ผมยังจำครั้งที่
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย นำเข้า
“เอ็กซ์4” (X4) เจเนอเรชันแรก(F26) มาขายช่วง 3 ปีที่แล้ว อารมณ์ตอนนั้นตื่นเต้นเฮฮาเพราะรถสวย เส้นสายเฉียบคมมีมัดกล้าม หรือย่อส่วนมาจาก
“เอ็กซ์6” พร้อมราคาที่ต่างกันกว่า 2 ล้านบาท
ตอนนั้นถ้าเทียบในกลุ่มเอสยูวีสไตล์คูเป้ท้ายลาด ตัว
“จีแอลซี คูเป้” ยังไม่เกิดครับ ไม่มีคู่เทียบตรงๆ บีเอ็มดับเบิลยู จึงกล้าตั้งราคา X4 M Sport ณ ตอนนั้นสูงเกือบ 5 ล้านบาท ซึ่งแพงกว่า
“เอ็กซ์3” (โฉมเก่า) ที่เป็นรุ่นประกอบในประเทศ 1.5 ล้านบาท
ทว่า ไม่นานเมื่อเอสยูวีรุ่นนี้(F26) ขึ้นไลน์ประกอบในประเทศ และกดราคาใหม่ราวกับมีเวทมนตร์ ขายเพียง 3.999 ล้านบาท ขณะที่ “เอ็กซ์4โฉมใหม่” เจเนอเรชันที่ 2 (G02) เพิ่งนำเข้ามาเปิดตัวช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ก็ยึดราคาเดิมเอาไว้ก่อน(ส่วนหนึ่งอาจจะอ้างเรื่องการปรับโปรแกรม
BSI ใหม่ ที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำราคาได้)
นั่นหมายถึง “เอ็กซ์4 โฉมใหม่” ราคาถูกกว่าเดิม 1 ล้านบาท หากเทียบจากรุ่นนำเข้าด้วยกัน และถ้าเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศในปีหน้า เชื่อว่าราคาต้องลดลงมาอีกอย่างน้อย 3 แสนบาท(พร้อมปรับออพชันหรือไลน์อัพใหม่) หรือซื้อได้ในราคา 3 ล้านบาทกลางๆเท่านั้น
…เอาละครับเป็นเรื่องของอนาคต แต่ใครอยากได้รถเร็วเอามาขับเท่ๆก่อน ก็จัดไป 4 ล้านบาทจะได้สบายใจ
ขณะที่ จีแอลซี คูเป้ 250 4MATIC AMG Plus ซึ่งเป็นรุ่นประกอบในประเทศ ตอนนี้ขายแต่รุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ราคา 4.06 ล้านบาท (แต่รุ่นดีเซล 250d ยังมีใน จีแอลซี ตัวถังปกติ) แพงกว่า X4 xDrive20d M Sport เสียอีก
“เอ็กซ์4โฉมใหม่” บีเอ็มดับเบิลยูจัดให้อยู่ในกลุ่ม Sports Activity Coupe (SAC) รถตระกูล X ที่ตัวเลขลงท้ายด้วยเลขคู่ ส่วนตัวถังทรงเหลี่ยมลงท้ายด้วยเลขคี่อย่าง X1,3,5 เขาเรียกเท่ๆว่า Sports Activity Vehicle (SAV) (แต่ผมเรียกมันเป็นรถประเภทเอสยูวี เพื่อความเข้าใจตรงกัน)
โฉมใหม่รหัส G02 ดูออกแบบสมส่วนลงตัวมากขึ้น ด้วยเส้นสายที่มีมัดกล้าม และโป่งล้อที่หนาขึ้น เมื่อเทียบกับ X3 ที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกัน ขณะที่ตัวถังใหญ่ขึ้นทุกมิติ โดยยาวกว่าเดิม 81 มิลลิเมตร(ยากกว่า X3 โฉมใหม่ 44 มม.) กว้างขึ้น 37 มิลลิเมตร สูงขึ้น 3 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อกว้างขึ้น 54 มิลลิเมตร
ขณะเดียวกันยังประสบความสำเร็จจากการลดนํ้าหนักตัวลงได้ 50 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับโฉมเดิม โดยรุ่นนำเข้ามาทำตลาดช่วงแรก X4 xDrive20d M Sport มาพร้อมชุดแต่ง M Sport รอบคัน ที่เซตช่วงล่างมาหนึบจากโรงงาน หรือแบบ M Sport ประกบล้ออัลลอย 19 นิ้ว และยางรันเฟลต Pirelli Cintuarato P7 ขนาด 245/50 R19 (ช่วงล่างแบบอิสระด้านหน้าแบบดับเบิลจอยต์ สปริง สตรัต และหลังแบบ 5 จุดยึด)
ด้านการควบคุมและช่วงล่างหนักแน่นกว่า X3 ชัดเจน และสปอร์ตกว่า จีแอลซี คูเป้ ซึ่งบุคลิกสอดคล้องไปกับรูปลักษณ์ เหมาะกับคนที่ต้องการใช้รถครอบครัวหรือมีกิจกรรมการงานที่ขนสัมภาระเยอะ แต่ไม่ชอบความจืดชืดนุ่มนวลในรูปแบบเอสยูวีเดิมๆ
