กรุงไทยลุยตรวจคุณภาพเหมือง ยันอยากเห็นเอิร์ธเดินหน้าต่อได้

12 ธ.ค. 2561 | 08:52 น.
 

กรุงไทยเผยอยู่ระหว่างศึกษารายงานคำพิพากษาศาล หลังอีวายรายงานมีเหมืองแร่ พร้อมเดินหน้าตรวจคุณภาพถ่านหิน-กระบวนการโลจิสติกส์พาณิชย์ ยันอยากเห็นบริษัทเอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ เดินหน้าต่อได้ ส่วนกรณีผู้ถือหุ้นกู้ร้องเรียน ลั่นแบงก์เป็นหนึ่งในผู้เสียหาย พร้อมเดินหน้าตามกลไกอยู่แล้ว

S__32563371 นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีบริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ตอนนี้ธนาคารกรุงไทยกำลังศึกษาคำพิพากษาของศาลอยู่ เนื่องจากธนาคารเพิ่งได้รับรายละเอียดของคำพิพากษามา ซึ่งธนาคารก็ต้องดูทางเลือกต่างๆ แต่โดยหลักการธนาคารต้องการให้บริษัทกลับมาแข็งแรง เช่นเดียวกับธนาคารเจ้าหนี้รายอื่นที่ต้องการให้เอิร์ธกลับมาแข็งแรงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ธนาคารยังต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดของรายงานที่บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผนได้มีการรายงานเพิ่มต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ถึงความมีอยู่จริงของสิทธิ 1 ใน 2 เหมืองถ่านหินที่อินโดนีเซีย คือ EHM (PT Emma’s Hiram Malia) และ JAB (PT Jags. Aretha Bars) ซึ่งธนาคารต้องทำความเข้าใจ เนื่องจากเหมืองแร่ที่ได้มานั้นหลังจากตอนเอาเงินกู้ธนาคารไป ซึ่งธนาคารต้องเข้าไปดูคุณภาพของเหมือง คุณภาพของถ่านหินว่ามีค่าความร้อนเท่าไร กระบวนการโลจิสติกส์ไปสู่กระบวนการพาณิชย์ เช่น จะต้องขนถ่านหินไปที่ท่าเรือไกลเท่าไร ประเด็นเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธนาคารต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพราะเป็นเรื่องใหม่

595959859 ส่วนกรอบเวลาการพิจารณารายละเอียดคำพิพากษานั้น ธนาคารไม่ได้มีกรอบเวลาชัดเจน แต่หาก EARTH สามารถเดินหน้าได้ ธนาคารสามารถปล่อยกู้อีกครั้งได้หากมีความพร้อม แต่ทั้งหมดต้องสามารถฟื้นฟูกิจการได้ก่อน เนื่องจากมีผู้ส่วนได้ส่วนเสีย (สเตตโฮเดอร์) หลายภาคส่วน ธนาคารจึงต้องดูให้ครบรอบด้าน อย่างไรก็ดี ภายหลังศาลไม่รับฟ้อง ธนาคารได้มีการประสานงานกับธนาคารอื่นๆ ตลอดเวลา และมีการทำการศึกษา ทำความเข้าใจ แต่ก็อาจเข้าใจแตกต่างกัน แต่ตอนจบทุกธนาคารก็อาจเทคเอกชั่นยังไงก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง

“ระหว่างกลุ่มมเจ้าหนี้คุยกันอยู่ และดูว่าทิศทางแล้ว บริษัทสามารถกลับมาเดินหน้าธุรกิจ ได้หรือไม่ และทรัพยสินหลักขณะนี้คือถ่านหินที่ธนาคารต้องไปทำความเข้าใจว่า ถ่านหินที่มีคุณภาพเป็นอย่างไร มีมูลค่าอย่างไร เพราะเท่าที่รับรายงานมา ยังไม่มีการรายงานเรื่องมูลค่า ซึ่งเราต้องคุยกับเจ้าหนี้มาโดยตลอด ก็มีการประสานอยู่แล้ว โดยรวม แต่คงไม่มีอะไรทางการ”

นายผยง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับกรณีที่ก่อนหน้านี้ที่มีผู้ร้องเรียนธนาคารให้รับผิดชอบเรื่องหุ้นกู้ในฐานะผู้จัดจำหน่าย จำนวน 2,300 ราย มูลค่าหนี้เฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ 5,500 ล้านบาทนั้น โดยขบวนการธนาคารต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นไปตามกลไกอยู่แล้ว  และขอยืนยันว่า ธนาคารกรุงไทย ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายเช่นเดียวกัน และเป็นรายแรกที่เดินหน้าไปขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานรัฐ เพื่อที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริง อะไรหลายอย่าง รวมถึงได้ไปยื่นกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพราะธนาคารเป็นหน่วยงานรัฐในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ธนาคารไม่มีอำนาจในการสืบสวน สอบสวน สืบค้นอะไรทั้งสิ้น จึงต้องเข้าใจบทบาทของธนาคารก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มีการประสานกันหมด

[caption id="attachment_360258" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]