โบนัสปีใหม่รัฐแค่กระตุกศก. นักธุรกิจลุ้นอัดฉีดปลุกกำลังซื้อต่อเนื่องถึงเลือกตั้ง
นักธุรกิจหัวเมืองชี้รัฐบาลแจก 500 บาทแค่ช่วยค่าใช้จ่ายรายวัน ทำบรรยากาศซื้อขายกระเตื้อง แต่ยอดขายห้างยังไม่ปรับเพิ่มเด่นชัด หวังรัฐอัดฉีดต่อเนื่องช่วงปีใหม่ถึงเลือกตั้ง เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นเต็มที่
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหมุนเวียนไปกดเงินสดด้วยความยินดี หลังจากรัฐทยอยโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 500 บาท ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยทุกสาขาเนืองแน่นด้วยผู้คน นายสมชาย เทครัว อายุ 50 ปี อาชีพ สามล้อรับจ้าง ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวหลังได้เงินสดแล้วว่า ดีใจเป็นที่สุด และฝากขอบคุณรัฐบาล ที่ให้เป็นของขวัญกับคนจน เป็นเงินที่ช่วยเหลือตนและครอบครัว เครือญาติ ตลอดจนเพื่อนๆ ได้อย่างมาก
ด้านผู้ประกอบการมองว่า เงินดังกล่าวช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคประจำวันให้ประชาชน นายไพจิตร มานะศิลป์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โดยภาพรวมกำลังซื้อเริ่มกระเตื้องขึ้นบ้าง และคาดว่าจะเห็นผลในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยครั้งนี้รัฐบาลให้เป็นเงินสด นำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ถือเป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านมือประชาชนโดยตรง ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น แต่ไม่หวือหวามากนัก จากที่ปีนี้กำลังซื้อประชาชนค่อนข้างซบเซา ธุรกิจชะลอตัว เนื่องจากเงินในกระเป๋าประชาชนมีน้อย คนไม่อยากเป็นหนี้ระยะยาว จึงชะลอการใช้จ่าย
สอดคล้องกับนายจักริน เชิดฉาย ประธานกรรมการบริษัท หมอยาพลาซ่า จำกัด ร้านค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า บรรยากาศการจับจ่ายของประชาชนดีขึ้นเล็กน้อย โดยยอดขายจากทั้ง 9 สาขา ในช่วง 10 วันที่รัฐบาลโอนเงินเข้าบัตร เพิ่มขึ้นประมาณ 5% แม้แต่สาขาที่เคยขายดีไม่มีคู่แข่งในพื้นที่ยอดก็ไม่โตเท่าไหร่ เชื่อว่าเม็ดเงิน 1,000 บาทช่วยเหลือค่าเดินทางไปโรงพยาบาลให้ผู้ถือบัตรอายุ 65 ปีขึ้นไปนั้น ก็จะเพิ่มยอดขายได้ไม่มากเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเม็ดเงินโอนผ่านบัตรครั้งนี้ลงถึงรากหญ้าจริง และประชาชนกลุ่มนี้นำมาใช้จ่ายจริงเพราะส่วนใหญ่จะไม่เก็บอยู่แล้ว เนื่องจากรายได้ที่ได้รับก็ไม่พอให้เก็บออม ทำให้การอัดฉีดกับกลุ่มนี้ทำให้เม็ดเงินกระจายในระบบ กระตุ้นต่อเนื่องทำให้กระแสใช้จ่ายปีใหม่คึกคักขึ้น
นายไพจิตรมองต่อว่า ในต้นปีหน้าการเลือกตั้งเป็นกระแสที่มาช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัว เงินสะพัดจากการใช้จ่ายรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งแน่ชัด ประชาชนมั่นใจมากขึ้นเพราะรอมานาน ถ้ามีเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว ประกอบกับปีนี้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดีทุกตัว ทั้งมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำให้กำลังซื้อกลุ่มนี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดไปได้
ส่วนกลุ่มสินค้าชิ้นใหญ่มูลค่าสูงยังไม่ได้รับอานิสงส์ นายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญมอเตอร์เชียงใหม่ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าเขตเชียงใหม่-ลำพูน กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้อัดฉีดเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่มีรายได้น้อย ในส่วนของรถจักรยาน ยนต์ไม่ค่อยจะมีผลเท่าไหร่ เพราะว่าจริงแล้วเงินที่ได้รับมาเมื่อเทียบกับจำนวนหัวหรือจำนวนคนก็ไม่ได้เป็นเงินที่จำนวนเยอะมาก แต่ก็จะเอามาใช้จ่ายในเรื่องของการอุปโภคบริโภคเป็นหลักก่อน ยังไม่เพิ่มความสามารถในการซื้อรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด
