‘ชาติศิริ’ชี้ลงทุนรัฐหนุนเศรษฐกิจโต

16 ธ.ค. 2561 | 12:51 น.
 

“ชาติศิริ”มั่นใจปัจจัยพื้นฐานประเทศ รองรับความผันผวนได้ เชื่อโครงการลงทุนรัฐจะหนุนให้เศรษฐกิจโตระยะยาว มองปีหน้ายังเติบโตได้ประมาณ 4% ด้านธุรกิจแบงก์ในจีนไม่กระทบจากเหตุสงครามการค้า ระบุ 11 เดือนสินเชื่อและเงินฝากขยายตัวกว่า 20% ดันพอร์ตคงค้างแตะ 4.4 หมื่นล้านบาท

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2562 มีโอกาสจะเติบโตประมาณ 4% เพราะได้รับการสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานหลายอย่างที่รัฐบาลได้วางไว้ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศเติบโตได้ดีและรองรับความผันผวนที่จะเกิดขึ้นได้ และยังมีโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมที่จะสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะข้างหน้าได้ รวมถึงภาคส่งออกที่จะหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้

[caption id="attachment_361506" align="aligncenter" width="503"] ชาติศิริ โสภณพนิช ชาติศิริ โสภณพนิช[/caption]

ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพได้จัดสัมมนาประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม มีการเสวนาอนุกรมความรู้ครั้งที่ 9 ความก้าวหน้าและความท้าทายบนเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 โดยนายชาติศิริระบุว่า ธนาคารกรุงเทพเข้าไปลงทุนในจีน โดยเฉพาะเมื่อมีเส้นทางสายไหมศตวรรษที่ 21 หรือ One Belt One Road จึงเป็นโอกาสของประเทศอาเซี่ยนในการเชื่อมให้นักลงทุน ทำการค้าและธุรกิจ สามารถดึงแรงงานถ่ายเทได้ครอบคลุมหลายประเทศ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ริเริ่มโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะเชื่อมกับเส้นทางสายไหมให้เจิดจรัสได้อย่างแน่นอน

สำหรับผลกระทบจากสงครามการค้าต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคารนั้นมองว่า ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งที่ดี รัฐบาลดำเนินนโยบายที่สามารถเดินหน้าได้ โดยเห็นสัญญาณการลงทุนในจีนเป็นระยะๆ
และการเข้ามาลงทุนในเมืองไทยด้วย ซึ่งแนวโน้มจะเป็น Globalization และ Regionalisation ส่วนภาวะการค้าที่เกิดความตึงเครียด ทุกคนระมัดระวังการเจรจาต่อรอง เพื่อไม่ให้มีผล
กระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเชื่อว่า จะมีข้อสรุปที่ดีในอนาคต

“ผลต่อไทยนั้น ด้วยนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลได้วางไว้ ก็เตรียมพร้อมให้เราสามารถรองรับสถานการณ์ต่างๆได้ดี จึงไม่น่ากังวลแต่อย่างใด ซึ่งโครงการลงทุนต่างๆที่รัฐบาลวางไว้ คิดว่าจะสามารถดำเนินได้ต่อเนื่อง 3-5 ปีข้างหน้าและปูพื้นฐานให้กับประเทศของเราไปอีกระดับหนึ่งและมีบทบาทที่ดีในภูมิภาคได้”นายชาติศิริกล่าวและว่า ส่วนของ Digital Disruptive ในระบบธนาคารพาณิชย์ จะต้องเร่งปรับปรุง ซึ่งธนาคารให้ความสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีอยู่แล้ว

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-13

นายสุวัชชัย ทรงวานิชประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) จำกัดกล่าวว่า ธนาคารได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า ลูกค้ามีศักยภาพ ส่วนใหญ่ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ และธนาคารก็ให้การสนับสนุน เพื่อให้ก้าวผ่าน สถานการณ์นี้ไปให้ได้ และเชื่อว่า มาตรการกีดกันทางการค้าเป็นความเกี่ยวเนื่องระยะยาว ที่ต้องใช้เวลา ซึ่งธนาคารได้จัดทำแผนรองรับหลายแผน หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง แต่ปัจจุบันยังใช้วิธีติดตาม และให้การสนับสนุนลูกค้าอย่างใกล้ชิด

สำหรับปีหน้าแม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว แต่แนวโน้มการทำธุรกิจในจีนของธนาคารยังมีโอกาส โดยเห็นได้จากความต้องการสินเชื่อช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ขยายตัวมากกว่า 20% และในส่วนของเงินฝากก็เติบโตสอดคล้องกัน ปัจจุบันธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 1,300-1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือ 44,800ล้านบาท (คำนวณจาก 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) ส่วนแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)ยังอยู่ในระดับตํ่าโดยกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวนแล้ว

หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ฉบับที่ 3,427 วันที่  16 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561

595959859