อยู่กับปัจจุบัน : จับตา ‘ทักษิณ-อภิสิทธิ์’ พลิก‘เกม’สู้ศึกเลือกตั้ง 62

11 ธ.ค. 2561 | 10:04 น.
 

จับตา-01 จับ-04 จะเกิดอะไร?ขึ้นเมื่อ 2 พรรค (เคย) ใหญ่อย่างเพื่อไทย-กับประชาธิปัตย์ “ตีรวน” จะไม่ไปประชุมร่วม กกต.-กับคสช. เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหน.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ประกาศ (กร้าว) ว่า “..ไม่มาเท่ากับว่าไม่รับกติกา เหมือนกับนักมวยเวลาจะขึ้นชกกรรมการเรียกมารับฟังกติกา แต่นักมวยทั้งสองฝ่ายไม่มาก็ไม่ต้องชกกัน”

วันดังกล่าว กำหนดให้ “บิ๊กตู่” เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคการเมือง เพื่อหารือเกี่ยวกับการปลด “ล็อก” การเมือง-อนุญาตให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต..แต่ปรากฏว่ามีหลายพรรคประกาศจะไม่เข้าร่วมประชุม
544 สัปดาห์นี้ จะ “โฟกัส” เฉพาะ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ปัจจุบันประสบปัญหาอีนุงตุงนัง รวมทั้งยังมีอะไรๆ “คุกรุ่น” เป็นคลื่นใต้นํ้าอยู่ภายในพรรคค่อนข้างชัดเจน และได้รับผลกระทบจากการถูกพรรค “ไดโว่” คือ พลังประชารัฐ (พปชร.) “ดูด” อดีตส.ส. ไปจำนวนมาก ซึ่งย่อมแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562

แม้ว่าเมื่อเริ่มเข้าโหมด “ศึกเลือกตั้ง” ใหม่ๆ พรรคเพื่อไทย (พท.) จะเดิน “เกม” ด้วยมุกเก่าๆ เดิมๆ ด้วยการเปิดเผย “โพลล์” สำรวจความคิดเห็นที่เอ่ยอ้าง ว่าจัดสำรวจโดยบริษัทต่างประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมระบุด้วยว่าพรรคจะได้ส.ส. (อย่างน้อย) จำนวน 290 คนจาก ส.ส.ของ 2 สภา (รวม 500 คน) ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมาก...

เนื่องจากกฎหมายเลือกตั้ง (ฉบับใหม่) ตามรัฐธรรรมนูญ 2560 ที่บางคนให้สมญาว่า ระบบเลือกตั้งแบบ “จัดสรรปันส่วน-ผสม” ทุกคะแนนจะถูกเอามาใช้คำนวณพิจารณาจำนวนส.ส.ของทุกพรรคด้วย ส่งผลให้ไม่มีพรรคการเมืองใด? ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ หรือชนะคู่แข่งแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเช่นการเลือกตั้งทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

[caption id="attachment_359653" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

เปรียบเทียบ “ตัวเลข” ที่บอกว่า พรรคเพื่อไทยจะกวาดที่นั่ง ส.ส.ได้อย่างถล่มทลาย 290 ที่นั่ง ตามที่ “สื่อ” บางฉบับตีปี๊บ เทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 มีผู้มาใช้สิทธิ 35 ล้านคน (จากผู้มีสิทธิ 46.9 ล้านคน) มาใช้สิทธิ 75% เพื่อไทยได้คะแนนทั้งหมด 15.7 ล้านคะแนน คิดเป็น 44% ของผู้มาใช้สิทธิ ได้ ส.ส.ทั้งหมด 265 ที่นั่ง จาก ส.ส.ของ 2 สภา 500 คน

ฐานคะแนนต่อส.ส. 1 คนจะอยู่ที่ 70,000 คะแนน และคะแนนของเพื่อไทย 15.7 ล้านคะแนน จะได้ ส.ส.รวม 224 ที่นั่ง แต่ภายใต้ระบบเลือกตั้งที่ใช้ในปี 2554 เพื่อไทยได้ส.ส.รวมกัน 265 ที่นั่ง (มากกว่าที่ควรจะเป็นถึง 41 ที่นั่ง) หากตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งในปี 2562 ประมาณ 51.7 ล้านคน (ตามข้อมูล กกต. ปลายปี 60)

ตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง 75% (เท่ากับปี 2554) จะมีผู้มาใช้สิทธิ ประมาณ 38.7 ล้านคน คะแนนเสียง เฉลี่ยต่อส.ส. 1 คนเท่ากับ 77,000 คน (38,700,000 หารด้วยจำนวนส.ส. 500 คน หากเพื่อไทยและพรรคแยกร่าง หรือพรรคเครือข่ายระบอบทักษิณ ได้ 290 ส.ส. (ตามผลโพลล์สำรวจข้างต้น) เพื่อไทยก็จะต้องได้คะแนนเสียงทั้งหมด 22.3 ล้านคะแนน (290 คูณด้วย 77,000)
97 จากสถานการณ์ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) เผชิญอยู่ในตอนนี้ กล่าวคือ ส.ส.ระดับบิ๊กเนมในหลายพื้นที่ทั้งถูก “ดูด” และตัดสินใจย้ายพรรค รวมทั้งยังมีปัญหาขัดแย้ง “คุกรุ่น” เป็นคลื่นใต้นํ้าภายในพรรค รวมทั้งยังมีประเด็นโกง “จำนำข้าว รอบ 2” เป็นกระแสซัดกระหนํ่าเข้าใส่พรรคอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลต่อคะแนนความนิยมของพรรคอย่างปฏิเสธไม่ได้...คะแนนเสียงที่เพิ่มขึ้น 13% จึง “มโน” เอาเองล้วนๆ

หันกลับไปที่พรรคการเมืองเก่าแก่ “ประชาธิปัตย์” บ้าง สถานการณ์ตอนนี้ ก็ไม่แตกต่างใดๆ กับพรรคเพื่อไทย (พท.) นั่นคือ ได้รับผลกระทบจากพรรค “ไดโว” คือ พลังประชารัฐ (พปชร.) “ดูด” อดีตส.ส.ไปจำนวนมาก นอกนั้นยังเกิดปัญหา “ขัดแย้ง” ขึ้นภายในพรรคเช่นกัน และดูเหมือนว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน จะเหนื่อยหนักกว่า “นายใหญ่-ดูไบ” หลายเท่า...

เฉพาะอย่างยิ่งการถูกพรรค “นั่งร้าน” รัฐบาล-คสช. กับพรรคแยกร่าง-พรรคเครือข่าย “เพื่อไทย” ล้อมกรอบในสมรภูมิเลือกตั้งที่เคยเป็นฐานที่มั่น “หลัก” สำคัญ ถูกท้าทายอย่างหนักจาก 2 “ขั้ว-พรรค” เฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้และกทม. ส่งผลให้ “ขุนพล” พรรค ถูกตรึงในพื้นที่จนไปช่วยลูกพรรคในพื้นที่อื่นๆ ไม่ได้เหมือนการเลือกตั้งทุกครั้ง

ทั้งหลาย-ทั้งปวงนั้น ส่งผลโดยตรงต่อศึกเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ทั้งสิ้น เฉพาะอย่างยิ่งการจัดตั้ง “รัฐบาลใหม่” หลังการเลือกตั้ง เพราะแค่โหมโรง หลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะ 2 พรรคใหญ่ คือพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็ออกอาการไม่ยอมรับ “กติกา” ออกมาให้เห็นแล้ว...ถึงตรงนี้ จึงต้องจับตา “ทักษิณ-อภิสิทธิ์” ว่าจะใช้ “กล” ศึกอะไร? มาพลิก “เกม” การเมืองที่กำลังเพลี่ยงพลํ้าอยู่ในตอนนี้

| คอลัมน์ : อยู่กับปัจจุบัน 
| โดย : พงษ์ศักดิ์ ศรีสด 
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 14 ฉบับ 3425 ระหว่างวันที่ 9-12 ธ.ค.2561 

595959859