ด้านนางระพีภัทร ปลื้มพิทักษ์กุล ผู้จัดการบริษัท เชียงใหม่สยามทีวี จำกัด ยักษ์ใหญ่วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีของภาคเหนือ กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลให้ของขวัญปีใหม่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นแนวโน้มดีๆ ที่เป็นปัจจัยบวกกับประชาชนที่ได้รับการจัดสรรเงินไปให้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้นได้ จากที่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมาจีดีพีไทยกลับชะลอตัวลงไป
ส่วนสินค้าของสยามทีวีนั้นสวนกระแส สามารถตุนยอดขายในช่วงไตรมาส 2 และ 3 จากเทศกาลฟุตบอลโลก ประกอบกับราคาโทรทัศน์ความละเอียด 4K ปรับลดลง จึงทำยอดขายได้ค่อนข้างมาก ทำให้มีอัตราเติบโตกว่า 15% และเดิมคาดว่าจะมีมาตรการช็อปช่วยชาติช่วงปลายปีมารับต่อ แต่ปรากฏว่าแคมเปญที่ออกมาไม่ตรงกับกลุ่มสินค้าของสยามทีวี คือให้เฉพาะกลุ่มสินค้ายางรถยนต์ หนังสือ และสินค้าโอท็อป พอกระตุ้นได้
ช่วงท้ายปีสยามทีวีจึงออกแคมเปญ งาน สยามทีวีบิ๊กโบนัส บิ๊กเซลล์ ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงของเทศกาลของแจกของขวัญ ของรางวัล กับหน่วยงานราชการ ห้างร้าน เอกชนรวมไปถึงผู้บริโภคทั่วไป น่าจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจและบรรยากาศซื้อขายคึกคักขึ้น
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,427 วันที่ 16-19 ธันวาคม 2561
[caption id="attachment_362480" align="aligncenter" width="335"]
[/caption]
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหมุนเวียนไปกดเงินสดด้วยความยินดี หลังจากรัฐทยอยโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 500 บาท ต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยทุกสาขาเนืองแน่นด้วยผู้คน นายสมชาย เทครัว อายุ 50 ปี อาชีพ สามล้อรับจ้าง ชาวบ้านในเขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวหลังได้เงินสดแล้วว่า ดีใจเป็นที่สุด และฝากขอบคุณรัฐบาล ที่ให้เป็นของขวัญกับคนจน เป็นเงินที่ช่วยเหลือตนและครอบครัว เครือญาติ ตลอดจนเพื่อนๆ ได้อย่างมาก
ด้านผู้ประกอบการมองว่า เงินดังกล่าวช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคประจำวันให้ประชาชน นายไพจิตร มานะศิลป์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า โดยภาพรวมกำลังซื้อเริ่มกระเตื้องขึ้นบ้าง และคาดว่าจะเห็นผลในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยครั้งนี้รัฐบาลให้เป็นเงินสด นำไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ ถือเป็นการอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านมือประชาชนโดยตรง ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น แต่ไม่หวือหวามากนัก จากที่ปีนี้กำลังซื้อประชาชนค่อนข้างซบเซา ธุรกิจชะลอตัว เนื่องจากเงินในกระเป๋าประชาชนมีน้อย คนไม่อยากเป็นหนี้ระยะยาว จึงชะลอการใช้จ่าย
สอดคล้องกับนายจักริน เชิดฉาย ประธานกรรมการบริษัท หมอยาพลาซ่า จำกัด ร้านค้าปลีกท้องถิ่นรายใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า บรรยากาศการจับจ่ายของประชาชนดีขึ้นเล็กน้อย โดยยอดขายจากทั้ง 9 สาขา ในช่วง 10 วันที่รัฐบาลโอนเงินเข้าบัตร เพิ่มขึ้นประมาณ 5% แม้แต่สาขาที่เคยขายดีไม่มีคู่แข่งในพื้นที่ยอดก็ไม่โตเท่าไหร่ เชื่อว่าเม็ดเงิน 1,000 บาทช่วยเหลือค่าเดินทางไปโรงพยาบาลให้ผู้ถือบัตรอายุ 65 ปีขึ้นไปนั้น ก็จะเพิ่มยอดขายได้ไม่มากเช่นกัน
