ดาวโจนส์ปิดร่วงเกือบ 500 จุด วิตกเศรษฐกิจชะลอ-เงินดอลล์แข็งค่า

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงหนักเกือบ 500 จุด เมื่อคืนวันศุกร์ (14 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก จีน ยุโรป และสหรัฐ และการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลดลง 496.87 จุด หรือ -2.02% ยืนที่ 24,100.51 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 50.59 จุด หรือลบ 1.91% ปิดที่ 2,599.95 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 159.66 จุด หรือ -2.26% ปิดที่ 6910.67 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงหนัก หลังจากจีนได้เปิดเผยตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกต่ำกว่าคาด ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ ลงเหลือ 1.9% จากเดิมที่ 2.0% และปรับลดตัวเลขคาดการณ์ปีหน้า ลงเหลือ 1.7% จากคาดการณ์เดิมที่ 1.8% และรายงานดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นในเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.6 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน จากเดือนพ.ย.ที่แตะระดับ 54.7 โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจร่วงลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2559

การซื้อขายเมื่อคืนวันศุกร์ ( 14 ธ.ค.)ยังได้รับปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐด้วย โดยนักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของดอลลาร์อย่างใกล้ชิด เพราะหากดอลลาร์แข็งค่ามากเกินไปแล้ว อาจกระทบต่อกำไรของบริษัทที่ทำธุรกิจทั่วโลก

[caption id="attachment_361901" align="aligncenter" width="335"] [/caption]