นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผลจากการหารือร่วมกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กขป.5 และนำรายละเอียดข้อหารือไปประชุมร่วมกับอธิบดีกรมประมง เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ในเรื่องการนำเรือประมงออกนอกระบบ คาดว่าจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะมีการนำข้อสรุปนำเสนอ นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาในการประชุมคณะกรรมการกรั่นกรองการนำเรือประมงออกนอกระบบ ในวันที่ 17 ธ.ค. 2561 จะมีแนวทางดังที่คาดว่าจะดำเนินการ ดังนี้
"เรือประมงแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ เรือขาวแดง 679 ลำ และเรือประมงที่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์และประสงค์จะออกนอกระบบ โดยจะพิจารณางบประมาณให้เรือกลุ่ม 679 ลำ ที่มาลงชื่อขายเรือก่อน วิธีการนำเรือออกนอกระบบมี 4 วิธี เพื่อให้เจ้าของเรือเลือกในแบบฟอร์ม ว่า ต้องการเลือกวิธีใด โดยเลือกเพียงช่องเดียวเท่านั้น ได้แก่ 1.การชดเชย (ซื้อเรือ) ใช้ราคากลางประเมินปี 2558 เงินชดเชยไม่เกิน 50% ตามสภาพเรือ 2.การชดเชยใช้ราคาประเมินปี 2558 เงินชดเชย 30% ราคาเหมา 3.สนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ โดยรัฐอาจชดเชยดอกเบี้ยให้ และ 4.อำนวยความสะดวกในการขายเรือไปต่างประเทศ"
ทั้งนี้ ทางกรมประมงจะมีการประกาศแจ้งกำหนดระยะเวลา สถานที่ ให้เจ้าของเรือทั้ง 2 กลุ่ม ไปลงชื่อและกรอกแบบฟอร์มเพื่อขายเรือ โดยจะมีการติดรายชื่อเรือจำนวน 679 ลำ ไว้ที่สำนักงานประมงจังหวัดและสำนักงานเจ้าท่า ในวันที่ 19 ธ.ค. 2561 เพื่อให้ชาวประมงได้ตรวจสอบสิทธิ์ โดยมีระยะเวลาในการลงชื่อเพื่อขายเรือตามรายละเอียด ดังนี้
1.เรือขาวแดง จำนวน 679 ลำ ที่ประสงค์จะขายเรือคืนให้รัฐ หรือ ให้รัฐชดเชย เยียวยา ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่ประมงจังหวัด ระหว่างวันที่ 19-28 ธ.ค. 2561 และ 2.เรือที่มีใบอนุญาตทำการประมง ให้แจ้งความประสงค์จะขายเรือคืนให้รัฐ ให้แจ้งความประสงค์ได้ที่ในระหว่างวันที่ 19-11 ม.ค. 2562 (
ยังไม่รู้ราคา) ทั้งนี้ ในข้อเสนอต่าง ๆ เหล่านี้จะมีการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อีกครั้ง ในวันที่ 17 ธ.ค. 2561
นอกจากนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับชาวประมง ทางรัฐบาลจะมีการจัดตั้งกองทุนบริหารจัดการประมงทะเล โดยจะเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลและมีความพยายามในการผลักดันให้เสร็จโดยเร็ว รวมถึงเรื่องการไปรับอนุสัญญา ซี188 นั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการชี้แจง โดยเฉพาะกรมเจ้าท่าจะต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะมีผลกระทบกับเรือประมงเก่าหรือไม่ ในส่วนโครงสร้างเรือ ในส่วนกระทรวงแรงงานให้พิจารณายกเลิกกฎหมายที่ออกเกินอนุสัญญา เช่น เรื่องการจ่ายเงินผ่านบัญชีธนาคารเพียงอย่างเดียว ให้สามารถจ่ายเงินสดได้ เรื่องอายุขั้นต่ำ ก็ขอให้ทบทวนรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแรงงานที่ไปอยู่ในกฎหมายประมง ออกมาอยู่ที่กฎหมายแรงงานประมงฉบับเดียว รวมทั้งรับจะไปเจรจาหารือกับ กสทช. อีกครั้ง ซึ่งเมื่อ 2 เดือนก่อน เคยมีการหารือไปแล้ว ให้สามารถนำวิทยุไปขึ้นทะเบียน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมและไม่ถูกลงโทษ
อย่างไรก็ดี ยังมีเรื่องการช่วยเหลือเรือประมงพื้นบ้านที่ถูกยกเลิกทะเบียนเรือ ซึ่งมีชาวประมงมายื่นอุทธรณ์ขอคืนสิทธิ์ทะเบียนเรือต่อกรมเจ้าท่าบางส่วน ซึ่งได้รับการพิจารณาอุทธรณ์ยกเลิกการเพิกถอนไปแล้ว 953 ลำ และบางส่วนอยู่ระหว่างการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ในเร็ว ๆ นี้ จะมีการวัดขนาดเรือพื้นบ้าน หากวัดแล้วมีขนาดเกิน 10 ตันกรอส ทางกรมประมงและกรมเจ้าท่าจะเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมแบบมีส่วนร่วมกับชาวประมงพื้นบ้านเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือต่อไป