อย่างไรก็ตามเม็ดเงินโอนผ่านบัตรครั้งนี้ลงถึงรากหญ้าจริง และประชาชนกลุ่มนี้นำมาใช้จ่ายจริงเพราะส่วนใหญ่จะไม่เก็บอยู่แล้ว เนื่องจากรายได้ที่ได้รับก็ไม่พอให้เก็บออม ทำให้การอัดฉีดกับกลุ่มนี้ทำให้เม็ดเงินกระจายในระบบ กระตุ้นต่อเนื่องทำให้กระแสใช้จ่ายปีใหม่คึกคักขึ้น
นายไพจิตรมองต่อว่า ในต้นปีหน้าการเลือกตั้งเป็นกระแสที่มาช่วยกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัว เงินสะพัดจากการใช้จ่ายรณรงค์หาเสียงของพรรคการเมืองเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้งแน่ชัด ประชาชนมั่นใจมากขึ้นเพราะรอมานาน ถ้ามีเลือกตั้งวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ก็จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวเร็ว ประกอบกับปีนี้ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในเกณฑ์ดีทุกตัว ทั้งมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาประชาชนส่วนใหญ่ทำการเกษตร ทำให้กำลังซื้อกลุ่มนี้จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดไปได้
ส่วนกลุ่มสินค้าชิ้นใหญ่มูลค่าสูงยังไม่ได้รับอานิสงส์ นายณรงค์ คองประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญมอเตอร์เชียงใหม่ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าเขตเชียงใหม่-ลำพูน กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลได้อัดฉีดเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือผู้ที่มีรายได้น้อย ในส่วนของรถจักรยาน ยนต์ไม่ค่อยจะมีผลเท่าไหร่ เพราะว่าจริงแล้วเงินที่ได้รับมาเมื่อเทียบกับจำนวนหัวหรือจำนวนคนก็ไม่ได้เป็นเงินที่จำนวนเยอะมาก แต่ก็จะเอามาใช้จ่ายในเรื่องของการอุปโภคบริโภคเป็นหลักก่อน ยังไม่เพิ่มความสามารถในการซื้อรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด
ด้านนางระพีภัทร ปลื้มพิทักษ์กุล ผู้จัดการบริษัท เชียงใหม่สยามทีวี จำกัด ยักษ์ใหญ่วงการเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าไอทีของภาคเหนือ กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลให้ของขวัญปีใหม่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นแนวโน้มดีๆ ที่เป็นปัจจัยบวกกับประชาชนที่ได้รับการจัดสรรเงินไปให้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักขึ้นได้ จากที่ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมาจีดีพีไทยกลับชะลอตัวลงไป
ส่วนสินค้าของสยามทีวีนั้นสวนกระแส สามารถตุนยอดขายในช่วงไตรมาส 2 และ 3 จากเทศกาลฟุตบอลโลก ประกอบกับราคาโทรทัศน์ความละเอียด 4K ปรับลดลง จึงทำยอดขายได้ค่อนข้างมาก ทำให้มีอัตราเติบโตกว่า 15% และเดิมคาดว่าจะมีมาตรการช็อปช่วยชาติช่วงปลายปีมารับต่อ แต่ปรากฏว่าแคมเปญที่ออกมาไม่ตรงกับกลุ่มสินค้าของสยามทีวี คือให้เฉพาะกลุ่มสินค้ายางรถยนต์ หนังสือ และสินค้าโอท็อป พอกระตุ้นได้
ช่วงท้ายปีสยามทีวีจึงออกแคมเปญ งาน สยามทีวีบิ๊กโบนัส บิ๊กเซลล์ ไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นช่วงของเทศกาลของแจกของขวัญ ของรางวัล กับหน่วยงานราชการ ห้างร้าน เอกชนรวมไปถึงผู้บริโภคทั่วไป น่าจะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจและบรรยากาศซื้อขายคึกคักขึ้น
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,427 วันที่ 16-19 ธันวาคม 2561
[caption id="attachment_362480" align="aligncenter" width="335"]
