บริษัทชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น Google, Microsoft, IBM และ Apple ได้มีการลงทุนอย่างมหาศาลในการวิจัยและพัฒนาด้าน AI จนเป็นที่ยอมรับว่า บริษัทเหล่านี้เป็นบริษัทชั้นนำของโลกในด้าน AI แต่อย่างไรก็ตาม มีหลักฐานและสิ่งบ่งชี้หลายอย่างได้เห็นอย่างชัดเจนว่า ประเทศจีนกำลังมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาด้าน AI ตามติดอย่างรดต้นคอในบริษัทต่าง ๆ เช่น Alibaba, Tencent และ Baidu เป็นต้น จนมีแนวโน้มว่า ประเทศจีนอาจจะแซงหน้าประเทศสหรัฐอเมริกาในด้าน AI ภายในปี 2030 ด้วยการลงทุน AI ที่เกี่ยวข้องกับไมโครชิพทางด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีรถไฟฟ้า ด้วยจำนวนเงินถึง 300 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ
เป้าหมายของประเทศจีนที่ต้องการสนับสนุนส่งเสริมอุตสากรรมด้าน AI ถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2030 โดยรัฐบาลจีนได้ส่งเสริมบริษัทสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ชื่อว่า SenseTime ด้วยการระดมทุนถึง 600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยการร่วมมือกับ บริษัท Alibaba ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนในด้าน AI ที่สูงที่สุดในโลกตั้งแต่ที่เคยเกิดขึ้น
แต่กลับตรงกันข้ามในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังประสบปัญหากับนโยบายด้านการสนับสนุนทุนการทำวิจัยในรัฐบาลของ Trump ซึ่ง The American Association for the Advancement of Science ได้รายงานว่า แผนการที่รัฐบาลได้ลดการสนับสนุนทุนการวิจัยลง 15% ในปี 2018 และยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่สนับสนุนที่จะนำแรงงานที่ขาดแคลนที่เป็นคนต่างชาติเข้ามาในประเทศ จึงยิ่งทำให้ปัญหาการขาดแคนแรงงานทักษะชั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนวัตกรรม AI จึงประสบความขาดแคนอย่างรุนแรง จนอาจทำให้ Silicon Valley ไม่สามารถที่จะรั้งตำแหน่งอันดับหนึ่งในด้าน AI ได้อีกต่อไป
สิ่งบ่งชี้ที่ชัดเจนที่ได้เปิดเผยโดยเอกสารของทำเนียบขาว National Artificial Intelligence Research and Development Strategic Plan in AI เห็นว่า ประเทศจีนกำลังแซงหน้าประเทศสหรัฐอเมริกาในด้าน "Deep Learning" ไปแล้ว
ปรากฎการณ์ความก้าวหน้าของ AI ที่เริ่มคืบคลานเข้ามาสู่การผลิตอาวุธที่ทำงานแบบอัตโนมัติ (Lethal Autonomous Weapons) อาจจะเป็นต้นเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 3 ตามที่ Elon Musk ได้เคยกล่าวไว้ และไม่เว้นประธานาธิบดีปูตินแห่งประเทศรัสเซียได้เคยกล่าวไว้ว่า AI คือ อนาคตไม่เพียงแต่เป็นอนาคตของรัสเซียแต่เป็นอนาคตของมวลมนุษยชาติซึ่งมันมาพร้อมกับโอกาสและภัยคุกคามที่ยากที่จะคาดการณ์ ซึ่งใครก็ตามที่เป็นผู้นำทางด้าน AI ก็จะกลายเป็นผู้ที่คุมกฎของโลกนี้นั่นเอง