทัน 35,483 คัน นิสสัน นาวารา 22,232 คัน เชฟโรเลต โคโลราโด 15,643 คัน และ มาสด้า บีที 50 โปร 6,540 คัน ที่ต่างทำยอดขายเติบโตกันถ้วนหน้า

ในตลาดปิกอัพ 1 ตัน ยังเตรียมต้อนรับน้องใหม่จากค่าย “เอ็มจี” ซึ่งล่าสุดยืนยันว่าเตรียมเปิดตัวช่วงครึ่งปีหลัง 2562

สำหรับปิกอัพของเอ็มจี คือ “แม็กซัส รุ่น ที60” ที่ทำตลาดในเมืองจีน วางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้าที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด การทำตลาดในไทยจะประกอบที่โรงงานใหม่ของเอ็มจี (SAIC กับ CP ลงขันร่วมกัน) ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี ซึ่งทุนยานยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน มั่นใจว่าการใช้แบรนด์ “เอ็มจี” จะเปิดโอกาสทางธุรกิจได้ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปตลาดรถพวงมาลัยขวาในบางประเทศในเอเชียโอเชียเนีย อาจจะใช้แบรนด์ “แม็กซัส” หรือ ออสเตรเลียภายใต้แบรนด์ LDV

YYX_0889 YYX_0891 YYX_0546 “แผนงานในครึ่งปีแรกเกี่ยวกับรถรุ่นใหม่จะยังไม่มี แต่สำหรับครึ่งปีหลังเราจะมีรถรุ่นใหม่อย่างปิกอัพเข้ามาทำตลาดอย่างแน่นอน โดยตอนนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ”นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า

การตัดสินใจเข้ามารุกตลาดที่ถือเป็นเรดโอเชียน ในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นงานที่ยาก และ ท้าทาย แต่เอ็มจี ก็มั่นใจด้วยคุณสมบัติของตัวผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งแผนการตลาดที่เตรียมการไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบหลังบ้าน” ที่เพิ่งเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการครบ 100 แห่งครอบ คลุมทั่วประเทศ และยังมีเป้าหมายที่จะขยายเป็น 140 แห่ง

ไม่เพียงเท่านั้นยังชูบริการหลังการขาย “แพสชัน เซอร์วิส”ที่ประ กอบไปด้วยการรับประกันสูงสุด 4 ปี หรือ 1.2 แสนกิโลเมตร , บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ROADSIDE ASSISTANCE 24 ชั่วโมง,บริการให้คำปรึกษาผ่านคอลล์ เซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง ผ่านหมายเลข 1267, รถบริการตรวจเช็กเคลื่อนที่ (Mobile Service) เพื่อดูแลรักษารถยนต์ตามระยะทางนอกสถานที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และบริการรถสำรองใช้ระหว่างรอซ่อม

090861-1927-9-335x503-335x503-2-335x503

ขณะเดียวกันยังตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันด้วยการทำแอพพลิเคชัน MG Thai ที่รองรับทั้งระบบไอโอเอสและแอนดรอยด์ โดยจะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการค้นหาศูนย์บริการที่อยู่ใกล้ที่สุด และทำการนัดหมายเพื่อเข้ารับบริการล่วงหน้า พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้เข้ารับบริการและสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมาย

ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของน้องใหม่แบรนด์นี้ ไม่นับรวมกับแผนงานที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนกับบีโอไอ ในการผลิตรถยนต์ในโครงการรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเอ็มจีเอาจริงเอาจังในทุกตลาดในประเทศไทย

ทั้งนี้ ยอดขายของเอ็มจีตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.ย. 61 มีทั้งสิ้น 1.75 หมื่นคัน เติบโตขึ้น 108% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดเอ็มจี แซดเอส ที่ทำยอดขายได้ 11,139 คัน ขณะที่เป้าหมายการขายของเอ็มจีในปีนี้อยู่ที่ 3 หมื่นคัน

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,428 วันที่  20 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว