BGRIM ออกกรีนบอนด์ 5 พันล้าน!!
"บี.กริม เพาเวอร์" รุกเป็นผู้นำพัฒนาพลังงานสะอาด ออกหุ้นกู้ "กรีนบอนด์" 5 พันล้าน ADB สนับสนุน 100% รายแรกของประเทศไทย
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 'BGRIM' เปิดเผยว่า BGRIM มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมพลังงานและถือได้ว่าเป็นผู้นำในภาคเอกชนรายหนึ่งของประเทศและในระดับภูมิภาค ทั้งยังตระหนักถึงการมีส่วนร่วมต่อประชาคมโลกที่จะร่วมส่งเสริมดูแลสภาพภูมิอากาศของโลก จึงได้ออกหุ้นกู้กรีนบอนด์ มูลค่า 5 พันล้านบาท (155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อายุ 5 ปี และอายุ 7 ปี และเป็นครั้งแรกของหุ้นกู้ "กรีนบอนด์" ที่ได้รับการรับรองโดย Climate Bonds Initiative จะออกในประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเอดีบีอย่างเต็มที่ ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่าอย่างยิ่งที่จะช่วยสะท้อนความเชื่อมั่น ตลอดจนสร้างความมั่นใจได้ว่า หุ้นกู้ฯ ดังกล่าวมีการจัดทำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากล สอดคล้องกับมาตรฐานเกณฑ์การออกพันธบัตรอาเซียนกรีนบอนด์ (ASEAN Green Bond Standards) ที่จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วภูมิภาคอาเซียน ของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association : ICMA) ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์อันยาวนานที่เราได้ทำขึ้นจากการทำธุรกรรมหลายอย่างต่อกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ระหว่าง บี.กริม และเอดีบี
ทั้งนี้ ปัจจุบัน BGRIM มีโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 33 แห่ง แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 2,045 เมกะวัตต์ และมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกกว่า 1,081 เมกะวัตต์ รวมจำนวนกำลังการผลิตติดตั้งที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว 3,126 เมกะวัตต์
"การออกหุ้นกู้ "กรีนบอนด์" ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน หรือ พลังงานสะอาด จาก 10% เป็น 30% ให้สำเร็จในปี 2564"
ด้าน นายไมเคิล แบร์โรว์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชน เอดีบี กล่าวว่า การออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดพันธบัตรสีเขียว (กรีนบอนด์) ในไทย ที่สำคัญเงินทุนที่ได้จะนำมาใช้สำหรับโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างวิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และยังจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ตั้งไว้ 20% ได้ โดยไร้ข้อจำกัดของเงื่อนไข ภายในปี 2573
"ถือเป็นการการลงทุนในกรีนบอนด์ครั้งที่ 2 ของเอดีบี หลังจากปี 2559 ธนาคารได้สนับสนุนโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ Tiwi และ Makban ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นโครงการเสนอขายกรีนบอนด์ครั้งแรกของประเทศ และครั้งนี้เป็นการติดต่อทางธุรกิจครั้งที่ 3 ระหว่างเอดีบีและ บี.กริม โดยปี 2560 เอดีบีซื้อหุ้นสามัญ IPO ของ บี.กริม และต้นปีนี้ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ เพื่อสนับสนุนการขยายสู่ตลาดพลังงานทดแทนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ บี.กริม ด้วย"
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ 'BGRIM' เปิดเผยว่า BGRIM มีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรมพลังงานและถือได้ว่าเป็นผู้นำในภาคเอกชนรายหนึ่งของประเทศและในระดับภูมิภาค ทั้งยังตระหนักถึงการมีส่วนร่วมต่อประชาคมโลกที่จะร่วมส่งเสริมดูแลสภาพภูมิอากาศของโลก จึงได้ออกหุ้นกู้กรีนบอนด์ มูลค่า 5 พันล้านบาท (155 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อายุ 5 ปี และอายุ 7 ปี และเป็นครั้งแรกของหุ้นกู้ "กรีนบอนด์" ที่ได้รับการรับรองโดย Climate Bonds Initiative จะออกในประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนเอดีบีอย่างเต็มที่ ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่าอย่างยิ่งที่จะช่วยสะท้อนความเชื่อมั่น ตลอดจนสร้างความมั่นใจได้ว่า หุ้นกู้ฯ ดังกล่าวมีการจัดทำแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในระดับสากล สอดคล้องกับมาตรฐานเกณฑ์การออกพันธบัตรอาเซียนกรีนบอนด์ (ASEAN Green Bond Standards) ที่จะใช้เกณฑ์เดียวกันทั่วภูมิภาคอาเซียน ของสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association : ICMA) ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์อันยาวนานที่เราได้ทำขึ้นจากการทำธุรกรรมหลายอย่างต่อกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ระหว่าง บี.กริม และเอดีบี
ทั้งนี้ ปัจจุบัน BGRIM มีโรงไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 33 แห่ง แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 15 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกว่า 2,045 เมกะวัตต์ และมีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนาอีกกว่า 1,081 เมกะวัตต์ รวมจำนวนกำลังการผลิตติดตั้งที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว 3,126 เมกะวัตต์
"การออกหุ้นกู้ "กรีนบอนด์" ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาศักยภาพการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ ที่จะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทน หรือ พลังงานสะอาด จาก 10% เป็น 30% ให้สำเร็จในปี 2564"
ด้าน นายไมเคิล แบร์โรว์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายปฏิบัติการภาคเอกชน เอดีบี กล่าวว่า การออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาตลาดพันธบัตรสีเขียว (กรีนบอนด์) ในไทย ที่สำคัญเงินทุนที่ได้จะนำมาใช้สำหรับโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างวิถีสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และยังจะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ตั้งไว้ 20% ได้ โดยไร้ข้อจำกัดของเงื่อนไข ภายในปี 2573
"ถือเป็นการการลงทุนในกรีนบอนด์ครั้งที่ 2 ของเอดีบี หลังจากปี 2559 ธนาคารได้สนับสนุนโครงการพลังงานความร้อนใต้พิภพ Tiwi และ Makban ในฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นโครงการเสนอขายกรีนบอนด์ครั้งแรกของประเทศ และครั้งนี้เป็นการติดต่อทางธุรกิจครั้งที่ 3 ระหว่างเอดีบีและ บี.กริม โดยปี 2560 เอดีบีซื้อหุ้นสามัญ IPO ของ บี.กริม และต้นปีนี้ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้ เพื่อสนับสนุนการขยายสู่ตลาดพลังงานทดแทนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ของ บี.กริม ด้วย"