ขับทางไกลใช้ความเร็วสูง ยิ่งขับยิ่งมัน ด้วยเครื่องยนต์บล็อกพิมพ์นิยม B47 ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin-scroll Turbo ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ขุมพลังกับเกียร์ชุดนี้จับคู่กันมานาน สมรรถนะเหมาะสมลงตัว จังหวะต้องการอัตราเร่งกะทันหัน ช่วยคิดช่วยปลดปล่อยกำลังได้รวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ ยิ่งได้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive มาช่วยสนับสนุน ช่วยให้การขับขี่ทางไกลความเร็วสูงมั่นใจ และคล่องแคล่วเมื่อใช้ความเร็วตํ่า
X4 xDrive20d M Sport เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ไว้ 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 213 กม./ชม. เมื่อเทียบตัวเลขกับ X3 รุ่นเครื่องยนต์เดียวกัน ทำได้ 8.1 วินาที และ 210 กม./ชม.ตามลำดับ ซึ่งไม่มีผลกับสมรรถนะการขับขี่จริง ที่สำคัญยังมีอัตราบริโภคนํ้ามันเฉลี่ยเท่ากันที่ 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร
ส่วนการออกแบบภายในห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู “เอ็กซ์4 โฉมใหม่” อารมณ์ยังดูไม่หนีไปจากรุ่นเก่ามากนัก แต่โดดเด่นด้วยหลังคากระจกแบบพาโนรามา จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน M Sport พร้อมแพดเดิลชิฟต์ การควบคุมการสั่งงานฟังก์ชันต่างๆด้วยการเคลื่อนไหวของมือ หรือ Gesture Control
ส่วนเบาะเป็นหนังแท้ และเบาะด้านหลังสามารถพับได้แบบ 40:20:40 และเมื่อพับลงแล้วจะเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระรวมได้ 1,430 ลิตร (จาก 525 ลิตร) สามารถใส่จักรยานคันโตๆ วางนอนแบบไม่ต้องถอดล้อได้สบาย
อย่างไรก็ตาม เบาะนั่งของ X4 จะออกแนวสปอร์ตนิดๆ และในส่วนของผู้โดยสารด้านหลัง พนักพิงหลังยังตั้งชันไปหน่อย(นั่งหลังเกือบตรง)
ด้านฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่ดูดีมีมูลค่า ไล่ตั้งแต่ ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย และปรับการทํางานไฟสูงอัตโนมัติ ระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติโดยไม่ใช้มือ (Trunk Hands-free Access) พร้อมกุญแจรีโมตระบบแบบมีหน้าจอสัมผัส Display Key
รวบรัดตัดความ...“เอ็กซ์4 โฉมใหม่” ราคา 3.999 ล้านบาท(CBU) เป็นรถที่จะมาเขย่าหัวใจและโขกกระเป๋าเงินของคนที่ชอบความทะมัดทะแมง สมรรถนะสปอร์ตกว่าเอสยูวีทั่วๆไปในขนาดตัวถังที่กำลังพอดีกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และวิ่งทางไกลออกต่างจังหวัด สมรรถนะยังยอดเยี่ยมและประหยัดนํ้ามันพอตัวกับดีเซล 2.0 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มั่นใจกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive ที่สำคัญราคาไม่โหดเหมือนก่อน หรือรุ่นประกอบในประเทศที่จะมาปีหน้า ราคาเริ่มต้นต้องมี 3 ล้านบาทกลางๆครับ
โดย กรกิต กสิคุณ
หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,427 วันที่ 16 - 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561